ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) สร้างผลงานยอดส่งมอบทั่วโลกในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2019 จำนวน 202,318 คัน คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2018 โดยรุ่นคาเยนน์ (Cayenne) และ มาคันน์ (Macan) ยังคงเป็นรุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างสูง และรุ่นคาเยนน์ (Cayenne) เป็นรุ่นที่มีการเติบโต อย่างแข็งแกร่งด้วยจำนวนส่งมอบ 62,022 คันซึ่งเพิ่มขึ้นถึงกว่า 25 % และในรุ่นนี้ยังได้เปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ (Coupé) รวมทั้งจะตามติดมาด้วยเวอร์ชัน ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid) ในขณะที่มาคันน์ (Macan) มียอดส่งมอบถึงมือลูกค้า 73,967 คัน ส่งผลให้มีการเติบโตขึ้น 9 % จากปีที่แล้ว
ปอร์เช่สามารถรักษาตำแหน่งในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของทั้ง 2 ประเทศ รถยนต์ปอร์เช่จำนวน 64,237 คันถูกส่งมอบให้แก่ลูกค้าชาวจีนในช่วง 9 เดือนแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึง การเติบโตเพิ่มขึ้น 14 % เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2018 ทางด้านประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของปอร์เช่ มียอดส่งมอบที่เติบโตขึ้น 6 % หรือคิดเป็นตัวเลข 45,062 คัน รถสปอร์ตจากเมือง Zuffenhausen ยังคงความนิยมในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก แอฟริกา และตะวันออกกลาง โดยมีตัวเลข ยอดส่งมอบในภูมิภาคนี้ถึง 86,235 คัน ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตขึ้น 11 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลา เดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดส่งมอบลดลงอันเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทดสอบ WLTP และการบังคับใช้ gasoline particulate filters ซึ่งส่งผลต่อรถยนต์ที่พร้อมส่งมอบเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
“อัตราการเติบโตในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาทำให้เราคาดหวังถึงความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายของเราสำหรับปีนี้” ข้างต้นคือคำกล่าวของ Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาด Porsche AG
“ในช่วงกลาง มีสัญญาณของการชะลอตัวของการเติบโตในภาพรวม แต่อย่างไรก็ตามเราจะเฝ้าสังเกตการณ์ อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีเรายังคงก้าวไปข้างหน้าด้วยความหวังเต็มเปี่ยม ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณยอดสั่งจองไทคานน์ (Taycan) ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก”
ปอร์เช่ได้เปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) รถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบรุ่นแรกไปเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้จะถูกส่งมอบในสหรัฐอเมริกาได้ตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2019 เป็นต้นไป และตัวแทนจำหน่ายในยุโรปจะได้รับ รถในช่วงต้นปี 2020