ตลาดรถกระบะของเมืองไทยในพิกัดบรรทุกไม่เกินหนึ่งตันนั้นถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหากมองถึงความนิยมของลูกค้าชาวไทย รถกระบะนั้นมียอดขายถึงครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภท ซึ่งทำให้รถกระบะกลายมาเป็นโปรดักช์แชมเปี้ยนของภาครัฐในการส่งออกรถยนต์ของไทย
ดังนั้นเมื่อตลาดมีความต้องการและ SAIC มอเตอร์ ซีพี มี โมเดลแบบนี้พร้อมจำหน่ายอยู่ ทาง เอ็มจี ประเทศไทย จึงแนะนำ “เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์” เปิดตัวในฐานะกระบะน้องใหม่ล่าสุดหมายเลข 10 ของไทย พร้อมกับการสร้างกระแสเรียกความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานรถกระบะในไทยได้ไม่ใช่น้อย
...
ซึ่งความจริง เอ็มจี ศึกษาตลาดนี้มานานกว่า สามปีแล้ว แต่ยังไม่เริ่มทำตลาดเนื่องจากต้องปรับผลิตภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าชาวไทย จนกระทั่งเมื่อรถพร้อมจึงทำการเปิดตัว แต่แล้วไม่ว่าจะเตรียมตัวมาดีขนาดไหน เมื่อเข้าสู่ไลน์การผลิตจริง มีปัญหาในแง่ของการผลิตเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการใช้ไลน์ประกอบร่วมกันกับรถยนต์นั่ง จึงต้องมีการปรับไลน์ผลิตใหม่ให้เหมาะสม ทำให้การเริ่มส่งมอบล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิม
ทั้งนี้รวมถึงการปล่อยรถลงสู่โชว์รูมด้วย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพเป็นที่วางใจของลูกค้า เอ็มจีจึงยอมเสียเวลาก่อนส่งมอบดีกว่า หากส่งมอบไปแล้วทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึก ดังนั้นการให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับจึงล่าช้าตามไปด้วย แน่นอนว่า ตอนเปิดตัวนั้น เราได้ลองขับบางส่วนไปบ้างพอชิมลาง แต่คราวนี้คือการขับแบบใช้งานจริง ครบถ้วน มาดูกันว่า เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ ขับแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ใหญ่ กว้าง เครื่องเล็ก
ในส่วนของสเปคต่างๆ เราขอไม่ลงรายละเอียดลึก เนื่องจากมีข้อมูลที่ค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงขอตัดเฉพาะส่วนที่น่าสนใจ และข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้ เริ่มต้นด้วย ทุกรุ่นจะบรรจุเครื่องยนต์แบบดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน ขนาดความจุ 2.0 ลิตร พิกัดกำลัง 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ภายนอก มิติตัวถังดูใหญ่ ซึ่งก็ใหญ่กว่าแบรนด์อื่นจริงๆ ส่วนการออกแบบในแง่ของความสวยงามนั้น เราถือว่า นานาจิตตัง แต่ละคนจะมีความชอบที่แตกต่างกันออกไป สวยหรือไม่สวยนั้น เป็นความชอบส่วนบุคคลโดยแท้ สำหรับความเห็นของผู้เขียน มองว่าแปลกตาดี กลางๆ เปรียบเป็นผู้หญิงคือ คนที่ดูดี ไม่ถึงกับโดดเด่น แต่มองได้นานๆ ไม่น่าเบื่อ
