ในที่สุดเฟอร์รารี่ (Ferrari) ก็ไม่สามารถฝืดกระแสความเป็นไปของโลกได้ และล่าสุดพวกเขาได้เปิดตัวผลผลิตใหม่ที่เป็นรถสปอร์ตไฮบริดแบบ PHEV ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟบ้านได้ในรหัสSF90Stradale เป็นครั้งแรก และถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ค่ายม้าป่าผยองผลิตรถสปอร์ตแบบขับเคลื่อน 4 ล้อออกสู่ตลาด
SF90 Stradale มาพร้อมความสวยสปอร์ตในสไตล์สปอร์ตคูเป้แบบเครื่องยนต์วางกลาง ซึ่งมาพร้อมกับตัวถังที่มีความยาว 4,710 มิลลิเมตร กว้าง 1,972 มิลลิเมตร สูง 1,186 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร โดยที่มีน้ำหนักตัวมากถึง 1,570 กิโลกรัม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแบกน้ำหนักของชุดแบตเตอรี่ขนาด 7.9 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเอาไว้ โดยมีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักด้านหน้าและหลังอยู่ที่ 45% : 55%
SF90 Stradale มาพร้อมกับการออกแบบที่สวยและโดดเด่น และสิ่งที่มีตามมาด้วยนั้นคือ เรื่องของความเพรียวลมอันเป็นผลมาจากการออกแบบ ซึ่งทีมงานของเฟอร์รารี่ สามารถทำให้ตัวรถสามารถสร้างแรงกด หรือ Downforce ลงบนตัวถังเพื่อให้ตัวรถทรงตัวในย่านความเร็วสูงซึ่งเมื่อแล่นในระดับ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงจะมี Downforce เกิดขึ้นบนตัวถังราวๆ 390 กิโลกรัม สามารถตอบสนองทั้งความสวยงาม และประสิทธิภาพในการทรงตัวและการยึดเกาะถนน
ขุมพลัง PHEV ของ SF90 Stradale เป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซินวี8 4,000 ซีซี เทอร์โบคู่ ที่มีกำลัง 769 แรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 81.5 กก.-ม. ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเสริมกำลังให้อีก 217 แรงม้า และเมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกันทำให้รถสปอร์ตรุ่นล่าสุดนี้มีกำลังถึง 986 แรงม้า
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะถูกติดตั้งตามจุดต่างๆ ของตัวรถ โดย 2 ตัวแรกจะอยู่ที่ล้อหน้าฝั่งละข้าง และอีกตัวจะอยู่แทรกกลางระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ Dual-Clutch แบบ 8 จังหวะ ซึ่งตัวรถจะมีโหมดการขับอยู่ 4 แบบ คือ eDrive สำหรับการขับในรูปแบบไฟฟ้าล้วนๆ สามารถแล่นทำระยะทางได้ 35 กิโลเมตรในกรณีที่แบตเตอรี่ถูกชาร์จจนเต็ม และในโหมดนี้สามารถแล่นทำความเร็วสูงสุดได้ 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ตามด้วย Hybrid ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าในการถ่ายทอดกำลัง โหมด Performance เน้นการทำงานของเครื่องยนต์เป็นหลัก และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่แค่ชาร์จไฟเข้าระบบไม่ได้ช่วยในการขับเคลื่อน และโหมด Qualify จะเป็นแบบไฮบริดแต่เน้นสมรรถนะที่เร้าใจขึ้นโดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่ช่วยในการขับเคลื่อนเป็นหลัก
ผลที่ได้คือ สมรรถนะที่เร้าใจโดยใช้เวลา 2.5 วินาทีสำหรับช่วง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามด้วย 6.7 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง และใช้เวลา 79 วินาทีในการแล่นต่อรอบของสนามทดสอบ Fiorano ของเฟอร์รารี่โดยมีรูปแบบของการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อที่เรียกว่า E4WD ซึ่งจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยขับเคลื่อน