บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 คือรถที่ได้ชื่อว่า ประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับค่ายใบพัดฟ้าขาวมากที่สุด โดยเฉพาะกับการทำตลาดในประเทศไทยนั้น ซีรี่ส์ 3 คือ โมเดลที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ทำตลาดแบรนด์จากแคว้นบาวาเรียในเมืองไทย หากให้นับกันจริงๆ โฉมปัจจุบันที่เห็นกันอยู่นี้คือ เจเนอเรชันที่ 7 แล้ว (อ่านตำนานประกอบ)
ซีรี่ส์ 3 เจเนอเรชันที่ 7 นี้ มีรหัสพัฒนาว่า G20 เปิดตัวสู่ตลาดโลกในงานปารีส มอเตอร์โชว์ ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2018 ส่วนในประเทศไทย เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2019 ก่อนหน้าที่งานมอเตอร์โชว์จะเริ่มขึ้น เรียกว่า บีเอ็มไทยแลนด์ ไม่ปล่อยให้ลูกค้ารอรุ่นใหม่นาน ส่วนหนึ่งเพราะเทคโนโลยีของข่าวสารบนโลกในเวลานี้รวดเร็วฉับไว ดังนั้น ทุกอย่างจึงต้องมีการปรับตัว สำหรับการทดลองขับของเราในคราวนี้ ได้รับความเอื้ออำนวยจาก บาเซโลนา มอเตอร์ ในการเตรียมให้เราขับ มาชมกันว่า มีอะไรใหม่และน่าสนใจบ้าง
นำเข้า 2 ทางเลือก
บีเอ็มดับเบิลยู เลือกทำตลาดด้วยความรวดเร็วเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นการนำเข้าแบบสำเร็จรูป ส่วนรุ่นประกอบในประเทศไทยนั้นแว่วว่าอย่างเร็วสุดคือ ต้นปีหน้า ดังนั้นหากใครซื้อตอนนี้ถือว่าคุ้มค่า ได้ขับรุ่นใหม่ก่อนคนอื่นเป็นเวลาร่วมปี ซึ่งตัวนำเข้านั้นจะมีทำตลาดด้วยกัน 2 รุ่นเครื่องยนต์คือ ดีเซล 320d และ เบนซิน 330i (ดูตารางสเปคประกอบ)
โครงสร้างตัวถัง มีการใช้ชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กชนิดแข็งเป็นพิเศษและอลูมิเนียมเพิ่มมากขึ้น โดยรูปร่างของตัวถังภายนอกได้รับการปรับแต่งให้มีความลู่ลมกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.23 (เดิม0.26) และมีน้ำหนักรวมเบาลง 55 กิโลกรัม (ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล)
ช่วงล่างได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ด้านหน้าแบบปีกนกสองชั้น (Double Wishbone) ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ระบบดูดซับแรงสะเทือนแบบไฮโดรลิค ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนโปรดติดตามในช่วงการทดลองขับ ด้านระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งรุ่นขับสองล้อหลังและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (xDrive)
สำหรับภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างมาก สิ่งแรกสุดที่น่าจะเป็นจุดเด่นคือ หน้าจอคอนโทรล ในรุ่น 320d ดีเซล จะเป็น เวอร์ชั่น ID6 ขนาด 8.8 นิ้ว หน้าปัดแบบปกติ ส่วนรุ่น 330i จะเป็น เวอร์ชันใหม่กว่า ID7 ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมด้วยหน้าปัดแบบดิจิตอล
หัวเกียร์ปรับเปลี่ยนรูปทรงใหม่ ขนาดเล็กกะทัดรัดเหมาะมือดี พร้อมกับการย้ายตำแหน่งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์มาอยู่ข้างคันเกียร์ ขณะที่ปุ่มไอไดร์ฟ มีการปรับเปลี่ยนใหม่เช่นเดียวกันให้ใช้งานง่ายขึ้น ส่วนลูกเล่นและฟังก์ชันต่างๆ นั้นบีเอ็มดับเบิลยูจัดมาให้แบบเต็มพิกัดเยอะมากเกินบรรยาย ขอบอกเฉพาะที่เด่นสุดจริง Connected Drive ที่ช่วยเราได้อย่างดีในเวลาคับขัน
ยกระดับ นุ่มหนึบสนุก
การทดลองขับในครั้งนี้ เราอยู่กับ 320d เครื่องยนต์ดีเซลเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น และหากมีโอกาสจะมานำเสนอรุ่น 330i ในคราวต่อไป ส่วนการขับขี่จะเป็นอย่างไรบ้าง ติดตามได้