สำหรับภายในห้องโดยสาร เรียกว่า ใหญ่จริง ให้ความรู้สึกที่กว้างแบบชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่น 4 ประตูตัวท็อปที่เราขับในครั้งนี้ เบาะหลังนั่งสบาย พื้นที่หน้าเข่าเหลือเฟือสำหรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูง 173 ซม. เช่นผู้เขียน ตัวพนักพิงเอน ไม่ชันมากให้ความรู้สึกที่นอนเอนหลังพอหลับไม่เมื่อย
ด้านคุณภาพของวัสดุ เป็นสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจ ผิวสัมผัสต่างๆ จับแล้วดี ให้ความรู้สึกมีคุณภาพตั้งใจในการเลือกสรรและใกล้เคียงรถเก๋ง เรียกว่าไม่น้อยหน้าเจ้าตลาด และระบบไอ สมาร์ทนั้น สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งจากการทดลองใช้ของเราในครั้งนี้ ระบบทำงานได้เสถียรดี ไม่มีแฮงค์หรือผิดพลาดแต่อย่างใด รวมถึงการสั่งการต่างๆ ผ่านแอพบนมือถือก็ใช้งานได้ดีเช่นเดียวกัน
ขับง่าย นั่งสบาย
การทดลองขับในคราวนี้ เริ่มต้นจากภูเก็ตมุ่งหน้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยรถที่นำมาให้ทดลองขับนั้นเป็นรุ่นท็อป 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ออโต้ หลังจากที่จัดแจงท่าทางการนั่งเรียบร้อย เราประจำการในตำแหน่งพลขับเป็นท่านแรก กดคันเร่งออกตัว รู้สึกคันเร่งหนักเท้า ต้องออกแรงกดมากกว่าปกติสักหน่อย
การตอบสนองทันใจดี ไม่มีอืด เพียงแค่กดคันเร่งให้ลึกสักหน่อยเท่านั้น (ไม่ใช่คิกดาวน์) ถ้ากดเพียงเบาๆ จะให้ความรู้สึกเหมือนรถช้า ส่วนการกดคันเร่งคิกดาวน์ แบบนี้รถพุ่งมาแบบทันใจ พร้อมเสียงเครื่องที่ดังทะลุเข้ามาแบบไม่ต้องสงสัย เราลองกดคันเร่งแบบเต็มตอนกลับรถ รถพุ่งพร้อมเสียงยางเอี๊ยด โดยไม่เสียการทรงตัว เรียกว่ายังเกาะถนนได้แม้จะเป็นรุ่นขับสี่ที่ตัวถังสูงกว่ารุ่นอื่นๆ
การบังคับควบคุมพวงมาลัย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากกระบะยี่ห้ออื่นๆ คือ เอ็กซ์เทนเดอร์ นั้น มีน้ำหนักที่เบามือมาก เนื่องจากการใช้พวงมาลัยไฟฟ้า หากขับในเมืองสบายอย่างแน่นอน รวมถึงคุณผู้หญิงก็จะสามารถขับได้โดยง่ายเช่นเดียวกัน แต่จะมีจุดที่ต้องระวังคือ เมื่อขับด้วยความเร็วสูง พวงมาลัย แม้จะปรับน้ำหนักให้หนักขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าเบามืออยู่ดี และขยับเพียงเล็กน้อยก็เลี้ยวแล้ว ดังนั้นจึงต้องทำความคุ้นเคยให้มากสักหน่อย
การขับส่วนใหญ่ของเราใช้ความเร็วที่ประมาณ 90-120 กม./ชม. ตามแต่สภาพการจราจรจะเอื้ออำนวย จังหวะเร่งแซงตอบสนองทันใจ มั่นใจว่าแซงพ้น สมกับพิกัดกำลังที่ระบุไว้ การทรงตัวดีตามมาตรฐานรถกระบะ ในระดับเดียวกัน เทียบเคียงได้กับเจ้าตลาด
หลังจากนั้นผู้เขียนได้มานั่งทางด้านเบาะหลัง ซึ่งนั่งสบาย ตัวเบาะรองรับพอดีตัว ไม่เล็กเกินไป แถมพนักพิงหลังยังเอนพอจะนอนได้ เมื่อเราขยับไปมาควานหาตำแหน่งที่เหมาะสมได้ “หลับสนิท” คือผลลัพธ์ของการได้นั่งหลังในการเดินทางครั้งนี้ ส่วนเสียงรบกวน (ก่อนที่เราจะหลับ) มีดังให้ได้ยินทั้งยางบดถนนและเสียงเครื่องยนต์ แต่ก็ไม่มากจนถึงขั้นรบกวนการนอน
