หลังจากเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่เจเนอเรชันที่ 5 ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ไปเมื่อวานนี้ (25-11-62) ผู้บริหารเปิด ฮอนด้า เปิดให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ถึงผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ และทิศทางของฮอนด้า ว่าจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ นำทีมโดย นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้าออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
-อยากให้พูดถึง ผลิตภัณฑ์ใหม่ ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นนี้
ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นหนึ่งในเรือธงของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถสำหรับภูมิภาค (Regional Model) โดยเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2593 และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาตลอด นับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสมใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สำคัญของฮอนด้าซิตี้ เห็นได้จากยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 (มกราคม-กันยายน 2662 ) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70 % จากยอดขายฮอนด้า ซิตี้ทั่วโลก และประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักของฮอนด้า ซิตี้ ในแง่ของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงอีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วย
-ตั้งเป้ายอดขายเท่าไร
ฮอนด้า ซิตี้ เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ประหยัดพลังงานตามาตรฐานสากล หรือ อีโคคาร์ โครงการ 2 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน มหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายเดือนนี้ พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ราวกลางเดือนธันวาคม นี้ ส่วนเป้ายอดขายตั้งไว้ที่ 3,500 คันต่อเดือน จากเดิมที่ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปัจจุบัน มียอดขายอยู่ที่ 3,000 คันต่อเดือน
-มั่นใจ ซิตี้ ใหม่ แค่ไหน
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ เราค่อนข้างมั่นใจ เนื่องจากในทุกมิติของรถแบบนี้มันเกินคลาสของตัวเอง อยากใช้คำว่ามันเกินคลาสรถเล็ก รถคอมแพ็ค ไม่ว่าจะเป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น ประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ แม้ซีซีจะน้อยแต่พละกำลังเหลือเฟือดูได้จากแรงม้ามีถึง 122 แรงม้า สูงกว่า 1500 ซีซี ตัวเดิม และแรงบิดก็อยู่ในคลาสเดียวกับ 1.8 ลิตร ขณะที่สมรรถนะดีขึ้นแต่สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร ที่สำคัญเราปรับราคาลงมาเยอะมากกับสิ่งที่ได้รับจาก ซิตี้ตัว ใหม่ เพื่อตอบสนองลูกค้าในกลุ่มที่กว้างมากขึ้น ฉะนั้น เรามีความมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าแน่นอน
-วิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดปีนี้
ปี2561 ตลาดรถทำได้เกินล้านคัน ซึ่งตอนต้นปีนี้เราไม่คิดว่าจะถึงแต่พอสิ้นปีเป็น1.4 ล้านคัน สำหรับปีนี้ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะโตขึ้น ช่วงครึ่งปีแรกตลาดเปลี่ยนมันโตกว่าปีที่แล้ว 12-14 % พอ 9 เดือนที่ผ่านมาโตเหลือ 2 % ทิศทางปรับตัวลง เราต้องมาดูว่าเวลาที่เหลือ 3 เดือนนับจากนี้จนถึงสิ้นปีจะเท่ากับปีที่แล้วได้หรือน้อยกว่าปีที่แล้ว
สำหรับ ฮอนด้า เราสามารถทำได้ดีกว่าตลาด ใกล้เคียงกับแผนที่เราวางไว้ แม้ตลาดจะหดตัวลงและถ้ามองในเชิงมาร์เก็ตแชร์เราทำได้ดี ฮอนด้าตั้งเป้าไว้ 120,000 คัน
-มองสถานการณ์ตลาดรถปีหน้าอย่างไร
ส่วนปีหน้าถ้าเราดูจาก Momentum ของเศรษฐกิจ เราก็หวังว่าสักพักหนึ่งมันจะถึงจุดต่ำสุดและก็กลับขึ้นมา ซึ่งจะประเมินค่อนข้างยาก คงต้องดูว่าจังหวะมันจะกลับขึ้นมาได้อีกเมื่อไร มองกลาง ๆ มันน่าจะอยู่ระดับเดียวกับปีที่แล้ว
ส่วนตลาดอีโคคาร์ เมื่อเศรษฐกิจซบเซา ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดโดยรวม ยกเว้นตลาดบนผู้ที่มีกำลังซื้ออาจจะยังพอขายได้แต่มันเป็นตลาดส่วนน้อย แต่ตลาดรวมได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะตลาดซับคอมแพ็กเป็นตลาดส่วนใหญ่ของประเทศไทย ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน เงื่อนไขต่างๆ ในการซื้อรถจะมีความยากมากขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อผ่านไฟแนนท์ แต่ความต้องการรถยนต์อาจไม่ลดลง
-จะมีรุ่นไฮบริดมาไหม
ตาม Vision 2030 ของฮอนด้า ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าภายในปี 2030 เราจะมีรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น Plug-in Hybrid, Fuel-Cell , Battery EV หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพราะฉะนั้นจากแนวทางของฮอนด้า ทั่วโลก รวมถึงไทยจะมีการเพิ่มสัดส่วนของรถไฮบริดให้สอดคล้องตามนโยบายวิชั่น 2030 ของฮอนด้า แน่นอน
สำหรับแคมเปญ ฮอนด้า ซิตี้ ช่วงเปิดตัวใหม่ มอบข้อเสนอพิเศษ ให้กับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 –31ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 รับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี มูลค่า 6,490 บาท