xs
xsm
sm
md
lg

Aston Martin DBX ซูเปอร์คาร์ในร่างSUV

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แอสตัน มาร์ติน หนึ่งในแบรนด์หรูหราสัญชาติอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันในการสร้างรถสปอร์ต โดยเฉพาะในส่วนของดีไซน์ที่มักจะได้รับคำชื่นชมและรางวัลด้านการออกแบบที่สวยสดงดงามอยู่เสมอ


ด้วยสภาพตลาดและความนิยมของผู้ใช้งานในปัจจุบันทำให้แอสตัน มาร์ติน ขยับขยายการสร้างสรรค์ผลงานจากรถสปอร์ตเพียงอย่างเดียว หันมาเจาะตลาดเอสยูวี ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น DBX กับการทุ่มเทเวลาวิจัยและพัฒนานานกว่า 5 ปี รวมถึงทุ่มทุนสร้างโรงงานประกอบแห่งใหม่เพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น

สำหรับ แอสตัน มาร์ตินในประเทศไทยอยู่ภายใต้การดูแลของ แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ในเครือของ MGC-ASIA ซึ่งได้เปิดตัว DBX ด้วยราคาเริ่มต้น 19,900,000 บาท พร้อมให้ทดลองขับอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ไม่พลาดการนำเสนอ


ซูเปอร์คาร์ในร่างSUV

แนวคิดหลักของการสร้าง DBX ของทีมงานแอสตัน มาร์ติน คือ การสร้างรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์บนพื้นฐานของการเป็นรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทีมงานตั้งทำขึ้นคือ โครงสร้างตัวถัง เพราะนี่คือหัวใจของการขับขี่ โดยเป็นโครงสร้างแบบใหม่สร้างขึ้นมาเฉพาะรุ่น DBX เท่านั้น ทำจากอะลูมิเนียมเพื่อให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง รวมๆ แล้ว DBX มีน้ำหนักเพียง 2,245 กิโลกรัม ถือว่าพอๆ กับรถซีดานระดับหรูทั่วไป

ส่วนการออกแบบภายนอกยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ ด้านหน้าใช้แนวทางของรุ่น DB5 รถสปอร์ตระดับตำนานของแบรนด์ มีช่องดักลมให้ทะลุผ่านซุ้มล้อ และฝากระโปรงหน้าเพื่อช่วยสร้างแรงกดอากาศ ขณะที่ด้านท้ายมีรูปทรงเหมือนตูดเป็ดตามสไตล์ของแวนเทจ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของอากาศพลศาสตร์














หัวใจบรรจุเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ตัวแรงรหัส M177 จาก Mercedes-AMG เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ของแอสตัน มาร์ติน แต่ทว่าเครื่องยนต์ที่ประจำการใน DBX ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังมากที่สุดด้วยพิกัด 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่แอสตัน มาร์ตินภาคภูมิใจนำเสนอ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่า สุดที่พวกเขาคิดค้นขึ้นทำงานผ่านการควบคุมด้วย อิเล็กทรอนิกส์ในชื่อ eDiff ที่สามารถกระจายแรงบิดของล้อหลังได้อย่างอิสระและแม่นยำ


ด้านการออกแบบภายใน เน้นในเรื่องของความประณีตและการใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือปุ่มต่างๆ ส่วนการออกแบบ ยอมรับว่าคล้ายกับรุ่น DBS แต่จะแตกต่างในส่วนของช่องแอร์และปุ่มปรับเกียร์ที่ย้ายมาอยู่ทางด้านบนสุด คอนโซลกลางติดตั้งชุดควบคุมการปรับค่าแสดงผลต่างๆ ผ่านจอขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple Carplay พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา และไฟในห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี คงไม่ต้องบอกว่าเป็นออพชันเดียวกับรถยี่ห้ออะไร


















ช่วงล่างเทพ หนึบ สนุก

การขับขี่ในคราวนี้ออกตัวก่อนว่า เป็นการขับที่สั้นเกินกว่าจะได้ทราบถึงสมรรถนะแบบแท้จริง เนื่องจากรถยนต์ลักษณะเช่นนี้ เหมาะกับการวิ่งทางยาวเพื่อการเดินทางไกลเป็นสำคัญ การขับเพียงสั้นจะพอได้เพียงความรู้สึกเบื้องต้นเท่านั้น แต่อาจจะเพียงพอสำหรับการตัดสินใจของลูกค้าที่มีธงอยู่ในใจแล้ว