จากหลับไปหนึ่งตื่น เราได้เปลี่ยนคัน มาลองขับรุ่นสี่ประตู ขับสอง ยกสูง ที่มีการโหลดน้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด กระบะท้ายบรรทุกถังทรงสูงใส่ทรายหนัก 550 กิโลกรัม จากขีดการรับน้ำหนักสุงสุดที่ 560 กิโลกรัมของรุ่นสี่ประตู โดยมีผู้โดยสารร่วมเดินทางรวมผู้ขับเป็น 4 ท่าน
เส้นทางช่วงนี้เป็นทางตรงยาว สลับขึ้นลงเนินเขา เอ็กซ์เทนเดอร์ ยังคงสร้างความประทับใจให้เรา ด้วยการออกตัวที่รับรู้ได้ว่ามีกำลังเหลือ ไม่อืด ช่วงลอยตัวความเร็วราว 100 กม./ชม. ขับนิ่งกว่าคันที่เราขับมาเสียอีก เราได้ลองระบบครุยซ์ คอนโทรล ใช้งานง่าย ช่วยลดความเมื่อยล้าในการเหยียบคันเร่งนานๆ ได้
การเดินทางเส้นนี้เจอพายุฝนเป็นช่วงๆ สลับถนนแห้ง เราวิ่งด้วยความเร็วราว 90-120 กม./ชม. เสียงลมฝนช่วงพายุกระหน่ำนั้นค่อนข้างดัง แต่ไม่ทำให้เราหวั่นใจ รวมถึงความแรงของพายุและความหนาของเม็ดฝนที่ต้องใช้ความเร็วใบปัดน้ำฝนเบอร์สูงสุด จึงจะพอเห็นเส้นทาง ก็ไม่ทำให้เราหวาดเสียวแต่อย่างใด ตัวรถทรงตัวได้ดี ไม่มีอาการลอยหรือร่อน ทุกคนอุ่นใจเมื่ออยู่ในเอ็กซ์เทนเดอร์
ส่วนการขับด้วยความเร็วเกินกว่า 120 กม./ชม. เราลองหลายครั้ง เสียงลมประทะค่อนข้างดังมากส่วนหนึ่งมาจากถังขนาดใหญ่และเชือกที่ยึดถังเอาไว้ ดังนั้นหากต้องบรรทุกหนัก ไม่แนะนำให้ขับเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ รวมถึงการเบรกที่ต้องใช้ระยะทางเบรกมากกว่ารถที่ไม่บรรทุก ยังไงต้องเผื่อระยะเอาไว้ด้วย
อัตราการบริโภคน้ำมัน เอ็มจี เคลมไว้ที่ 12.7 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน อีโค สติกเกอร์ ส่วนจากการขับของเรา (ไม่นับช่วงการขับแข่งประหยัด) ตัวเลขหน้าจอระบุ 11.4-11.8 กม./ลิตร ถือว่าประทับใจ
สำหรับเรื่องของอะไหล่ เอ็มจี มีการย้ายคลังอะไหล่ พร้อมจัดการระบบการกระจายอะไหล่ใหม่ โดยยืนยันว่า สามารถส่งอะไหล่ที่เป็นส่วนของการซ่อมบำรุงและชิ้นส่วนที่เสียหายบ่อยเช่น กันชน ให้สามารถถึงมือลูกค้าได้ภายใน หนึ่งวัน ทำการ คือ ถ้าสั่งวันนี้ พรุ่งนี้จะมีอะไหล่พร้อมทันที
สุดท้ายคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ คือ การบริการหลังการขาย และปัญหาในเรื่องของการใช้งานระยะยาวจะมีอะไรน่ากังวลบ้าง ยอมรับตรงๆ ว่า สองคำถามนี้ยังไม่สามารถหาคำตอบมาให้ได้ มีเพียงคำมั่นของผู้บริหารเอ็มจีว่า “เราจะทำรถที่มีคุณภาพและให้บริการอย่างดีที่สุด
เหมาะกับใคร
คนที่กำลังมองหารถกระบะไว้ใช้งาน แบบนั่งสบาย โดยไม่ชอบยี่ห้อเจ้าตลาด ซึ่งหากวัดกันที่ตัวรถเพียงอย่างเดียว มั่นใจว่าสมรรถนะ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ ไม่น้อยหน้าใคร ขึ้นกับว่า จะถูกจริตการขับของคุณหรือไม่เท่านั้น ส่วนเรื่องแบรนด์, อะไหล่, และการบริการหลังการขาย สิ่งนี้ต้องวัดใจกันในระยะยาว