เปิดใจครั้งแรกหลังย้ายทีมอย่างเป็นทางการของ “อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์” นักแข่ง F1 สายเลือดไทย-อังกฤษ โดย ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) นำคณะสื่อมวลชน เข้าร่วมสัมภาษณ์พิเศษถึงสนามแข่ง F1 ที่ประเทศสิงคโปร์ นับเป็นนักแข่งสัญชาติไทยคนที่สองที่ได้เข้าร่วมแข่งขันในการแข่งรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกรายการนี้
เขาได้รับการเลื่อนขั้นย้ายทีมกลางฤดูกาลที่ถือว่าเกิดขึ้นน้อยมาก หลังจากทำผลงานการขับเข้าตา โดยย้ายจาก Red bull Toro Rosso Honda มาอยู่ Aston Martin Red bull Racing และหลังจากย้ายทีมเขาสามารถขับจบที่อันดับ 5 และ 6 ได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนเคล็ดลับและความรู้สึกต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้างเชิญติดตามอ่านได้
มาเป็นนักแข่ง F1 ได้อย่างไร?
เริ่มจากความชอบตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อเป็นช่างอยู่ในทีมแข่งรถ ผมติดตามพ่อมาโดยตลอด ได้เห็นทีมงานเขาทำงานกันในพิต (Pit) (สถานที่เตรียมรถในการแข่งขัน) วิ่งเล่นในพิตตั้งแต่เด็ก ส่วนการเริ่มต้นขับจริงๆ ราว 11 ขวบ หลังจากนั้นก็ตะเวนแข่งไปเรื่อยๆ
ความฝันการเป็นนักขับ F1 เป็นจริง?
ผมยังไม่รู้สึกเช่นนั้น ปีนี้เป็นปีแรกของผม โดยส่วนตัวแล้ว ยังรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่จะคอยเดินดูรถ หยิบจับเครื่องมือต่างๆ อยู่ ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก
ย้ายทีมเป็นอย่างไรบ้าง?
การย้ายจากทีมน้อง Toro Rosso มาอยู่ทีมพี่ Red Bull (รถเบอร์ 23) ในแง่ของการทำงานไม่แตกต่างกัน ทุกคนเป็นมืออาชีพ จะมีบ้างในส่วนของการจัดการ แต่ภาพรวมส่วนใหญ่จะเหมือนกัน ทีมแข่ง F1 ยังไงก็คือ ทีมแข่ง F1 แต่จะมีข้อเสียเปรียบอยู่บ้างในส่วนของตัวรถซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเพื่อตัวผม เพราะผมตัวสูง (186 ซม.) ทำให้ต้องงอแขนมากกว่าปกติ และต้องคอยคุมน้ำหนักไม่ให้เกิน 80 กิโลกรัม เพื่อไม่ให้เสียเปรียบในเรื่องของน้ำหนักที่มากกว่า
กดดันหรือไม่?
ไม่นะครับ แต่ผมจะสร้างแรงกดดันให้ตัวเอง ผมชอบแรงกดดันในการแข่ง มันทำให้อะดรีนาลีนของผมพลุ่งพล่าน โดยเฉพาะเมื่อผมสวมหมวกกันน็อคและนั่งในรถแล้วเหมือนเป็นอีกคนหนึ่ง ผมจะสร้างสมาธิและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง เพื่อผลการขับที่ดี
เครื่องยนต์ฮอนด้าแตกต่างกันไหม
ข้อดีคือเครื่องยนต์เป็นของฮอนด้าทั้งสองทีม (Toro Rosso และ Red bull) ไม่มีผลมากนักในแง่ของความแตกต่าง จะมีบ้างในเรื่องของตัวรถแต่ก็เพียงเล็กน้อย
รู้สึกอย่างไรกับสนามนี้ (สิงคโปร์ เซอร์กิต)
