เมื่อเอ่ยถึงการแข่งขันแรลลี่ทางไกล ชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงคือ Paris-Dakar Rally แรลลี่ทางไกลที่โด่งดังที่สุดในโลก การแข่งขันรายการนี้ใช้เส้นทางออฟโรดทั้งหมดที่ผู้จัดเลือกสรรแล้วว่าสุดโหด ผลักดันถึงขีดสุดในทุก ๆ ด้านทั้งความอึดของมนุษย์และความทนทานของนวัตกรรมแห่งจักรกล
แค่มาถึงเส้นชัยได้ก็นับว่าเก่ง ไม่ต้องพูดถึงการทำเวลาให้ดีที่สุดเหนือผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ แต่ตำนานแห่งปารีส-ดาการ์ ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ไม่เพียงคว้าชัยชนะมาได้ถึง 3 ครั้ง เขายังเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าอันดับหนึ่งได้ทั้งในการแข่งขันประเภทมอเตอร์ไซค์และรถยนต์
ชื่อของ อูแบร์ ออคะโยล (Hubert Auriol) นักแข่งมอเตอร์ไซค์ชาวฝรั่งเศสวัย 29 ปี ถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ในปี 1981 เมื่อเขาโบกธง BMW ปลิวสะบัดเข้าเส้นชัยในรายการปารีส-ดาการ์ แรลลี่ พร้อมกับ BMW R 80 G/S มอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์แบบแรกของ BMW และของโลก
อูแบร์เข้าสู่วงการมอเตอร์ไซค์วิบากในปี 1973 ก่อนจะเข้าร่วมปารีส-ดาการ์ครั้งแรกในปี 1978 และลงแข่งในประเภทมอเตอร์ไซค์รวมทั้งหมด 9 ครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนมาลงแข่งในประเภทรถยนต์อีก 7 ครั้ง
ปี 1981 เป็นปีที่การแข่งขันปารีส-ดาการ์ แรลลี่ ได้รับความสนใจจากสาธารณะชนสูงสุด มีผู้คนแห่แหนกันมาเป็นสักขีพยานในการปล่อยตัวรถที่จุดสตาร์ท และพลอยทำให้การเข้าสู่เส้นชัยของอูแบร์กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ยังอยู่ในความทรงจำของหลาย ๆ คนจนถึงวันนี้
ปี 1983 เขาคว้าชัยชนะอีกครั้งด้วย BMW R 80 G/S รุ่นเดิม พร้อมสร้างสถิติที่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครลบได้ ในการชนะจำนวนสเตจมากที่สุดในการแข่งขัน ก่อนจะรั้งอันดับ 2 พ่ายให้กับนักขับ BMW ชาวเบลเยี่ยมในปี 1984
ชัยชนะของอูแบร์ เป็นทั้งแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกให้ความสนใจกีฬามอเตอร์สปอร์ต และยังเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานมอเตอร์ไซค์ BMW ตระกูล GS ซึ่ง BMW พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องและยังได้รับการยกย่องเป็นมอเตอร์ไซค์สายแอดเวนเจอร์ที่ดีที่สุดจนถึงทุกวันนี้
นอกเหนือจากชัยชนะใน 2 ครั้งแรก แฟน ๆ ยังจดจำอูแบร์ ออคะโยล จากการแข่งในปี 1987 ที่เขาประสบอุบัติเหตุจนข้อเท้าหักในช่วงสำคัญของการแข่งทั้งที่มีตำแหน่งนำ และเป็นจุดเปลี่ยนให้เจ้าตัวหันมาแข่งในประเภทรถยนต์แทน และกลายเป็นนักแข่งคนเดียวที่เคยเป็นแชมป์ในรายการปารีส-ดาการ์ ทั้งในประเภทมอเตอร์ไซค์และรถยนต์
อูแบร์กลับสู่สนามปารีส-ดาการ์ แรลลีอีกครั้งในปี 1994 แต่ในตำแหน่งผู้อำนวยการแข่งขันของ ASO ผู้จัดงาน โดยทำหน้าที่นี้อยู่จนถึงปี 2004 แล้วหันไปริเริ่มจัดแข่งแรลลี่รายการแอฟริกา-อีโค เรซ รูปแบบคล้ายคลึงกันขึ้นในแอฟริกาเหนือในปี 2008
ความสำเร็จต่อเนื่องของอูแบร์ทำให้เขาได้รับเกียรติเป็นตำนานของสหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ (FIM) ในปี 2012 และยังได้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของกรุงดาการ์ เขาไม่ได้เป็นพลเมืองแค่ในนาม แต่ยังเป็นคนดังและเป็นที่รักของชาวเซเนกัลที่ยังจดจำเรื่องราวของเขาได้ดี
