วอลโว่ ลั่นพร้อมทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยภายใน 1 ปีครึ่งนับจากนี้ โดยทำตลาดภายใต้แบรนด์วอลโว่ มั่นใจตลาดตอบรับดี ปลื้มยอดขายปีที่แล้ว ระบุ V60 ลูกค้าจองจนหมดโควตา รอรถนานเกินครึ่งปีแล้ว พร้อมเปิด เอส60 ใหม่ ฟันธงตลาดรถหรูปีนี้ทรงตัว แม้ปัจจัยลบรอบด้าน
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ชนิดแบตเตอรี่ (BRV) ภายในระยะเวลา 1 ปี ครึ่ง นับจากนี้ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทฯ แม่ ถึงแผนการตลาดและราคาที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
ซึ่งแผนงานดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่มีการประกาศว่าจะทำให้ไลน์อัพการขายรถยนต์วอลโว่ทั้งหมด ไม่มีรถใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยจะเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าเกี่ยวเนื่องในการขับเคลื่อนทุกรุ่นที่วางจำหน่าย โดยเริ่มจากรถแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV
“รถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ยังไงทิศทางต้องไปทางนั้น เราพูดมาตลอดว่าจะมี EV ในไลน์การขายทั้งหมด โดยระหว่างนี้จะเป็น PHEV ไปก่อน ซึ่งวอลโว่ เป็นแบรนด์เพื่อความปลอดภัย(Safety) ไม่ใช่แค่เจ้าของรถ แต่หมายรวมถึงคนบนโลกนี้ทั้งหมดด้วย แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ถือว่ามีส่วนช่วยรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไป” นายคริสกล่าว
ขณะที่ยอดจองของรถรุ่น V60 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย ทำให้ยอดโควต้าที่ได้รับมาขายหมดเป็นที่เรียบร้อย ลูกค้าต้องรอรถยาวถึงช่วงกลางปีแล้วในเวลานี้ ดังนั้น เพื่อเพิ่มไลน์อัพการขาย วอลโว่ จึงได้เปิดตัวรถรุ่น S60 แบบซีดาน ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
สำหรับยอดขายของวอลโว่ ในปี 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,100 คัน โต 62.5% จำแนกเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดคือ XC40 ราว 45% XC60 ราว 30% XC90 ราว 20% และ S90 ราว 5% ส่วนตลาดรถยนต์หรูแบบพรีเมี่ยมนั้น ปีนี้แม้เปิดปีมาด้วยปัจจัยลบมากมาย แต่น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้วที่ประมาณ 30,000 คันได้
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามียอดขายเติบโตขึ้นได้ นอกจากการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าแล้ว เรายังมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้สูงขึ้น สิ่งนี้วัดได้จากการยอดการเคลมสินค้านั้นลดลงไปมากกว่า 50% ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ ซึ่งเป็นผลจากการนำแพลตฟอร์ม SPA ของวอลโว่มาใช้ในทุกรุ่นที่เปิดตัวใหม่” นายคริสกล่าวปิดท้าย
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ชนิดแบตเตอรี่ (BRV) ภายในระยะเวลา 1 ปี ครึ่ง นับจากนี้ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทฯ แม่ ถึงแผนการตลาดและราคาที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
ซึ่งแผนงานดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่มีการประกาศว่าจะทำให้ไลน์อัพการขายรถยนต์วอลโว่ทั้งหมด ไม่มีรถใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยจะเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าเกี่ยวเนื่องในการขับเคลื่อนทุกรุ่นที่วางจำหน่าย โดยเริ่มจากรถแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าล้วน BEV
“รถยนต์ไฟฟ้า EV เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ยังไงทิศทางต้องไปทางนั้น เราพูดมาตลอดว่าจะมี EV ในไลน์การขายทั้งหมด โดยระหว่างนี้จะเป็น PHEV ไปก่อน ซึ่งวอลโว่ เป็นแบรนด์เพื่อความปลอดภัย(Safety) ไม่ใช่แค่เจ้าของรถ แต่หมายรวมถึงคนบนโลกนี้ทั้งหมดด้วย แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ถือว่ามีส่วนช่วยรักษาโลกให้น่าอยู่ต่อไป” นายคริสกล่าว
ขณะที่ยอดจองของรถรุ่น V60 ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย ทำให้ยอดโควต้าที่ได้รับมาขายหมดเป็นที่เรียบร้อย ลูกค้าต้องรอรถยาวถึงช่วงกลางปีแล้วในเวลานี้ ดังนั้น เพื่อเพิ่มไลน์อัพการขาย วอลโว่ จึงได้เปิดตัวรถรุ่น S60 แบบซีดาน ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
สำหรับยอดขายของวอลโว่ ในปี 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,100 คัน โต 62.5% จำแนกเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดคือ XC40 ราว 45% XC60 ราว 30% XC90 ราว 20% และ S90 ราว 5% ส่วนตลาดรถยนต์หรูแบบพรีเมี่ยมนั้น ปีนี้แม้เปิดปีมาด้วยปัจจัยลบมากมาย แต่น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้วที่ประมาณ 30,000 คันได้
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามียอดขายเติบโตขึ้นได้ นอกจากการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าแล้ว เรายังมีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้สูงขึ้น สิ่งนี้วัดได้จากการยอดการเคลมสินค้านั้นลดลงไปมากกว่า 50% ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ ซึ่งเป็นผลจากการนำแพลตฟอร์ม SPA ของวอลโว่มาใช้ในทุกรุ่นที่เปิดตัวใหม่” นายคริสกล่าวปิดท้าย