xs
xsm
sm
md
lg

รถ "จี๊ป" อยากลุยไทย ลุ้นใครคว้าสิทธิ์ขาย TNP– P&S ตั้งโชว์รูมพร้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“จี๊ป” (Jeep) แบรนด์รถอเนกประสงค์สายลุยมีลุ้นเข้าทำตลาดในประเทศไทย หลังจากที่สองบริษัท “P&S” และ “TNP” ประกาศเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเตรียมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ ส่วนใครจะได้สิทธิ์หรือไม่อย่างไรต้องจับตาดู


สร้างความประหลาดใจไม่น้อยให้กับสาวกแบรนด์ จี๊ป (Jeep) ในประเทศไทย เมื่อกลุ่ม P&S ผู้นำเข้าตู้เซฟรายใหญ่ของไทยและกลุ่ม TNP ผู้ประกอบการรถยนต์นำเข้า ต่างประกาศว่าได้รับสิทธิ์ในการทำตลาดรถยนต์แบรนด์รถยนต์ จี๊ป ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งโดยปกติจะมีเพียงรายเดียวเท่านั้นที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายในแต่ละประเทศ

โชว์รูมจี๊ปของ P&S พร้อมเปิดดำเนินการ
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2563 กลุ่ม P&S มีการประกาศว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ จี๊ป ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มีการใช้ชื่อ Jeep Thailand และวางแผนลงทุนสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแบบครบวงจรขึ้นอีกด้วย โดยจะตั้งอยู่แถวนิมิตใหม่ สร้างความตื่นตัวให้แก่ลูกค้าที่สนใจในแบรนด์รถยนต์จี๊ปเป็นอย่างมาก ซึ่งกลุ่ม P&S มีฐานธุรกิจมาจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายตู้เซฟนิรภัย

รถจี๊ปของ TNP เข้าร่วมจัดแสดงในงาน มอเตอร์โชว์
อย่างไรก็ตาม ความสับสนได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงงาน Motor Show ครั้งล่าสุด ทางกลุ่ม TNP ที่มีประสบการณ์ขายรถยนต์จี๊ปกว่า 9 ปี ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์จี๊ปภายในงานดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ จี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเช่นกัน

หมายความว่าประเทศไทยกำลังมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จี๊ปอย่างเป็นทางการถึงสองรายซ้อนกันอยู่เวลานี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างสร้างความงุนงงให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารในแวดวงยานยนต์อยู่พอสมควร ว่าเรื่องราวดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร ทางทีมงาน “เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง” จึงได้ค้นหาข้อมูลเพื่อสร้างความกระจ่างในประเด็นนี้

“ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และโชว์รูมจี๊ปของ TNP ที่เสร็จพร้อมดำเนินกิจการ
จากการสัมภาษณ์พิเศษ “ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์” ผู้บริหารของกลุ่ม TNP ระบุว่า ทางกลุ่มได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทแม่ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทย สามารถสั่งรถตามความต้องการของลูกค้าพร้อมทั้งให้บริการหลังการขายและเคลมอะไหล่ในการรับประกันตามมาตรฐานได้โดยทางกลุ่มได้เริ่มขายรถยนต์จี๊ปในประเทศไทยมานานกว่า 9 ปีแล้ว

โชว์รูมรถยนต์จี๊ปของ TNP
“เราเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยขายรถยนต์จี๊ปในประเทศไทยเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คัน ตลอดระยะเวลาที่ทำตลาดมา พร้อมกับให้การดูแลและบริการหลังการขายลูกค้าจี๊ปทุกคนเป็นอย่างดี เรามีการเจรจากับบริษัทแม่อย่างต่อเนื่องถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จี๊ปในประเทศไทย ล่าสุดเรามีการสร้างโชว์รูมสำหรับรถยนต์จี๊ปขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวของการทำตลาดจี๊ป โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ พร้อมเปิดตัวอีก 5 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ” ตนุภัทร กล่าว