เริ่มต้นด้วยการออกตัวจากโชว์รูมแบบกดมิดคันเร่งตัวรถตอบสนองอย่างทันใจไม่แตกต่างจากการขับซูเปอร์คาร์เท่าใดนัก ยิ่งเมื่อหันไปดูสเปคตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เคลมไว้ที่ 4.5 วินาที ทำได้อย่างที่กล่าวไว้แน่นอน ส่วนความเร็วสูงสุด 291 กม./ชม. เราคงไม่มีพื้นที่ในการลองขับได้ขนาดนั้น


สิ่งที่ทำให้ประทับใจผู้เขียนมากที่สุดคือ ระบบช่วงล่างสามารถดูดซับแรงสะเทือนจากหลุมของถนนที่เกิดจากการก่อสร้าง ขับรูดผ่านได้อย่างสบายๆ เรียกว่าเป็นรถที่เหมาะกับการลุยได้อย่างไม่น่าห่วง ตอบขอบคุณการออกแบบระบบช่วงล่างแบบถุงลม Adaptive Triple Air Suspension ซึ่งมาพร้อมกับระบบ eARC ที่ใช้เทคโนโลยี 48 โวลต์ในการควบคุมสั่งการ

การเลือกใช้ระบบช่วงล่างแบบถุงลม ข้อดีนอกจากความสบาย ยังมีในส่วนของการปรับระดับความแข็งและความสูงของตัวรถที่สามารถปรับให้ลดลงได้ถึง 55 มิลลิเมตร (ปรับอัตโนมัติเมื่อขับตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น) และปรับสูงขึ้นได้ 45 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถลุยน้ำลึกได้ 500 มิลลิเมตร โดยไม่เกิดความเสียหายแต่ประการใด


การบังคับควบคุมรถค่อนข้างคล่องตัว แม้ตัวรถจะดูมีขนาดใหญ่ น้ำหนักพวงมาลัยเบามือเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ และจะหนักมือเมื่อขับด้วยความเร็วสูง โดยมีระยะฟรีแบบพอรู้สึกได้ เข้าโค้งแม่นยำ ความเร็วที่ขับส่วนใหญ่จะอยู่ราว 100-120 กม./ชม. รถทรงตัวหนึบดีมาก จังหวะเร่งแซง DBX พุ่งดีมากให้ความรู้สึกไม่ต่างจากซูเปอร์คาร์ระดับ 20 กว่าล้านบาท โดยเฉพาะเมื่อปรับเข้าโหมด S+ รอบเครื่องยนต์ขึ้นมารอพร้อมเสียงคำรามจากท่อไอเสีย

ความเร็วสูงสุดที่เราทดลองขับอาจจะไม่มาก แต่เพียงพอที่จะสรุปแบบมั่นใจได้ว่า แม้จะขับด้วยความเร็วสูง ตัวรถยังคงนิ่ง เกาะถนนแบบหนึบแน่น ไร้อาการลอย การทรงตัวยอดเยี่ยม เรียกว่าเป็นรถที่สมดุลดี ช่วงล่างหนึบและแรงเหมือนกำลังขับขี่รถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ โดยแตกต่างเพียงรูปร่างภายนอก


ทั้งนี้ไม่ว่ารถจะแรงขนาดไหนระบบเบรกจะถูกออกแบบให้หยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเบรกของ DBX จัดอยู่ในระดับอลังการเบรกหน้า 6 พ็อตและเบรกหลังแบบพ็อตเดียวแต่เป็นขนาดใหญ่ที่สุดของรถยนต์ที่ใช้พอร์ตเดียว ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันยอมรับว่า ไม่ได้สังเกตุเพราะจิตใจจดจ่ออยู่กับการจับความรู้สึกของการขับขี่และด้วยระยะทางการขับที่สั้นเพียงไม่กี่กิโลเมตรทำให้ไม่สามารถใช้ตัวเลขมานำเสนอได้


เหมาะกับใคร

หากมองไปที่คู่แข่งโดยตรงอย่าง ลัมโบร์กินี่ อูรูส และ โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ที่โดดเด่นไปคนละด้าน เปรียบให้เข้าใจง่ายๆ แอสตัน มาร์ติน คือจุดสมดุลระหว่างความแรงและความสบายของทั้งสองคู่แข่ง ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ที่มีความแรงแบบซูเปอร์คาร์แต่ทว่าใช้งานได้ทุกวัน












กำลังโหลดความคิดเห็น