เอ็มจี ประกาศเปิดตัว แซดเอส อีวี อย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 20 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ และเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนการทดสอบอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในไทย ทางเอ็มจี เซลส์ ได้จัดให้สื่อมวลชน ซึ่งมีทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ร่วมขบวนไปทดลองขับแบบสั้นๆ ในพื้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ของเอ็มจี ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้างเชิญติดตามกันได้
การทดลองขับเริ่มต้นด้วยการให้ทดลองอัตราเร่งก่อนเป็นลำดับแรก โดยใช้วิธีเหยียบเบรกให้สุด เหยียบคันเร่งให้มิดพื้น จากนั้น ปล่อยเบรกทันที รอบแรกที่เราลองทำ จังหวะออกตัวมีแรงดึงแบบหลังติดเบาะชัดเจน ความเร็วของรถพุ่งขึ้นไวมาก ถึง 100 กม./ชม. ด้วยระยะทางสั้นๆ ก่อนที่จะวนรถกลับมาเริ่มกันใหม่อีกรอบหนึ่ง
รอบนี้ทำเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือจังหวะการปล่อย รอบนี้เราปล่อยเบรกได้รวดเร็วกว่าครั้งแรก ทำให้มีเสียงของล้อดังเอี๊ยดให้ได้ยินกันทั้งลานด้วย โดยตัวเลขอัตราเร่ง ตามการเคลมของ เอ็มจีระบุ 0-50 กม./ชม. ในเวลา 3.1 วินาที และ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.8 วินาที จากการลองขับ มั่นใจว่าใกล้เคียงตัวเลขที่เคลมเอาไว้
หลังจากนั้นเป็นการไปลองขับลุยน้ำท่วม ผ่านสถานีจำลองที่มีน้ำขังสูง 40 ซม. หรือท่วมเหนือกลางดุมล้อเล็กน้อย โดยท่วมถึงใต้ท้องรถที่มีแบตเตอรี่ติดตั้งอยู่ ผลลัพธ์ รถยังคงขับได้ตามปกติ ไร้ปัญหาไฟฟ้าช็อตหรือเกิดความเสียหายแต่อย่างใด ใครที่กลัวว่ารถไฟฟ้าน้ำท่วมแล้วจะพังง่าย MG ZS EV พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หากรถที่มีเครื่องยนต์ไปได้ รถไฟฟ้าก็ไปได้เช่นเดียวกัน โดยได้รับมาตรฐานการกันน้ำ IP67 เทียบเท่ามือถือระดับไฮเอนด์
สุดท้ายกับการลองขับแบบสลาลม 2 รอบ เพื่อให้ได้สัมผัสกับความรู้สึกของการควบคุมพวงมาลัย ซึ่งขอบอกว่าไม่แตกต่างจากการขับรุ่น แซดเอส เท่าใดหนัก พวงมาลัยเบามือ ควบคุมง่าย แต่จะมีสิ่งที่ดูดีกว่า คือ การทรงตัวของรถค่อนข้างนิ่ง ไม่โยนตัวมากนัก เป็นอันว่าจบการทดลองขับแบบสบายๆ
ทั้งนี้ MG ZS EV(ในจีนทำตลาดด้วยชื่อ EZS) เปิดตัวในจีนเมื่อพฤศจิกายน 2018 และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รูปทรงภายนอกของ MG ZS EV นั้นเหมือนกับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ปกติที่ทำตลาดในบ้านเรา แต่จะมีจุดแตกต่างคือ กระจังหน้าจะเป็นแบบปิด กลายเป็นที่ชาร์จไฟฟ้า
ซึ่งการชาร์จไฟฟ้าของ แซดเอส อีวี จะมี 2 แบบ มาตรฐาน ได้แก่ D/C แบบชาร์จเร็ว จาก 0 - 80% ในเวลาเพียง 30 นาที และแบบ A/C ไทป์ 2 ชาร์จ ปกติจะใช้เวลา 6 ชั่วโมง 30 นาที แบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 44.5 kWh ตามสเปคระบุสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 428 ก.ม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ขับด้วยความเร็วคงที่ 60 กม./ชม.) ส่วนการทดสอบตามมาตรฐาน NEDC วิ่งได้ระยะทาง 335 กม.
ด้านพิกัดกำลัง MG ZS EV ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดี่ยว กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ สปีดเดียว อัตราการสิ้นเปลืองไฟ 13.8 kWh/ ระยะทาง100 กม.
สำหรับ MG ZS EV ที่จำหน่ายในประเทศจีน จะมีด้วยกัน 4 รุ่นย่อย แบ่งเกรดตามอุปกรณ์ที่ใส่ให้ไม่ว่าจะเป็น หลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ , ล้อขนาด 16-17 นิ้ว รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ฟังก์ชันล้ำสมัยเด่นๆ เช่น ระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง, การควบคุมรถจากระยะไกล, ระบบชำระเงินค่าจอดและการอัพเกรดฟรีตลอดอายุการใช้งาน เป็นต้น
การรับประกันในจีน ตัวรถรับประกัน3 ปี หรือ 100,000 กม.ตามมาตรฐาน ขณะที่ชิ้นส่วนเกี่ยวเนื่องกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะรับประกัน 8 ปี หรือ 150,000 กม. และแบตเตอรี่รับประกันเสื่อมสภาพน้อยกว่า 30% ในเวลา 8 ปี หรือ 200,000 กม.
เหนืออื่นใด MG ZS EV ผ่านมาตรฐานทุกอย่างของรถไฟฟ้าที่จะเข้าไปจำหน่ายในยุโรป โดยมีกำหนดวางจำหน่ายรุ่นพวงมาลัยขวาในประเทศอังกฤษราวเดือนกันยายนนี้ ส่วนในเมืองไทย กำหนดเปิดตัวในวันที่ 20 มิถุนายนที่จะถึงนี้ จึงมั่นใจได้ว่ารถที่นำเข้าจากจีนนั้นจะมีมาตรฐานเดียวกับที่ผลิตเพื่อส่งออกไปยุโรป โดยเอ็มจีมีแผนที่จะประกอบ ZS EV ในประเทศไทยอีกด้วย
ถึงบรรทัดนี้ สำหรับคนที่มีคำถามเรื่องราคา MG ZS EV มีราคาจำหน่ายในประเทศจีน เริ่มต้นที่ 119,800 หยวน หรือราว 600,000 กว่าบาท ส่วนตัวท็อปสุดราคาราว 750,000 บาท ทั้งนี้เป็นราคาหลังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลมณฑลของจีนแล้ว ซึ่งรวมตัวเลขคร่าวๆ จีนสนับสนุนเป็นเงินประมาณ 400,000 บาท ต่อคัน
ดังนั้น MG ZS EV เมื่อนำเข้ามาในประเทศไทย จะต้องอ้างอิงจากราคาก่อนการสนับสนุนของภาครัฐ และแม้จะไม่มีภาษีนำเข้า แต่ยังคงต้องเจอกับค่าขนส่งและภาษีสรรพสามิต 8% ภาษีมหาดไทย 10%(ของภาษีสรรพสามิต) และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 % โดยไม่มีการสนับสนุนอื่นใดนอกเหนือจากนี้อีก จึงเป็นที่คาดหมายว่า MG ZS EV จะมีราคาจำหน่ายในไทยประมาณ 1,190,000 บาท โดยจะจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวและสีเดียวเท่านั้น
