ในที่สุดก็เปิดตัวออกมาแล้วสำหรับเจนเนอเรชันที่ 4 ของ B-Car ยอดนิยมของโตโยต้าที่เน้นเจาะตลาดยุโรปมาตั้งแต่ปี 1997 โดยโฉมใหม่ของ ยาริส (Yaris) จะมาพร้อมกับความสวยและสปอร์ตที่ถอดแบบสไตล์มาจาก เอสยูวีอย่างซีเอช-อาร์ พร้อมกับพื้นตัวถังใหม่ในตระกูล TNGA พร้อมเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบไฮบริดและเบนซินเทอร์โบ
ยาริส เป็นผลผลิตที่มาจากรถยนต์ต้นแบบในตระกูล Fun ของ โตโยต้าที่พุ่งเป้าในการเจาะตลาดรถยนต์ไซส์เล็กในกลุ่ม B-Car ของตลาดยุโรป โดยคันจริงที่เป็นเจนเนอเรชันแรกเปิดตัวในปารีส มอเตอร์โชว์ 1998 ซึ่งรุ่นแรกถูกพัฒนาบนพื้นตัวถัง NBC ของโตโยต้า ที่มีจุดร่วมกันคือ รถยนต์ที่พัฒนาบนพื้นตัวถังนี้มักจะมีการวางหน้าปัดและมาตรวัดรอบอยู่ตรงกลางแผงคอนโซล ก่อนที่บ้านเราจะมีโอกาสสัมผัสกับยาริสเป็นครั้งแรกกับเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมีการผลิตและจำหน่ายในบ้านเราด้วย
อย่างไรก็ตาม พอถึงเจนเนอเรชันที่ 3 ของยาริสมีความเปลี่ยนแปลงในด้านตัวถัง เพราะมีความหลากหลายและแยกกันทำตลาดในแต่ละภูมิภาค ซึ่งยาริสที่ขายในบ้านเรากับในยุโรปหรือญี่ปุ่นถือว่าเป็นคนละโฉม ดังนั้น คำถามที่ตามมาคือ โฉมที่ 4 ของยาริสจะยังเป็นแบบเดียวกันหรือไม่ ซึ่งดูจากแนวโน้มแล้ว มีความเป็นไปได้ที่โตโยต้าจะดำเนินตามรอยเดิมเหมือนกับเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งยาริส ถูกแยกออกเป็นกลุ่มญี่ปุ่น-ยุโรป และตลาดเกิดใหม่อย่างจีน บราซิล แอฟริกาใต้ รวมถึงบ้านเราที่ใช้ตัวถังคนละแบบกัน
สำหรับที่เห็นอยู่นี้คือ เจนเนอเรชั่นที่ 4 สำหรับตลาดญี่ปุ่นและยุโรป โดยตัวรถจะได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถัง TNGA-B ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรถยนต์ในกลุ่ม A และ B โดยเฉพาะ ส่วนในด้านการออกแบบนั้น ตัวรถจะมากับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูพร้อมมิติตัวถังที่มีความยาว 3,940 มิลลิเมตร กว้าง 1,745 มิลลิเมตร สูง 1,470 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,560 มิลลิเมตร ส่วนแนวทางในการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกนั้นจะมากับคอนเซ็ปต์ Condensed and Agile ให้สัมผัสที่บึกบึน ทรงพลังและปราดเปรียว โดยแนวเส้นสายบนตัวถังโดยเฉพาะส่วนท้ายแทบจะถอดแบบมาจากซีเอช-อาร์ ซึ่งทำให้ตัวถังดูบึกบึนและสปอร์ตขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ เครื่องยนต์ ซึ่งมีการเพิ่มรุ่นไฮบริดออกมา โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1,500 ซีซี พร้อมระบบเผาไหม้แบบ Atkinson Cycle และระบบวาล์วแปรผัน VVT เป็นขุมพลังหลักทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีรหัส M15A โดยในด้านตัวเลขการขับเคลื่อนยังไม่มีการเปิดเผย แต่สำหรับสเป็กญี่ปุ่นจะมากับเกียร์ CVT สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และธรรมดา 6 จังหวะสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะที่อีกบล็อกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1,000 ซีซี เทอร์โบ ที่ช่วยประหยัดน้ำมันและลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ในระดับ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ของยาริส 1 ก่อนหน้านี้ โดยในรุ่นเบนซินจะมากับเกียร์ CVT-i รุ่นใหม่
นอกจากนั้นยาริสยังยกระดับความปลอดภัยให้กับตลาดรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ด้วยระบบมากมาย ซึ่ง Toyota Safety Sense จะเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งสัญญาณเตือน Pre-collision Safety System เพื่อตรวจจับคนเดินถนน และจักรยานเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งการป้องกันอุบัติเหตุในการเลี้ยวบริเวณสี่แยก รวมถึงระบบ Dynamic Radar Cruise Control with Full-speed Range, ระบบระบบ Lane Tracing Assist, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) และระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA) รวมถึงระบบช่วยจอดรถในช่องจอดโดยอัตโนมัติ
โตโยต้า จะนำคันจริงของยาริสมาจัดแสดงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ปลายเดือนตุลาคมนี้ และจะเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนปีหน้า ส่วนบ้านเรากับยาริสอีกโฉม น่าจะต้องรออีกสักระยะ เพราะรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และเพิ่งมีการปรับโฉมไปเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าน่าจะเป็นคนละโฉมกับยาริสใหม่นี้