Stellantis และแบรนด์ต่างๆ
ขณะที่ก่อนหน้าราวหนึ่งปีกว่า ทางกลุ่มของ BRG ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถยนต์อิสระออกมาประกาศว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายรถยนต์จี๊ปในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดตัวแบรนด์ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อปลายปี 2562 พร้อมกับการจัดแสดงรถยนต์จี๊ปในงานดังกล่าว ซึ่งเมื่อทีมงานสอบถามไปยังผู้บริหารของกลุ่ม BRG จึงได้ทราบว่าทางกลุ่มยุติการทำตลาดรถยนต์จี๊ปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการระบุเหตุผลแต่อย่างใด

ส่วนเอกสารการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากกลุ่ม FCA หรือ Stellantis ซึ่งเป็นบริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ จี๊ป ยังมิได้มีรายใดเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เป็นการแต่งตั้งในลักษณะใด ซึ่งระดับของการแต่งตั้งจะมีตั้งแต่ ผู้จัดจำหน่าย (Distributor) หรือ ผู้นำเข้า (Importer) หรือ ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) รวมถึงเป็นการแต่งตั้งโดยใคร ประเด็นนี้ยังเป็นสิ่งที่รอการพิสูจน์อยู่

ดังนั้น ทีมงาน “เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง” จึงได้มีการเสาะหาข้อมูลในเชิงลึกต่อไปว่า Stellantis ได้มีการแต่งตั้งรายใดหรือไม่ อย่างไร

เว็ปไซต์อย่างเป็นทางการของ จี๊ป ระบุไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
เบื้องต้นทีมงานตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์พบว่า จี๊ป ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยได้มีการอีเมลสอบถามเรื่องราวดังกล่าวไปยังบริษัท Stellantis และได้รับการตอบกลับมาจากทีมผู้ดูแลดังนี้

"As one of the largest automotive markets in South East Asia, Thailand presents a significant opportunity for Stellantis. Details regarding our plans to launch in Thailand will be announced in the future."

หรือแปลเป็นไทยว่า “ประเทศไทยในฐานะตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกลุ่ม Stellantis ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดตัวในประเทศไทยจะมีการประกาศอีกครั้งในอนาคต”


เป็นคำตอบในลักษณะของการแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ปฏิเสธหรือยอมรับ จึงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าบริษัทใดที่เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของจี๊ป ทั้งสองรายอาจจะได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายอย่างถูกต้องก็เป็นไปได้ ยังต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการของ Stellantis อีกครั้งหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากแหล่งข่าวในเชิงลึกระบุว่าบริษัทแม่มีการเจรจากับนักธุรกิจของไทยที่ให้ความสนใจในการทำแบรนด์รถยนต์จี๊ปมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขที่ค่อนข้างสูง และปัจจัยด้านการลงทุนที่ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก จึงต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบทั้งบริษัทแม่และนักธุรกิจของไทย เพื่อหาจุดร่วมที่ลงตัวในการประกาศอย่างเป็นทางการ

การแต่งตั้งให้ MGC-ASIA เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ในประเทศไทย
อนึ่ง หากดูในเรื่องของความเป็นไปได้ในการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยทั่วไปแล้ว ทุกแบรนด์ที่จะทำการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายนั้น จะมีตัวแทนจากบริษัทแม่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลพื้นที่และรับมอบอำนาจในการดำเนินการแต่งตั้งและลงนามเซ็นสัญญาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

สำหรับแบรนด์ จี๊ป หากจะมีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่าย กลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมากที่สุด คือ กลุ่มเอ็มจีซี (MGC) หรือ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชัน เนื่องจากปัจจุบันทาง เอ็มจีซี เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์แบรนด์ Maserati และ Peugeot ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ อยู่ในเครือของ Stellantis อยู่แล้ว

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ
ยิ่งไปกว่านั้น หากจับสัญญาณจากการแถลงประจำปีของ “ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” หัวเรือใหญ่ที่กล่าวเป็นนัยยะว่ากลุ่ม Stellantis ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้MGC ทำตลาดแบรนด์เพิ่มเติม โดยมีสามารถเลือกทุกแบรนด์ในเครือได้ทั้งหมด ซึ่งมีการเจรจาพูดคุยเกือบทุกแบรนด์ถึงความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ และคาดว่าจะมีทำเพิ่มอีก1-2 แบรนด์

