xs
xsm
sm
md
lg

เบนซ์ เปิดตัว A200 เครื่องเล็ก ออพชันแน่น เคาะราคา 2.49 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวน้องเล็กรุ่นใหม่ “ A 200 AMG Dynamic” โฉมใหม่ล่าสุด ชูจุดเด่น เครื่องยนต์เล็กแต่แรง พร้อมออพชันจัดเต็มชนิดที่รุ่นใหญ่ยังไม่มี ทั้งจอใหม่ขนาดใหญ่ MBUX รองรับความบันเทิงเต็มรูปแบบควบ Mercedes me connect เคาะราคาขาย 2,490,000 บาท

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ในตระกูล A-Class ซึ่งเข้ามาเติมเต็มรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ (Compact Car) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ปัจจุบันมีจำหน่าย 5 รุ่นย่อยได้แก่ CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic (Night Edition), CLA 250 AMG Dynamic (WhiteArt Edition), GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic


สำหรับ A 200 AMG Dynamic โฉมนี้นับเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของตระกูล A-Class ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ต ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity โครงสร้างภายนอกออกแบบ AMG เด่นด้วยการตัดทอนเส้นสาย และช่องว่างให้มีน้อยที่สุดกระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ติดตั้งตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ตรงกลาง


ด้านกว้างของตัวรถถูกออกแบบมาให้ดูทรงพลัง กระจกมองข้างนั้นอยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสารพอดี ล้อขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่ และโคมไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมระบบไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง




ดีไซน์ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย สไตล์สปอร์ตแบบ AMG กว้างขวางเพื่อประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด โดยมีพื้นที่ว่างบริเวณช่วงไหล่ ข้อศอกและเหนือศีรษะมากกว่าค่าเฉลี่ยของรถยนต์ประเภทเดียวกัน รวมไปถึงการออกแบบห้องโดยสารตอนหลังให้เข้าออกได้ง่าย ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร


พวงมาลัยของรถยนต์รุ่นนี้ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO / DINAMICA microfibre ทั้งหมด เบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 คอนโซลกลางออกแบบให้มีลักษณะคล้ายปีกที่ดูแบนราบและไร้รอยต่อจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของห้องโดยสาร



ส่วนช่องลมออกแบบโดยใช้กังหัน (turbine) เป็นต้นแบบ ระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารมีให้เลือกถึง 64 สี มากกว่ารุ่นก่อนถึง 5 เท่า ทั้งยังสามารถผสมสีสันต่างๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษได้อีก 10 สีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครอีกด้วย


แผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ จอแรกเป็นหน้าจอแบบ Widescreen ขนาดใหญ่สำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ ให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนอีกหน้าจอหนึ่งเป็นอินโฟเทนเมนต์ระบบสัมผัส (Touchscreen) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำหน้าจอระบบสัมผัสมาใช้ในรถยนต์คอมแพ็คคาร์



หัวใจมากับ เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กเพียง 1,332 ซีซี แต่ ด้วยระบบเทอร์โบ ทำให้มีกำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ซึ่งถือเป็นคอมแพ็คคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620 รอบ/นาที อัตราการปล่อยไอเสีย 119.0-124.0 กรัม/กม. และยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 5.2 ลิตร/100 กม.

ด้านเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamicมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีในรถยนต์รุ่นก่อนหน้า เช่น ระบบช่วยหยุดรถ (Active Brake Assist) ที่ได้รับพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยสามารถ ลดความเสียหายหรือป้องกันการพุ่งชนกับรถยนต์ข้างหน้าได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้รถเฉี่ยวชนกับผู้ที่ข้ามถนนหรือผู้ใช้จักรยานได้เช่นเดียวกัน




อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในตระกูลคอมแพ็คคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มาพร้อมกับระบบช่วยจอดพร้อมกล้องหลัง (Parking package with reversing camera)





ขณะเดียวกันยังมาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดอย่าง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่สามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ และถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ระบบ MBUX ทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้าและ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายมากขึ้น

ในส่วนของบริการ Mercedes me connect มาพร้อมฟังก์ชันหลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เช่น Mercedes-Benz emergency call system ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชน เซ็นเซอร์ ของระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ และส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที






Vehicle Monitoring เจ้าของรถยนต์สามารถเช็คตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ได้ผ่านแอปพลิเคชั่นของ Mercedes me connect ได้ , Vehicle Set-up ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่ อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น และส่งเป็นข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นฯให้ทั้งผู้ขับขี่ และศูนย์ซ่อมบำรุงสามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่างๆ ได้

Maintenance Management ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวัน และเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ, Remote Engine Start ฟังก์ชันเปิดเครื่องปรับอากาศทำความเย็นล่วงหน้า หรือการสั่งเปิด หรือล็อกประตูรถจากระยะไกลได้ เป็นต้น


ส่วน ระบบ MBUX นั้น เป็นระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รองรับการสั่งการผ่านหน้าจอ Widescreen ระบบสัมผัส (หน้าจอส่วนอินโฟเทนเมนต์) และ Touchpad ที่อยู่ตรงคอนโซลกลาง

ระบบนี้มีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติด้านการเรียนรู้ที่สามารถจดจำความต้องการของผู้เป็นเจ้าของผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ MBUX เป็นระบบมัลติมีเดียที่สามารถปรับแต่งหรือปรับเปลี่ยนตามลักษณะ การใช้งานจริงของผู้เป็นเจ้าของรถได้ โดยระบบนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ






Navigation ระบบนำทางแบบใหม่ GPS แม่นยำขึ้น แผนที่แสดงผลแบบสามมิติ (3D) ความละเอียดสูง ทำงานร่วมกับระบบ AR ในการนำทางโดยผู้ใช้สามารถหาจุดหมายที่ต้องการได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ นอกจากนั้น ยังสามารถรายงานสภาพถนนและสถานะของร้านค้าต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย


Personal profiles ที่จะจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนไว้ ทั้งลักษณะของการปรับเบาะ ที่นั่ง สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ สถานที่ที่ไปเป็นประจำ ฯลฯ โดยระบบนี้สามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่ได้ถึง 22 โปรไฟล์ Linguatronic ระบบสั่งการด้วยเสียงที่รองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศสของทุกสำเนียงทั่วโลก (natural speech recognition) ระบบนี้สามารถรับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเม้นท์ของรถยนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบได้เพียงพูดคำว่า “Hey, Mercedes”




Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic เปิดตัวทำตลาดเพียงรุ่นเดียวด้วยราคา 2,490,000 บาท















กำลังโหลดความคิดเห็น