กล่าวไปก็เหมือนโกหก แต่ความจริงเรารู้สึกเช่นนั้น... แค่เพียงติดเครื่องยนต์แล้วขับออกมาราว 20 เมตร ผ่านลูกระนาดเล็ก1 อัน เพียงเท่านี้ ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตก “ช่วงล่างนุ่มขึ้นแบบชัดเจน” ให้ความรู้สึกที่ดีเว่อร์ นี่คือการดูดซับแรงสะเทือนที่บีเอ็มดับเบิลยู ไม่เคยทำได้มาก่อนในซีรี่ส์ 3
สำหรับใครที่เคยลองใช้งานซีรี่ส์ 3 ทั้ง 6 เจเนอเรชันก่อนหน้า จงรำลึกและจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแล้วมาลอง G20 คุณจะพบกับความแตกต่างที่สามารถกล่าวได้ว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ทำได้แล้ว” กับการผสานความนุ่มนวลกับความหนึบในแบบสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มาจากการเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
การตอบสนองของเครื่องยนต์ อย่างที่ทราบกันว่า ในรุ่นดีเซลนั้น เป็นเครื่องยนต์ตัวเดิม แต่ทว่าได้มีการปรับจูนใหม่ ให้ตอบสนองได้ไวขึ้นกว่าเดิม โดยมีผลลัพท์แบบเป็นตัวเลขคือ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. รุ่นก่อนหน้าใช้เวลา 7.2 วินาที ส่วนตัวใหม่ที่เราขับใช้เวลา 6.8 วินาที ไวขึ้น 0.4 วินาที
กล่าวแบบตรงๆ รู้สึกว่าไวขึ้นหรือไม่ คำตอบคือ ไม่สามารถบอกได้แบบนั้น แต่ถ้าถามว่า ขับสนุกไหม ตอบแบบไม่เกรงใจใคร สนุกมาก คันเร่งเหยียบติดเท้าดีนักแล เร่งทันใจ จังหวะแซงสบายหายห่วง โดยไม่ต้องปรับโหมดการขับช่วยแต่อย่างใด โดยเฉพาะการขับดัวยความเร็วสูง ยังสามารถกดคันเร่งคิกดาวน์ได้อยู่
ความเร็วสูงสุดที่เราลองขับได้ถึงราว 188 กม./ชม. ตามสภาพการจราจรที่เอื้ออำนวย รถยังคงนิ่งแบบมั่นใจ ส่วนเสียงลมปะทะเริ่มดังเข้ามาให้ได้ยินที่ความเร็ว 160 กม./ชม. ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมแน่นอนว่าต้องขอบคุณการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุที่ป้องกันเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี เช่น การใช้กระจกหน้าแบบอัดซ้อนลดเสียงสะท้อน เป็นต้น
การบังคับควบคุมพวงมาลัย แม่นยำตามสไตล์ของค่ายใบพัดฟ้าขาว ส่วนสิ่งที่เราไม่ชอบคือ แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ ที่เรารับรู้ได้ทันทีหลังติดเครื่องยนต์ว่านี่คือ รถดีเซล แม้ว่าก่อนหน้าจะยังไม่ทราบว่าได้ขับรุ่นใด แม้ไม่แรงแต่เพียงพอให้รู้สึกได้
ในช่วงของการขับขึ้นเขาใหญ่ เส้นทางค่อนข้างคดโค้ง ทำให้เราได้ลองเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ขอชมว่าประทับใจไม่เสียชื่อซีรี่ส์ 3 เป็นไปตามที่เราคาดไว้ แม้ว่าจะนุ่มขึ้น แต่ไม่สูญเสียสมรรถนะความหนึบในแบบของบีเอ็มดับเบิลยูไป ย้ำตรงนี้อีกครั้งว่าต้องได้ลองเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่านุ่ม หนึบ นั้นเป็นเช่นนี้ นี่เอง
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ฟันธงเลือกระหว่าง รุ่นเบนซิน หรือดีเซล เวลานี้เราได้ลองเพียงรุ่นดีเซลเท่านั้น จึงยังไม่อาจจะฟันธงไปได้ แต่หากดูเฉพาะแค่ ส่วนต่างราคา (ราว 400,000 บาท) กับออพชันที่ได้รับเพิ่มขึ้นมา เทียบกันแล้ว เรียนตามตรงว่า 330i ดูน่าสนใจมากกว่า สอดรับกับทิศทางของผู้บริโภคที่เวลาหากจะจองรุ่นเบนซิน ต้องรอรับรถนานเกินหนึ่งเดือน ส่วนรุ่นดีเซลนั้น รับรถได้ทันที
เหมาะกับใคร
ซีรี่ส์3 ชื่อนี้การันตีความขับสนุก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือช่วงล่างที่ลงตัว นุ่ม หนึบ รับรองได้ว่า สาวๆ ไม่บ่นเรื่องความแข็งกระด้างอย่างแน่นอน และคุณผู้ชายยังคงบันเทิงกับการขับขี่ได้เช่นเดิม แน่นอนว่าด้วยการเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูป ราคาค่าตัวจะสูงกว่าปกติ แต่เมื่อเทียบกับรุ่นประกอบในประเทศที่กว่าจะออกมาคือปีหน้า ส่วนต่างราคาราว 300,000 บาท แลกกับการได้ขับก่อนเป็นปี แบบนี้ไม่เรียกว่าคุ้มแล้วจะให้เรียกว่าอะไร