“เงื่อนไขการทำแบรนด์ใหม่ของกลุ่มเอ็มจีซี คือ จะต้องไม่กระทบกับแบรนด์เดิมที่เราทำอยู่ เนื่องจากเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำธุรกิจ ส่วนจะทำแบรนด์ใดบ้างนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ในเวลานี้ โดยเรามีแผนการขยายกิจการให้ครอบคลุมทุกตลาด” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว


สำหรับกลุ่ม Stellantis ในตลาดโลก คือ การรวมตัวกันของกลุ่ม FCA ของอิตาลี-อเมริกา และ PSA ของฝรั่งเศส โดยแต่ละกลุ่มมีแบรนด์ดังต่อไปนี้ FCA มีแบรนด์ Alfa Romeo, Abarth, Chrysler, Dodge, Jeep, FIAT, Fiat Professional, Lancia, Maserati, Opel และ Ram Trucks ส่วน PSA มีแบรนด์ Peugeot, Citroen, DS, Opel และ Vauxhall โดยทั้งสองกลุ่มได้ควบรวมกิจการกันแล้วเสร็จเมื่อช่วงต้นปี 2564 พร้อมกับใช้ชื่อใหม่ว่า Stellantis

ฉะนั้นเมื่อมองถึงแบรนด์ในมือของกลุ่มเอ็มจีซี ที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว จี๊ปจะกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความเป็นไปได้ที่ เอ็มจีซีจะเลือกเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนจะทำจริงหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป

รถรุ่นต่างๆ ของจี๊ปในไลน์การขาย
กลับมามองในมุมของลูกค้าที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถยนต์จี๊ป จากทิศทางของการเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยนั้น ทุกแบรนด์จะให้การดูแลรถเก่าที่เจ้าของซื้อไปแล้วก่อนหน้า จึงคลายกังวลว่าจะมีการปฏิเสธการดูแลหลังการขาย แต่อาจจะมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้น เช่น การเรียกเก็บค่าแรกเข้า เป็นต้น

ส่วนประเด็นการรับประกัน ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจมากกว่า เพราะมีเพียงผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่สามารถให้การรับประกันได้ หรือหากคุณซื้อจากที่ใด จำเป็นจะต้องเคลมกับผู้ที่จำหน่ายให้ ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการได้รับสิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ทั้ง P&S และTNP มีโชว์รูมและศูนย์บริการพร้อมรองรับการให้บริการ โดย TNP ได้รับการยอมรับในส่วนของการดูแลและบริการหลังการขายของจี๊ปมาเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร
ทั้งยังยืนยันว่าสามารถเคลมอะไหล่ได้อีกด้วย

Gladiator
สำหรับรถยนต์ จี๊ป ที่มีทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน มีหลากหลายโมเดลและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มค่อนข้างสูง โดยจี๊ปเลือกทำเฉพาะรถแบบอเนกประสงค์เอสยูวี มีทั้งหมด 6 รุ่นหลัก ได้แก่

Gladiator รถปิกอัพอเนกประสงค์ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 264 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Selec-Trac และยางแบบออฟโรด โดยกล้องบันทึกภาพด้านหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานรุ่นแรกของจี๊ป และระบบเสริมความปลอดภัยอย่างครบถ้วน ราคาจำหน่ายในอเมริกาเริ่มต้นที่ 33,565 ดอลลาร์ หรือราว 1,040,000 บาท

Cherokee
Cherokee รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีที่สร้างชื่อให้กับจี๊ปมากที่สุดรุ่นหนึ่ง เปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2556 หรือ 8 ปีก่อนหน้านี้เรียกว่าผ่านการปรับปรุงโฉมหลายครั้งจนเข้าสู่ช่วงปลายอายุโมเดลของเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว หัวใจมีให้เลือกหลายขนาดทั้งเบนซินและดีเซลตั้งแต่ 2.0 ลิตร ไปจนถึง 3.2 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือ เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ราคาจำหน่ายในอเมริกาเริ่มต้นที่ 26,755 ดอลลาร์ หรือราว 829,000 บาท

