xs
xsm
sm
md
lg

ไทรอัมพ์ฯ เผย 5 โมเดลใหม่ล่าสุด ตระกูลบอนเนวิลล์ 2021 พร้อมรองรับมาตรฐาน EURO 5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ภายใต้ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิก ปี 2021 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ “บอนเนวิลล์ ที120 และบอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” (Bonneville T120, Bonneville T120 Black) 1,200ซีซี ตามมาด้วย “บอนเนวิลล์ ที100” (Bonneville T100) “สตรีท ทวิน” (Street Twin) และรุ่น “สตรีท ทวิน โกลด์ไลน์ ลิมิเต็ด อิดิชัน” (Street Twin Gold Line Limited Edition) 900ซีซี ซึ่งทั้งหมดได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่เพื่อยกระดับขีดความสามารถและเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ รวมถึงความพิเศษของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงตามมาตรฐาน EURO 5 สามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง ตลอดจนรูปลักษณ์และสไตล์การตกแต่งที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยความพิถีพิถันและสร้างขึ้นอย่างประณีต เพื่อคงไว้ซึ่ง DNA อันโดดเด่นของต้นแบบรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษระดับตำนานได้อย่างครบครัน

โดยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ปี 2021 รุ่นใหม่ล่าสุด “บอนเนวิลล์ ที120” ราคาอย่างเป็นทางการ 557,000 บาท “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” ราคา 557,000 บาท “บอนเนวิลล์ ที100” ราคา 457,000 บาท “สตรีท ทวิน” ราคา 395,000 บาท และรุ่น “สตรีท ทวิน โกลด์ไลน์ ลิมิเต็ด อิดิชัน” ราคา 420,000 บาท พร้อมเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ

Bonneville T120
เริ่มกันที่รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่เป็นนิยามของรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ ได้แก่ “บอนเนวิลล์ ที120” (Bonneville T120) และ “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” (Bonneville T120 Black) ปี 2021 ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ และเพิ่มความสามารถในการขับขี่ที่ง่ายดายทำให้บังคับรถได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงการอัพเกรดครั้งสำคัญ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง 1200ซีซี อันเป็นเอกลักษณ์ มีน้ำหนักเบาลงจากการใช้เพลาข้อเหวี่ยงที่เบาลงผสานเข้ากับคลัตช์ และเพลาบาลานเซอร์ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ ส่งผลให้แรงเฉี่อยนั้นลดลง ช่วยให้เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้มีการตอบสนองที่รวดเร็วและทันใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยให้แรงบิดสูงสุดถึง 105 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 3,500 รอบต่อนาที และกำลังสูงสุด 80 แรงม้า ที่ 6,550 รอบต่อนาที

ขณะที่ด้านขีดความสามารถในการขับขี่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วยเบรก Brembo พร้อมจานเบรกคู่ และ
คาลิปเปอร์เบรกคู่ แบบ 2 สูบรุ่นใหม่ที่สเปคสูงขึ้น ด้านความปลอดภัยและการควบคุมก็ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้รุ่นล่าสุด ผสานล้ออะลูมิเนียมรุ่นใหม่ ที่มีล้อหน้าขนาด 18 X 2.75 นิ้ว และล้อหลังขนาด 17 X 4.25 นิ้ว ตลอดจนน้ำหนักรถที่เบาลง 7 กิโลกรัมช่วยให้ Bonneville T120 มีความคล่องตัวขณะขับขี่และมีการบังคับรถดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้านเทคโนโลยีได้ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ควบคู่ไปกับโหมดการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นทั้ง Road และ Rain นอกจากนี้ยังมีระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรง ระบบป้องกันการโจรกรรม ช่องชาร์จไฟ USB ตลอดจนไฟหน้าเดย์ไลท์ LED สุดโดดเด่น

