รถยนต์ครอบครัวในกลุ่ม D-Segment ที่สร้างชื่อให้กับ ฮุนไดมานานอย่างรุ่น โซนาต้า (Sonata) เตรียมพร้อมลุยตลาดอีกครั้งกับการโมเดลเชนจ์หรือเปลี่ยนโฉมครั้งใหม่ โดยจะเปิดตัวและเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการปลายปีนี้ พร้อมกับรูปลักษณ์ที่สุดสปอร์ตที่พัฒนามาจากต้นแบบรุ่น Le Fil Rouge ที่เปิดตัวงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2018
ชื่อของโซนาต้าเป็นที่รู้จักของนักขับทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 1985 และมีจำหน่ายมาแล้ว 7 เจนเนอเรชันโดยถือเป็นคู่ปรับโดยตรงของรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง โตโยค้า คัมรี่ ,ฮอนด้า แอคคอร์ด และ นิสสัน แม๊กซิม่า หรือ เทียน่า ในบ้านเรา ซึ่งโฉมใหม่ที่จะเริ่มขายต้นปีหน้านั้นจะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 8 ซึ่งทางฮุนได บอกว่าจะมีการปรับแนวทางในการนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวรถใหม่หมด โดยหันมาเน้นความสปอร์ตในแบบ ‘Coupe-Like Silhouette’ ให้มากขึ้น
Sang Yup Lee หัวหน้าทีมออกแบบของฮุนได ดีไซน์ เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ตัวรถจะมาพร้อมกับโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าที่สั้นลงจากเดิม พร้อมกับเสาด้านหลังที่มีความลาดเทและบานประตูคู่หลังจะถูกออกแบบให้กลมกลืนไปกับตัวถังส่วนท้าย ซึ่งเส้นสายและรูปแบบหลักของตัวรถจะถูกสร้างขึ้นจากผลงานต้นแบบรุ่น Le Fil Rouge ซึ่งได้รับรางวัลรถยนต์ต้นแบบยอดเยี่ยมจากงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2018
ในเรื่องของมิติตัวถังนั้น แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนออกมา แต่ทางฮุนไดยืนยันว่าตัวรถจะมีการเพิ่มสัดส่วนขึ้นจากรุ่นเดิมทั้งการขยายความกว้างขึ้นอีก 25 มิลลิเมตรแต่ลดความสูงลงอีก 30 มิลลิเมตร เพื่อให้ตัวรถดูแบนและมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ขณะที่ความยาวเพิ่มอีก 45 มิลลิเมตร พร้อมกับขยายระยะฐานล้ออีก 35 มิลลิเมตร จึงทำให้พื้นที่วางขาของเบาะนั่งด้านหลังเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย
ห้องโดยสารมากับแนวทางที่เน้นความเรียบง่ายแต่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานอย่างครบครัน โดยบนแผงคอนโซลกลางจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการระบบอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร ขณะที่มาตรวัดจะถูกออกแบบให้เป็นแบบแสดงผลผ่านทางหน้าจอ ไม่ใช่แบบอะนาล็อคเหมือนกับที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ซึ่งเป็นฐานคันเกียร์นั้นจะถูกยกให้สูงและเล่นระดับขึ้น ดูแปลกตา พร้อมกับเปลี่ยนจากด้ามเกียร์มาเป็นปุ่มกดแทน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับตลาดนอกเกาหลีใต้จะได้สัมผัสในโซนาต้าใหม่มีเครื่อง 1,600 ซีซี เทอร์โบ T-GDI และเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี GDI โดยเครื่องยนต์แรกถึงแม้จะมีความจุน้อยกว่าแต่มีความฉลาดกว่าด้วยความสามารถผลิตกำลังได้ 180 แรงม้า แรงบิด 264 นิวตัน-เมตร ขณะที่เครื่องยนต์อีกรุ่นที่มีความจุมากกว่ามีกำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร โดยที่ทั้ง 2 เครื่องยนต์จะมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ในขณะที่อีก 2 ทางเลือกที่เพิ่มขึ้นของโซนต้าใหม่สำหรับตลาดในเกาหลีใต้มีทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี 158 แรงม้า และเครื่องยนต์ไฮบริด 2,000 ซีซี 144 แรงม้า
รายละเอียดทั้งหมดจะมีการเปิดเผยในช่วงก่อนการเริ่มขายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นช่วงเดือนกันยายน ส่วนบ้านเราก็ต้องรอดูกันว่าทางฮุนได จะลุยต่ออีกยกไหมสำหรับตลาด D-Segment
