สายพันธุ์ Versa ของนิสสันที่ขายอยู่ในตลาดอเมริกาเหนือนั้นคือ การนำรถยนต์รุ่น B และค่อนข้างไปทาง C-Segment ในตลาดกลุ่มอื่นมาเปลี่ยนชื่อขาย เพราะอย่างรุ่นแรกก็ใช้นิสสัน Tiida ส่วนรุ่นที่ 2 ก็เปลี่ยนมาเป็น Almera โฉมเดียวกับบ้านเราและเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ดังนั้น เมื่อตลาดอเมริกาเปิดตัว Versa รุ่นที่ 3 ออกมา ก็เลยมีข้อสงสัยว่า แล้ว Almera บ้านเราละ จะใช้หน้าตาเดียวกันหรือไม่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนโฉมหรือโมเดลเชนจ์
สำหรับรุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้วสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ โดยในตลาดสหรัฐอเมริกา Versa จะถูกวางให้อยู่ในกลุ่ม B-Segment ซึ่งมีระดับตลาดต่ำกว่า Sentra โดยรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมานั้นจะแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมบนพื้นตัวถัง V Platform แบบเดียวกับ นิสสัน Micra หรือ March ซึ่งนำมาใช้ตั้งแต่รุ่นที่แล้วและในรุ่นปัจจุบัน
แน่นอนว่า Versa คือ เวอร์ชันซีดานของ Micra/March มาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นที่ 2 หรือรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบันที่อยู่ในเมืองไทย ดังนั้นเมื่อในยุโรปมีการเปลี่ยนโฉม Micar/March ก็เลยต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามด้วย โดยในรุ่นใหม่นี้จะยกสไตล์การออกแบบที่เน้นความสปอร์ตด้วยเส้นสายที่เฉียบคมเหมือนกับ Micra/March ใหม่รุ่นที่ 5 หรือรหัสตัวถัง K14 ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2017
ทั้ง 2 รุ่นแชร์โครงสร้างตัวถังครึ่งหน้ารวมถึงแผงหน้าปัดร่วมกัน โดยที่ชิ้นส่วนของตัวถังในช่วงครึ่งแรกของตัวรถมีความคล้ายกันในหลายจุด ขณะที่ตัวถังส่วนท้ายมีการออกแบบใหม่ให้เป็นแบบซีดาน 4 ประตู โดยมีความยาวและความกว้างของตัวถังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมราวๆ 1.6 และ 1.8 นิ้วตามลำดับ ขณะที่สไตล์การออกแบบใช้แนวทางหรือ Design Language ที่เรียกว่า Emotional Geometry
รายละเอียดที่เปิดออกมาในตอนนี้คือ การใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี 122 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 15.7 กก.-ม. เลือกได้ว่าจะส่งกำลังสู่ล้อหน้าระหว่างเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ Xtronic CVT
เปิดตัวออกมาแล้วก็จริง แต่จะเริ่มส่งมอบและทำตลาดในอเมริกาเหนือช่วงปลายปีนี้ โดยเป็นรถยนต์ My 2020 ส่วนบ้านเราก็ต้องรอดูคำตอบกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ดูแล้วว่า ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับ March ที่ยังขายรุ่นเดิมอยู่
นิสสัน Almera เป็นที่รู้จักของคนอเมริกาในชื่อ Versa จึงมีความเป็นไปได้ว่า Versa ที่เพิ่งเปิดนี้ อาจจะกลายมาเป็นรถอีโคคาร์ โฉมใหม่ในบ้านเรา หรือไม่ก็ต้องรอลุ้นกันไป