สำหรับรูปลักษณ์และสไตล์การตกแต่งมีการออกแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งเรือนไมล์ทรงนาฬิกาคู่ มาพร้อมหน้าปัด 3D สุดพรีเมียมแบบใหม่ พร้อมโลโก้ Bonneville แบบดั้งเดิม จอแสดงผลดิจิทัลมัลติฟังก์ชันแสดงข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่สามารถควบคุมได้ผ่านปุ่มบนแฮนด์ที่ใช้งานได้สะดวกและง่ายดาย ตัวถังเป็นทรงพิเศษตามแบบฉบับ Bonneville ที่มาพร้อมแผ่นรองเข่า พร้อมตราสัญลักษณ์ 3 ขีดที่ทำจากโลหะชุบโครเมียมแบบใหม่ ตลอดจนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาของ “บอนเนวิลล์ ที120” ด้วยชิ้นส่วนชุบโครเมียมระดับพรีเมียมติดอยู่รอบคัน ทั้งบนกระจก ตัวยึดบังโคลน ไฟเลี้ยว ท่อเก็บเสียง แฮนด์รถ กรอบไฟหน้า และฝาปิดถังน้ำมัน โดยเบาะนั่งตกแต่งด้วยขอบสีตัดกัน และมาพร้อมโลโก้ Triumph ปั๊มนูน ในขณะที่ “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดันยิ่งขึ้น มีการเก็บรายละเอียดด้วยการใช้ชิ้นส่วนสีดำสนิทสุดพรีเมียมหลากหลายจุด อาทิ ล้อ ฝาครอบเครื่องยนต์ กระจก กรอบไฟหน้า ไฟเลี้ยว และท่อไอเสีย รวมถึงเบาะนั่งยาวสีน้ำตาลที่สุดเรียบหรู พร้อมโลโก้ Triumph ปั๊มนูน นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมีอุปกรณ์เสริมแท้จากไทรอัมพ์สำหรับตกแต่งรวมกว่า 116 รายการ ที่จะมอบประสบการณ์แต่งรถจักรยานยนต์ได้ตามสไตล์ต้องการเฉพาะตัวของผู้ขับขี่

โดย “บอนเนวิลล์ ที120” มาพร้อม 3 สีที่ดูดีมีสไตล์ให้เลือก ได้แก่ สี Jet Black สี Cordovan Red / Silver Ice และ Cobalt Blue /Silver Ice ซึ่งจะมาพร้อมเส้นตัดขอบสีทองที่วาดด้วยมือ สนนราคา 557,000 บาท ส่วน “บอนเนวิลล์ ที120 แบล็ค” มาพร้อม 2 สีเข้มดุดัน ได้แก่ สี Jet Black และ สี Matt Jet Black /Matt Graphite ที่ดูล้ำสมัยยิ่งขึ้น พร้อมเส้นขอบตัดสีเงินวาดด้วยมือ สนนราคา 557,000 บาท


Bonneville T100_Carnival Red
ขณะที่ “บอนเนวิลล์ ที100” (Bonneville T100) มาพร้อมแรงบิดมหาศาลและสมรรถนะสุดเร้าใจ มอบความมั่นใจในการบังคับรถให้ผู้ขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง 900ซีซี ที่ได้รับการอัพเกรด ให้กำลังสูงสุดที่ 65 แรงม้า ที่ 7,400 รอบต่อนาที ให้กำลังสูงขึ้นจากรุ่นก่อน 10 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร ที่ 3,750 รอบต่อนาที ซึ่งตอบสนองได้ไวขึ้น และมีรอบเครื่องยนต์สูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 500 รอบต่อนาที ด้านความสามารถในการบังคับรถดียิ่งขึ้นด้วยน้ำหนักรถที่เบาลง 4 กิโลกรัม พร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้า Brembo แบบ 2 สูบ และโช้คหน้าแบบใหม่ที่สเปคสูงขึ้น พร้อมโช้คคู่หลัง และล้อซี่ลวดสไตล์คลาสสิก 32 ก้าน เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่และการบังคับรถที่ง่ายขึ้น อีกทั้งมอบความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้รุ่นล่าสุด เบาะนั่งนุ่มสบายสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยความสูงเพียง790 มิลลิเมตร จึงขึ้นลงรถได้อย่างสะดวกเมื่อรวมกับตำแหน่งยื่นคร่อมรถที่แคบลงของ T100 ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยในขณะที่รถหยุดเคลื่อนที่ รวมถึงระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงเพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางทั้งระยะใกล้และไกล ตลอดจนสามารถใช้กุญแจปลดล็อคเบาะนั่ง เพื่อใช้งานช่องชาร์จไฟ USB ใต้เบาะนั่งได้อย่างง่ายดาย

