นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน 2562 โดยมีรายละเอียดดังนี้
-การผลิต
ในเดือนเมษายน 2562 มียอดผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 150,242 คัน เพิ่มขึ้น 11.47% แบ่งเป็นการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออก เพิ่ม 9.37%, รถยนต์นั่งและรถกระเพื่อขายในประเทศ เพิ่ม 26.99 กับ 18.74% ตามลำดับ หากเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 มียอดลดลง 24.43% เนื่องจากมีวันทำงานน้อย
ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์นั่ง มีตัวเลข 61,146 คัน เพิ่มขึ้น 9.35%, รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ผลิตได้ 34 คัน เพิ่มขึ้น 54.55%, รถยนต์บรรทุก ผลิตได้ 89,062 คัน เพิ่มขึ้น 12.97%, รถกระบะขนาด 1 ตัน ผลิตได้ 87,096 คัน เพิ่มขึ้น 13.34% และรถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน ผลิตได้ 1,966 คัน ลดลง 1.31%
ส่วนการผลิตรถยนต์ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 711,729 คัน เพิ่ม 5.52% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง มียอดผลิต 286,663 คัน โต 3.33% และมีส่วนแบ่งตลาด 40.28% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่รถยนต์โดยสาร ต่ำกว่า 10 ตน และมากกว่า 10 ตันขึ้นไป ผลิตได้ 147 คัน เพิ่ม 36.11%, รถบรรทุก ผลิตได้ทั้งสิ้น 424,919 คัน เพิ่มขึ้น 7.05% , รถกระบะ ขนาด 1 ตัน ผลิตได้ 415,434 คัน โต 7.29% มีส่วนแบ่งตลาด 25.37% และรถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน อยู่ที่ตัวเลข 9,485 คัน ลดลง 2.53%
ทั้งนี้ ยอดการผลิตรถกระบะ ขนาด 1 ตัน แบ่งเป็น รถกระบะบรรทุก มียอด 113,116 คัน เพิ่ม 3.7%, รถกระบะดับเบิลแค็ป จำนวน 250,046 คัน เพิ่ม 14.53% และรถกระบะ PPV ยอด 52,272 คัน ลดลง 12.57%
-การผลิตเพื่อส่งออก
สำหรับการผลิตเพื่อส่งออก ในเดือนเมษายน 2562 ผลิตได้ทั้งสิ้น 75,169 คัน คิดเป็น 50.03% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 2.82% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 26,718 คัน ลดลง 7.25% และรถกระบะ ขนาด 1 ตัน ตัวเลข 48,451 คัน เพิ่มขึ้น 9.37%
ส่วนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มียอดการผลิตเพื่อส่งออกทั้งสิ้น 378,792 คัน หรือ 53.22% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 1.33% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง ตัวเลข 134,319 คัน เท่ากับ 46.86% ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ลดลง 5.14% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดทั้งสิ้น 244,473 คัน เท่ากับ 58.85% ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้น 5.27 โดยแบ่งเป็นรถกระบะบรรทุก จำนวน 28,979 คัน ลดลง 3.96%, รถกระบะดับเบิลแค็บ จำนวน 184,341 คัน เพิ่มขึ้น 12.92% และรถกระบะ PPV จำนวน 31,153 คัน ลดลง 19.74%
-ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
ในช่วงเดือนเมษายน 2562 ผลิตได้ทั้งสิ้น 75,073 คัน เท่ากับ 49.97% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 21.73% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง ผลิตได้ 34,428 คัน เพิ่มขึ้น 26.99% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดผลิต 38,645 คัน เพิ่มขึ้น 18.74%
ด้านการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ผลิตได้ 332,937 คัน เท่ากับ 46.78% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 10.74% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง ผลิตได้ 152,344 คัน เท่ากับ 53.14% ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 12.15% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ผลิตได้ 170,961 คัน เท่ากับ 41.15% ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็น รถกระบะบรรทุก จำนวน 84,137 คัน เพิ่มขึ้น 6.63%, รถกระบะดับเบิลแค็บ จำนวน 65,705 คัน เพิ่มขึ้น 19.28% และรถกระบะ PPV จำนวน 21,119 คัน เพิ่มขึ้น 0.71%
-รถจักรยานยนต์
สำหรับการผลิตรถยนต์จักรยานยนต์ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มียอดทั้งสิ้น 169,306 คัน เพิ่มขึ้น 5.75% แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) จำนวน 135,386 คัน เพิ่มขึ้น 5.91% และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 33,920 คัน เพิ่มขึ้น 5.13%
ด้านยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 843,888 คัน ลดลง 1.38% แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 647,211 คัน ลดลง 3.55% และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 196,677 คัน เพิ่มขึ้น 6.48%
-ยอดการขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ในเดือนเมษายน 2562 มีจำนวน 86,076 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการของผู้บริโภคที่ยังคงเพิ่มขึ้น มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังมีต่อเนื่อง นโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรจากภาครัฐ รวมถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังคงขยายตัว
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในประเทศในเดือนเมษายน ลดลง 16.6% เมื่อเทียบกับยอดในเดือนมีนาคม 2562 เนื่องจากจำนวนวันทำงานน้อยกว่า
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 120,405 คัน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน และลดลง 28.2% จากเดือนมีนาคม 2562
ด้านยอดขายรถยนต์ ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวน 349,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.5% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 582,454 คัน ลดลง 0.7%
-การส่งออก
1.รถยนต์สำเร็จรูป
ในเดือนเมษายน 2562 ส่งออกได้ 67,114 คัน ลดลง 7.52% ต่ำสุดรอบ 24 เดือน เท่ากับ 89.28% ของยอดผลิตเพื่อส่งออก โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดออสเตรเลีย ซึ่งกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกของปีนี้ และตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงเติบโตขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น มีมูลค่าการส่งออก 35,545.33 ล้านบาท ลดลง 3.02% จากเดือนเมษายน 2561
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,719.74 ล้านบาท ลดลง 15.46%
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,462.35 ล้านบาท ลดลง 12.19%
•อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,933.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.79%
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนเมษายน 2562 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 54,660.49 ล้านบาท ลดลง 5.62%
ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 366,955 คัน ส่งออกลดลง 0.23% มีมูลค่าการส่งออก 185,200.80 ล้านบาท ลดลง 2.46%
•เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 11,017 34. ล้านบาท ลดลง 13.37%
•ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 64,694.08 ล้านบาท ลดลง 5.42%
•อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 7,789.52 ล้านบาท ลดลง 28.01%
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม - เมษายน 2562 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 268,701.75 ล้านบาท ลดลง 4.65%
2.รถจักรยานยนต์
ในเดือนเมษายน 2562 มีจำนวนส่งออก 59,011 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 8.21% โดยมีมูลค่า 4,377.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2561 ร้อยละ 14.48
•ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 207.40 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเมษายน 2561 ร้อยละ 37.78
•อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 102.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2561 ร้อยละ 10.69
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนเมษายน 2562 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 4,687.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2561 ร้อยละ 10.3
ในช่วง 4 เดือน รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 334,209 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้น 8.68% โดยมีมูลค่า 24,455.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.91%
•ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 976.22 ล้านบาท ลดลง 33.51%
•อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 451.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.82%
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ 4 เดือนที่ผ่านมา ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 25,882.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.13%
ในเดือนเมษายน 2562 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 59,347.67 ล้านบาท ลดลง 4.53%
ขณะที่ 4 เดือนที่ผ่านมา รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 294,584.61 ล้านบาท ลดลง 3.07%