“คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยในสนามระดับโลก เจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ทำเวลาตามหลังตำแหน่งโพล ในรุ่นโมโตทู เพียง 0.638 วินาที คว้ากริดสตาร์ทแถวที่ 5 มีลุ้นคว้าโพเดี้ยมในบ้านเกิดต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย

ศึกโมโตจีพี 2019 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ มีคิวระเบิดความมันส์เป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในรอบชิงชนะเลิศ
ไฮไลต์รุ่นกลางอย่างโมโตทู แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ลุ้น เมื่อนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทย “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ของ เอ.พี.ฮอนด้า สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 35 ท็อปฟอร์มกดเวลาทำความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง คว้ากริดสตาร์ทที่ 13 ได้ออกตัวจากแถวที่ 5 ตามหลังจ่าฝูงอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดสแปนิชเพียง 0.638 วินาที มีลุ้นคว้าโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย

ส่วนผลการควอลิฟายในรุ่นใหญ่ ปรากฏว่าตำแหน่งโพลในเรซนี้ตกเป็นของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รุกกี้ชาวฝรั่งเศส จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.719 วินาที ทำลายสถิติของสนามประเทศไทย ที่มาร์ค มาร์เกซ ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว ส่วนกริดที่ 2 เป็นของ มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เพียง 0.106 วินาที เท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกคนปัจจุบันจาก เรปโซล ฮอนด้า ที่พลาดล้มในช่วงท้ายการควอลิฟาย ตามหลังหัวแถว 0.212 วินาที
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของศึกโมโตจีพี 2019 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้ เริ่มต้นจากรุ่นโมโตทรี ในเวลา 11.00 น. ต่อด้วย โมโตทู เวลา 12.20 น. และปิดท้ายด้วยเรซประวัติศาสตร์อย่าง โมโตจีพี ในเวลา 14.00 น.


ศึกโมโตจีพี 2019 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ มีคิวระเบิดความมันส์เป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในรอบชิงชนะเลิศ
ไฮไลต์รุ่นกลางอย่างโมโตทู แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ลุ้น เมื่อนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทย “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ของ เอ.พี.ฮอนด้า สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 35 ท็อปฟอร์มกดเวลาทำความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง คว้ากริดสตาร์ทที่ 13 ได้ออกตัวจากแถวที่ 5 ตามหลังจ่าฝูงอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดสแปนิชเพียง 0.638 วินาที มีลุ้นคว้าโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
ส่วนผลการควอลิฟายในรุ่นใหญ่ ปรากฏว่าตำแหน่งโพลในเรซนี้ตกเป็นของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รุกกี้ชาวฝรั่งเศส จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.719 วินาที ทำลายสถิติของสนามประเทศไทย ที่มาร์ค มาร์เกซ ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว ส่วนกริดที่ 2 เป็นของ มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เพียง 0.106 วินาที เท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกคนปัจจุบันจาก เรปโซล ฮอนด้า ที่พลาดล้มในช่วงท้ายการควอลิฟาย ตามหลังหัวแถว 0.212 วินาที
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของศึกโมโตจีพี 2019 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้ เริ่มต้นจากรุ่นโมโตทรี ในเวลา 11.00 น. ต่อด้วย โมโตทู เวลา 12.20 น. และปิดท้ายด้วยเรซประวัติศาสตร์อย่าง โมโตจีพี ในเวลา 14.00 น.