Bonneville T100_Jet Black
ทางด้านรูปลักษณ์มีสไตล์การตกแต่งและการเก็บรายละเอียดที่ดียิ่งขึ้น โดยมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์ทรงนาฬิกาแบบใหม่ พร้อมโลโก้ Bonneville และตัวอักษรแบบดั้งเดิม จอแสดงผลมัลติฟังก์ชันที่สามารถควบคุมได้สะดวกผ่านปุ่มเลื่อนที่ติดตั้งไว้บนแฮนด์รถ ตัวรถใช้สไตล์การตกแต่งที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบอนเนวิลล์รอบคัน ตั้งแต่ขอบเบาะสีตัดกัน ไปจนถึงแผ่นรองเข่าบนช่วงเว้าถังน้ำมัน บังโคลนหลังเหล็ก อีกทั้งยังมีกระจก แฮนด์รถ กรอบไฟหน้า และฝาปิดถังน้ำมันที่ทั้งหมดมีการชุบโครเมียม ไฟท้ายขนาดกะทัดรัดและหรูหราระบบ Full LED นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถเนรมิตบอนเนวิลล์ ที100 ให้เข้ากับสไตล์และความต้องการใช้งานด้วยอุปกรณ์เสริมแท้ที่มีตัวเลือกมากกว่า 117 รายการ รวมทั้งตัวเลือกที่เก็บสัมภาระหลากหลายสไตล์

Bonneville T100_Lucerne Blue
“บอนเนวิลล์ ที100” (Bonneville T100) รุ่นปี 2021 มี 3 สีคลาสสิกให้เลือก ได้แก่ สี Lucerne Blue / Fusion White พร้อมเส้นตัดขอบสีเงินวาดด้วยมือ สีอันทันสมัยอย่าง สี Jet Black และสีทูโทนอย่างสี Carnival Red / Fusion White พร้อมเส้นตัดขอบสีเงินวาดด้วยมือ สนนราคา 457,000 บาท

Street Twin_Cobalt Blue
อีกหนึ่งรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกที่เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของไทรอัมพ์ อย่าง “สตรีท ทวิน” (Street Twin) มาพร้อมแรงบิดมหาศาลและสมรรถนะสุดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง 900ซีซี รุ่นใหม่ล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบต่อนาที ซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมกำลังและแรงบิดดังกล่าวได้อย่างสบายด้วยระบบควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ทำให้รถจักรยานยนต์รุ่น สตรีท ทวิน กลายเป็นรถคู่ใจที่แสนงดงามและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งนักขี่มือใหม่และนักขี่ผู้มากประสบการณ์

ด้านความสามารถเพื่อความมั่นใจในการขับขี่มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้า Brembo สเปคสูงจานเบรกเดี่ยว พร้อมระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงเพื่อลดการใช้แรงในการกำคลัตช์และสะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้เพื่อควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมกับสภาพบนถนน มีโหมดการขับขี่แบบ Road และ Rain ให้เลือกใช้งาน ด้านความสะดวกสบายและความดูดีมีสไตล์สไตล์มาพร้อมเบาะนั่งแบบใหม่ที่หนาขึ้น 10 มม. เพื่อการรองรับน้ำหนักที่ดียิ่งขึ้น โดยเบาะนั่งจะต่ำเพียง 765 มิลลิเมตร อีกทั้งหน้าจอเรือนไมล์ที่ดูดีมีสไตล์มาพร้อมมาตรวัดความเร็วอะนาล็อกแบบคลาสสิก และจอแสดงผลกับระบบเมนูดิจิทัล ซึ่งเข้าใช้งานได้ผ่านปุ่มเลื่อนที่ติดอยู่บนแฮนด์ สามารถควบคุมด้วยปลายนิ้วในระหว่างการขับขี่ อีกทั้งยังมีช่องชาร์จไฟ USB ใต้เบาะนั่ง ระบบป้องกันการโจรกรรมทำงานร่วมกับกุญแจฝังชิป และรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า และระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง

Street Twin_Matt Ironstone
ขณะที่รูปลักษณ์มีการยกระดับสไตล์การแต่งคัสตอมแบบโมเดิร์นของ สตรีท ทวิน ที่เพียบพร้อมด้วยคุณลักษณะพรีเมียมแบบใหม่ อาทิ ขายึดไฟหน้าอะลูมิเนียมปัดเงา ไฟหน้าขนาดกะทัดรัด และตราสัญลักษณ์ Triumph บนขั้วหลอดไฟ โดยไฟท้ายเป็น LED ที่ทั้งกะทัดรัดและหรูหรา พร้อมตัวถังสไตล์มินิมอลแบบ stripped-back ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งคัสตอม ตั้งแต่ถังน้ำมันไปจนถึงฝาปิดถังน้ำมันชุบโครเมียมแบบล็อคได้ ผสมผสานเข้ากับบังโคลนหน้าแบบสั้นกับแผงด้านข้างแบบใหม่ที่เสริมรายละเอียดด้วยแผงตาข่ายกับดีคอลฟอยล์บนถังน้ำมันสุดพรีเมียม ปลอกเรือนปีกผีเสื้ออะลูมิเนียมปัดเงาแบบใหม่ และฝาครอบเครื่องยนต์สีดำในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบอนเนวิลล์ เสริมสไตล์ด้วยครีบฝาสูบและแคลมป์เฮดเดอร์สุดโดดเด่น ติดตั้งยาง Pirelli Phantom Sportscomp ตลอดจนล้อหล่อแบบใหม่ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบบคัสตอมโดยรวม พร้อมรายละเอียดการแมชชีนบนซี่ล้อ พร้อมกันนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมแท้ทั้งหมด 120 รายการ ที่ช่วยเพิ่มการป้องกัน ความสะดวกสบาย สไตล์ ความสามารถ และการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

โดย “สตรีท ทวิน” (Street Twin) ปี 2021 มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Cobalt Blue สี Matt Ironstone และ สี Jet Black สนนราคา 395,000 บาท

Street Twin_Jet Black
ปิดท้ายด้วย “สตรีท ทวินโกลด์ไลน์ ลิมิเต็ด อิดิชัน” (Street Twin Gold Line Limited Edition) รถจักรยานยนต์รุ่นคัสตอมสุดงดงามที่ผลิตจำกัดเพียง 1,000 คัน ที่ได้ผสมผสานการปรับปรุงและคุณลักษณะทุกอย่างของ Street Twin ปี 2021 รุ่นใหม่ เข้ากับงานฝีมือสุดประณีตของทีมงานทำสีไทรอัมพ์ด้วยตัวถังที่เก็บรายละเอียดทุกอย่างด้วยมือ และยังมาพร้อมใบรับรองที่ระบุหมายเลข VIN เฉพาะของรถจักรยานยนต์แต่ละคัน ทำให้รถคันนี้เป็นของต้องมีสำหรับนักสะสมตัวจริง ด้านคุณลักษณะที่ได้รับการปรับปรุง อาทิ เครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาให้ได้มาตรฐาน Euro 5 ซึ่งปล่อยไอเสียน้อยลง รวมทั้งความสะดวกสบายและสไตล์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น เบาะนั่งแบบใหม่ ล้อหล่อ ตัวถัง และการเก็บรายละเอียดด้วยชิ้นส่วนอะลูมิเนียมปัดเงา เสริมด้วยการขับขี่ที่เบาและคล่องตัว ช่วยมอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ เบาะนั่งที่ความสูงต่ำเพียง 765 มิลลิเมตร เบรกหน้า Brembo โหมดการขับขี่สองโหมด ระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ เพื่อสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิกที่ขายดีที่สุดของไทรอัมพ์ในรุ่นพิเศษนี้อย่างแท้จริง

“สตรีท ทวินโกลด์ไลน์ ลิมิเต็ด อิดิชัน” มาพร้อมตัวเลือกสี Matt Sapphire Black สุดโดดเด่น และโลโก้ Triumph ที่สืบทอดมาจากรุ่นดั้งเดิมกับเส้นตัดขอบสีทองวาดด้วยมือ รายละเอียดการแต่งคัสตอมนั้นครอบคลุมถึงส่วนล้อของ Street Twin ซึ่งส่วนซี่ล้อนั้นได้รับการตกแต่ง รวมทั้งทำสีขอบวงล้อด้วยสีทองสุดงดงาม นอกจากนี้ยังมีแผงด้านข้างแบบใหม่ที่มาพร้อมโลโก้ Street Twin รุ่นคัสตอม ช่วยให้รถรุ่นลิมิเต็ดนี้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น สนนราคา 420,000 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น