xs
xsm
sm
md
lg

McLaren Artura ซูเปอร์คาร์ไฮบริด ราคา 16.7 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ McLaren Artura (แมคลาเรน อาร์ทูรา) ซูเปอร์คาร์ไฮบริด สมรรถนะสูง (High-Performance Hybird-HPH) รุ่นแรกของแมคลาเรน ออโตโมทีฟ ประเทศอังกฤษ ด้วยการพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ McLaren Carbon Lightweight Architecture (MCLA) ที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา กับเลย์เอ้าท์เครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ วางกลางลำ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 3.0 วินาที สามารถขับเคลื่อนในโหมด EV ได้ระยะทาง 30 กิโลเมตร

นายวิทวัส ชินบารมี
นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการใหญ่ McLaren Bangkok เปิดเผยว่า McLaren Artura ถูกนำเข้ามาให้แฟนๆ ซูเปอร์คาร์ชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ถือเป็นซูเปอร์คาร์ไฮบริดสมรรถนะสูงที่จะเข้ามาเปิดศักราชใหม่ของการผลิตรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของแมคลาเรน พร้อมตอกย้ำเป้าหมายของแบรนด์ ในการส่งมอบรถที่มีความพิเศษเฉพาะตัวให้แก่ลูกค้าสำหรับแมคลาเรน เป็นซูเปอร์คาร์ที่ไม่เน้นเพิ่มจำนวนผลิต และไม่มีรถเครื่องยนต์วางหน้า รถสี่ประตู หรือเอสยูวี ดังนั้น เราจะเป็นซูเปอร์คาร์ยี่ห้อสุดท้ายในโลก สำหรับปีนี้ยังทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเข้าหาลูกค้าโดยตรงที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม

“ปีนี้จะรุกตลาดมากกว่าที่เคย โดยเน้นกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น พร้อมให้ความสำคัญกับการสร้าง McLaren’s Club Thailand เพื่อให้เป็นชุมชนคนรักซูเปอร์คาร์ ที่ดีที่สุดในประเทศ ส่วน McLaren Artura มั่นใจว่าจะได้การตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีระดับไฮเปอร์คาร์ สมรรถนะเหนือกว่าคู่แข่งทั้งหมด พร้อมราคาที่น่าสนใจ” 


McLaren Artura เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ล่าสุด McLaren Bangkok ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ แมคลาเรน ออโตโมทีฟ ด้วยการส่งซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นนี้มาอวดโฉมในไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอาเซียน

All-new McLaren Artura เป็นซูเปอร์คาร์ซีรี่ส์ไฮบริดรุ่นแรกของแมคลาเรนออโตโมทีฟที่ขึ้นสายการผลิตและทำตลาดต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการด้วยการหลอมรวมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 50 ปี จากการพัฒนา Racing Car สู่ Road Car พร้อมนำเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย ระบบไฮบริดชั้นสูงเพื่อถ่ายทอดสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบให้ถึงมือผู้ขับขี่
แมคลาเรนทั่วโลก



ส่วนการออกแบบ การพัฒนาและการผลิตโครงสร้าง มีขึ้นที่ศูนย์ McLaren Composites Technology Center (MCTC) เมืองเชฟฟิล ประเทศอังกฤษ ที่แมคลาเรนลงทุนไปกว่า 50 ล้านปอนด์ (ประมาณกว่า 2,200 ล้านบาท) ซึ่งจะรองรับการพัฒนาซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ๆ และเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับ McLaren Artura เป็นรถรุ่นแรกที่ใช่แพลตฟอร์มใหม่ McLaren Carbon Lightweight Architecture (MCLA) พร้อมโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ที่ประกอบขึ้นด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และอลูมิเนียมขณะที่อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักอยู่ที่ 488 แรงม้าต่อ 1 ตัวเท่านั้น (คำนวณจากน้ำหนักรถเปล่าที่ 1,395 กิโลกรัม)


ด้านเครื่องยนต์ M630 วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ วางกลางลำตัวรถ ให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 585 นิวตัน-เมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 95 แรงม้า และแรงบิด 225 นิวตัน-เมตร เมื่อรวมประสิทธิผลของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังสูงสุดถึง 680 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SSG 8 จังหวะรุ่นใหม่ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ 3.0 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ภายใน 8.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของ McLaren Artura ยังเลือกโหมดการขับขี่ได้ ทั้ง Comfort, Sport และความเร้าใจขีดสุดแบบ Track modes ขณะเดียวกันในโหมด Electric ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% (EV) สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 130 กม./ชม.


McLaren Artura เป็นซูเปอร์คาร์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด ตั้งแต่แมคลาเรนผลิตรถมา ด้วยอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 5.6 ลิตร/100 กม. และการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 129 กรัม/กม. (มาตรฐาน WLTP) ซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นนี้ มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 7.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง (KWH) เมื่อชาร์จไฟเต็มสามารถวิ่งในโหมด EV โดยเครื่องยนต์ไม่ติดขึ้นมาเลยได้ระยะทาง 30 กิโลเมตร

การตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ “form follows function” เน้นประโยชน์ใช้สอยและผู้ขับสามารถควบคุมปุ่มสั่งงานได้ทั้งหมด พร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบอินโฟเทนเมนต์ และระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสื่อสาร ระบบแชร์หน้าจอจากสมาร์ทโฟน (Smartphone Mirroring) และการอัพเดตข้อมูล – ระบบปฏิบัติการผ่านดาวเทียม (Over-The-Air หรือ OTA) ทั้งยังมีระบบติดตามยานพาหนะเมื่อถูกโจรกรรมอีกครั้ง (ออพชันนี้ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละประเทศ)


ส่วนช่วงล่างได้รับการออกแบบใหม่ ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ อลูมิเนียม ส่วนหลังใช้ปีกนกด้านบนและมัลติลิงค์ด้านล่าง พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิกและระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในคู่หน้า และขนาด 20 นิ้วคู่หลัง ประกบยางสมรรถนะสูง Pirelli P ZERO ด้านหน้า 235/35 ZR19 และหลัง 295/35 R20

สำหรับ McLaren Artura ซูเปอร์คาร์ไฮบริด จะวางตำแหน่งการทำตลาดระหว่าง รุ่น GT และ 720S โดยตั้งราคาขาย 16.7 ล้านบาท พร้อมการรับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 75,000 กม. และรับประกันแบตเตอรี่ 6 ปี หรือ 75,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)




























กำลังโหลดความคิดเห็น