งานนี้ต้องอบกว่าแค่มาเล่าสู่กันฟัง เพราะหลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองกับรถสปอร์ตคันที่เห็นอยู่นี้ เนื่องจาก Bugatti เปิดเผยว่าทั้ง 10 คันที่จะผลิตออกขายได้ถูกจับจองไปตั้งแต่เปิดโปรเจ็กต์แล้ว แม้ว่า Centodieci จะมีราคาสูงถึงคันละ 8 ล้านยูโรก็ตาม
โปรเจ็กต์นี้ถือว่าเป็นการฉลองครบรอบการก่อตั้ง 110 ปีของแบรนด์ Bugatti ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1909 โดย Ettore Bugatti และพวกเขาเลือกที่จะเชื่อมโยงกับอดีตด้วยการเล่นคำและระยะเวลา โดยเลือกเอารุ่น EB110 มาเป็นพื้นฐานการสร้างสรรค์ ซึ่งรถสปอร์ตรุ่นนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1991 หรือผลิตขึ้นในวาระฉลองครบรอบปีที่ 110 ของ Ettore Bugatti (ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ถึง) อีกทั้งยังเป็นรถสปอร์ตรุ่นสุดท้ายที่ถูกผลิตขึ้นก่อนที่ Bugatti จะถึงวาระล่มสลายทางการเงินจนต้องขายกิจการให้เข้ามาอยู่ในเครือ Volkswagen ในปี 1996
สำหรับ Centodieci ถือเป็นรถสปอร์ตแบบผลิตจำกัดที่ถูกส่งลงตลาดเป็นรุ่นที่ 2 ในปีนี้ของ Bugatti โดยก่อนหน้านั้น พวกเขาเคยเขย่าตลาดระลอกแรกมาแล้วกับรุ่น LaVoiture Noire โดยรถสปอร์ตรุ่นนี้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Homage ของ EB110 หรือเป็นการสร้างสรรค์โดยอ้างอิงสไตล์และรูปลักษณ์ของ EB110 ที่มาจากผลงานการออกแบบต้นแบบของ Marcello Gandini ปรมจารย์ด้านดีไซน์รถยนต์ของสำนัก Bertone ที่เคยสร้างชื่อมาแล้วกับรุ่น Countach ของ Lamborghini
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกรายละเอียดจะถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยมีกลิ่นอายในด้านดีไซน์ของ EB110 อยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงเหลี่ยมยาว ตัวถังที่มีรูปทรงคล้ายกับลิ่ม หรือ Wedge Design เมื่อมองจากทางด้านข้าง แต่มีการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น โดยอยู่บนพื้นฐานของสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำ
ด้านขุมพลังยกชุดมาจากเครื่องยนต์ยอดฮิตในค่ายนี้คือ เครื่องยนต์เบนซิน W16 ที่มีความจุ 8,000 ซีซี และเทอร์โบ 4 ตัว รีดกำลังออกมาได้ 1,600 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที ใช้เวลาเพียง 2.4 วินาทีในการเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 6.1 วินาทีสำหรับ 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 13.1 วินาทีสำหรับ 0-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วปลายถูกล็อกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ที่ 380 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าปลดออกแล่นเกินจากนี้อย่างแน่นอน
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น เหมือนกับเล่าสู่กันฟัง เพราะแม้ว่าจะมีราคาสูงถึงคันละ 8 ล้านยูโร แต่รถสปอร์ตคันนี้ทั้งหมด 10 คันถูกจองไปหมดแล้ว ใครอยากได้ หนทางเดียวคือต้องตามแซะเอาจากคนที่ซื้อไป หรือไม่ก็กำเงินและอดใจรอตามงานประมูลรถยนต์หรู เผื่อมีใครปล่อยออกมา