Grand Cherokee L
Grand Cherokee L เรือธงของจี๊ปที่มาพร้อมกับตัวถังขนาดใหญ่และความหรูหราที่สุดในสายการผลิต โดยมีการเปิดตัวเจเนอเรชันที่ 5 โฉมใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญเพราะมีการขยับขนาดจากเอสยูวีขนาดกลางขึ้นไปเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งเพื่อต่อกรกับคู่แข่งจากฝั่งยุโรป ขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.6 ลิตร กำลังสูงสุด 290 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด ช่วงล่างเป็นแบบถุงลม ราคาในอเมริกาเริ่มต้นที่ 36,995 ดอลลาร์ หรือราว 1,140,000 บาท โดย Grand Cherokee โฉมก่อนหน้ายังคงมีจำหน่ายอยู่ด้วยในไลน์การขาย

Wrangler
Wrangler รถระดับสัญลักษณ์ในตำนานที่ยังคงยืนหยัดทำตลาดควบคู่กับแบรนด์จี๊ปมาโดยตลอดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตัวถัง ทั้ง 2 ประตู และ 4 ประตู เอสยูวีและหลังคาเปิดประทุน ขุมพลังมีให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 และ 2.2 ลิตร หรือแบบ V6 ขนาด 3.6 ลิตร ไปจนถึง V8 ขนาด 6.4 ลิตร และล่าสุดกับรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ กับระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุด 40 กม. ราคาเริ่มต้นในอเมริกา 28,475 ดอลลาร์ หรือราว 882,000 บาท ส่วนรุ่น PHEV นั้นราคาเริ่มต้นที่ 47,995 ดอลลาร์หรือราว 1,490,000 บาท

Compass
Compass รถในระดับคอมแพคเอสยูวี (C-SUV) ที่จี๊ประบุว่าเป็นการเปิดตัวโฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์เมื่อ 6 เมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เปิดตัวภายใต้กลุ่ม Stellantis ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะมีสัดส่วนยอดขายกว่า 40% จากยอดขายทั้งหมดของจี๊ปในยุโรป รวมถึงมียอดขายในรุ่นที่เป็นปลั๊กอินไฮบริดมากถึง 1 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมดอีกด้วย ตัวรถได้รับการปรับปรุงระบบใหม่หมดทั้งคัน รวมถึงการอัปเกรดระบบขับขี่อัตโนมัติเป็น Level 2 ราคาจำหน่ายในอเมริกา (โฉมก่อนหน้า) เริ่มต้นที่ 23,915 ดอลลาร์ หรือราว 741,000 บาท

Renegade
Renegade รถในระดับซับคอมแพคเอสยูวี (B-SUV) เปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมากับทางเลือกขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้ออันเป็นจุดเด่นของรถในเครือจี๊ปทุกรุ่น หัวใจมีให้เลือกตั้งแต่เบนซินขนาด 1.0 ลิตรเทอร์โบ ไปจนถึงขนาด 2.4 ลิตร ส่วนดีเซลมีให้เลือกขนาด 1.6 - 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมทางเลือกแบบปลั๊กอินไฮบริด ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5-6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6, 7 และ 9 สปีด ราคาจำหน่ายในอเมริกา 22,850 ดอลลาร์ หรือราว 708,000 บาท

ทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวของจี๊ปในปัจจุบัน ซึ่งอดีตจี๊ปเคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการยุคทศวรรษที่ 90 และได้รับความนิยมอย่างสูงก่อนจะโดนพิษของวิกฤตต้มยำกุ้งจนทำให้ต้องยุติการทำตลาดไป ส่วนจะกลับมาติดตลาดได้อีกครั้งหรือไม่อย่างไร สาวกแบรนด์จี๊ปคงต้องติดตามเอาใจช่วยกัน



เครดิตภาพจาก Jeep P&S, Jeep TNP, กรังด์ปรีซ์, www.stellantis.com, www.jeep.com


กำลังโหลดความคิดเห็น