คลิปด้านล่างจาก BMW ถ่ายทอดความผูกพันของอูแบร์กับดาการ์ได้ดี และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ติดตามอดีตแชมป์ในวัย 64 ปี ควบขี่มอเตอร์ไซค์ R nineT Urban G/S ที่ BMW สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง R 80 G/S ตำนานแห่งปารีส-ดาการ์ แรลลี่โดยเฉพาะ กลับไปเยือนดินแดนอันเป็นจุดกำเนิดของตำนานอีกครั้ง
อูแบร์ ออคะโยล เสียชีวิตเมื่อ 10 มกราคม 2021 ด้วยภาวะหลอดเลือดและหัวใจผิดปกติเรื้อรังแทรกซ้อนด้วยการติดเชื้อโควิด-19 ในวัย 68 ปี ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่เรื่องราวของเขาจะอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป
Good To Know
ปารีส-ดาการ์ แรลลี่ เป็นการแข่งแรลลี่ทางไกลในเส้นทางสุดหฤโหดที่เปิดกว้างให้นักแข่งทั้งระดับสมัครเล่นและอาชีพได้เข้ามาประลองฝีมืออย่างไม่จำกัดขีดความสามารถ มีนักแข่งสมัครเล่นเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 80% ของทั้งหมด ผู้เข้าแข่งขันในรายการนี้จึงต้องแข่งแกร่งทั้งกายและใจ สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าท่ามกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้างได้ดีเยี่ยม ยานยนต์ที่ใช้ต้องออกแบบและสร้างมาเพื่อการใช้งานแบบออฟโรดเท่านั้น ทั้งรถยนต์ รถบรรทุกและมอเตอร์ไซค์ต้องบุกฝ่าเส้นทางอันประกอบด้วยเนินทราย โคลน ทุ่งหญ้า ดงหิน และสภาพภูมิประเทศสุดกันดารทุกรูปแบบวันละ 800-900 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้น 10,000 กิโลเมตร
แรลลี่ครั้งแรกเมื่อปี 1979 มียานยนต์ทุกประเภทรวม 182 คันเมื่อออกตัวสเตจแรก แต่เหลือเพียง 74 คันเท่านั้นที่แข่งจนจบระยะ 10,000 กิโลเมตร ณ เส้นชัยกรุงดาการ์!
BMW R 80 G/S คือมอเตอร์ไซค์แบบแอดเวนเจอร์แบบแรกของโลก เป็นนวัตกรรมจากการสร้างสรรค์ของ BMW Motorrad จากโรงงานในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี จากปี 1980 ถึง 1987 เป็นมอเตอร์ไซค์ดูอัลสปอร์ตแบบแรกของ BMW และของโลก มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับจากจำนวนผลิตอันมากมายกว่า 500,000 คัน อักษร G/S นั้นย่อมาจากคำว่า Gelände/Straße (เกอเลนเด่อะ/ชตราสเซ่อะ) อันหมายถึง”วิบาก/ถนน” ที่เน้นถึงประสิทธิภาพอันโดดเด่นแบบไม่จำกัดสภาพเส้นทาง
R 80 G/S แบบดั้งเดิมใช้เครื่องยนต์ขนาด 797.5 ซีซี.ไทพ์ 247 ให้กำลังขับเคลื่อน 50 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 41ปอนด์/ฟุต วางลูกสูบนอนยันซ้าย/ขวาแบบบ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ ทั้งหมดนี้วางตัวอยู่บนโครง R65 จุดระเบิดด้วยอีเล็คทรอนิคและใช้ฟลายวีลน้ำหนักเบา สวิงอาร์มเดี่ยววางตัวชิดซ้ายออกแบบใหม่ให้เบาแต่แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อน ๆ และง่ายขึ้นต่อการถอดล้อหลังเพื่อเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุง ส่งกำลังด้วยเพลาขับ กันสะเทือนหลังช็อคหลังเดี่ยวและตะเกียบช็อคน้ำมันคู่หน้า ดิสก์เบรกจานเดี่ยวล้อหน้า ถังน้ำมันจุ 19.5 ลิตร (เปลี่ยนถังให้ใหญ่ขึ้นได้ถึง 60 ลิตรสำหรับการแข่งปารีส-ดาการ์ แรลลี่) น้ำหนักเปล่า 186 กิโลกรัม
รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ BMW Motorrad Thailand หรือ Facebook : BMW Motorrad Thailand หรือ Youtube Channel : BMW Motorrad Thailand
#BMWMotorradTH #MakeLifeARideTH #SpiritOfGS