เส้นทางสนามนั้นค่อนข้างแซงกันยาก และง่ายต่อการทำผิดพลาด เช่นรอบซ้อมผมพยายามจะเร่งให้เร็วขึ้น แต่กลายเป็นว่าเกิดข้อผิดพลาด ทำให้กันชนหน้าเสียหายเล็กน้อย โดยส่วนตัวผมชอบสนามที่เป็น สตรีทเซอร์กิต (สนามที่มาจากการดัดแปลงนำถนนจริงมาปรับเป็นสนามแข่ง) แบบนี้มากกว่าสนามที่เป็นสนามแข่งแท้ๆ รวมถึงสิงคโปร์ อยู่ใกล้เมืองไทย เปรียบเสมือนโฮมเรซของผม
เป้าหมาย
ไม่คาดหวังผลอะไร แต่ขอให้คอยดูว่า ผมจะทำให้ดีที่สุดในการแข่ง จะพยายามแข่งกับเฟอร์รารี่ ผมเชื่อมั่นว่าจะชนะได้ ส่วนวิธีเอาชนะ ขอเก็บเป็นความลับ ขณะที่ข้อมือที่ผมใส่เป็นเครื่องรางนำโชค(คล้ายสายสิญจน์) ที่แม่และน้องสาวนำมาให้เสมอๆ ซึ่งผมไปวัดไทยที่อังกฤษอยู่หลายครั้ง (อัลบอน นับถือศาสนาพุทธ)
อยากฝากอะไรถึงคนไทย
ผมเห็นธงไทยตั้งแต่ที่สนามออสเตรเลีย ผมดีใจมากที่มีคนไทยเชียร์ ประเทศไทยมีนักกอล์ฟ และนักแบดมินตัน เป็นมือหนึ่งของโลกแล้ว ผมจะพยายามทำให้เต็มที่ เพื่อให้โลกได้รู้ว่า ประเทศไทยมีนักแข่งรถอันดับหนึ่งเช่นเดียวกัน ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ประวัติ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ (หมายเลข 23 ) อายุ 23 ปี
นักแข่งสัญชาติไทยคนที่สองที่ได้เข้าแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน และเป็นหนึ่งในสามนักแข่งหน้าใหม่ของฤดูกาลปี 2562 อเล็กซ์เริ่มต้นอาชีพนักแข่งในการแข่งขันรถคาร์ท ตั้งแต่วัยเพียง 8 ขวบ ก่อนจะคว้าแชมป์หลายรายการ อาทิ ปี 2549 ในรายการ Super 1Honda NationalChampionship คลาส Cadetและปี 2552 ในคลาส KF3และก้าวสู่จุดสูงสุดในการแข่งขันระดับโก-คาร์ทในรายการ CIK-FIA World Cup
จากนั้นอเล็กซ์ได้เข้าร่วมสังกัดRedBull JuniorProgramme ในปี2555 และมีโอกาสร่วมการแข่งขันThe Eurocup Formula Renault 2.0 Series เมื่อได้ร่วมในแข่งขันสนามที่ยิ่งใหญ่ขึ้นอเล็กซ์ได้รับแรงกดดันที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เขามีความตั้งใจที่จะเป็นนักแข่งรถยนต์สูตรหนึ่งจึงฝึกฝนและหาโอกาสเพื่อแสดงศักยภาพอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เขาสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งจากการแข่งขันGP3 Series ในปี 2559 และได้ก้าวขึ้นสู่ระดับFormula 2 Championship 2 ฤดูกาล โดยเริ่มต้นด้วยการสังกัดทีมART Grand Prix และทีม The DAMSโดยจบการแข่งขันด้วยการคว้าชัยชนะ 4 ถ้วยรางวัล ในปี 2561
ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่บวกกับผลงานที่เป็นเครื่องการันตีความสามารถของเขาส่งผลให้อเล็กซ์หวนคืนสู่ เรด บูล ในสนามฟอร์มูล่า วัน โดยร่วมลงแข่งพร้อมกับคู่หูดานีล คีฟยาตให้กับทีมสคูเดอเรีย โตโร รอซโซ่ ฮอนด้า โดยทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จึงทำให้ทีมเรดบูล เรซซิ่ง ฮอนด้า ได้ตัดสินใจดึงตัวอเล็กซ์ขึ้นเป็นนักขับทีมชุดใหญ่ร่วมกับ แมกซ์เวอร์สแตปเพ็นยอดนักแข่งดาวรุ่งจากเนเธอร์แลนด์ โดยอเล็กซ์จะเริ่มขับให้กับทีมในสนามBelgian Grand Prix (สนามที่ 13)ไปกระทั่งจบฤดูกาล 2019