“ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูคนแรกของไทย มองศึกดวลความเร็ว โมโตจีพี 2019 ในสุดสัปดาห์นี้ ที่เมืองลุงแซม เชื่อหากดาวบิดรุ่นน้อง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา มีความมั่นใจ ขี่แล้วสนุก ไร้ความกดดัน ไม่ว่าจะลงแข่งสนามไหนก็สู้ได้แน่นอน
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เพิ่งสร้างผลงานสุดทึ่ง หลังบิดเข้าเส้นชัยอันดับ 10 ที่อาร์เจนติน่า เก็บ 6 แต้มแรกของตัวเอง ในศึกใหญ่ระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู เมื่อปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
ขณะที่สุดสัปดาห์นี้ มีคิวชิงชัยสนามที่ 3 ของฤดูกาล ในรายการ ยูเอส กรังด์ปรีซ์ บนสังเวียน เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์ เมืองออสติน ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2562 ซึ่งจะเป็นอีกครั้งที่เจ้าของฉายา “คิงคองก้อง” ต้องลงแข่งขันในสนามที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
ด้าน “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ทูตด้านมอเตอร์สปอร์ต (Race Ambassador) ในโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมไม่ห่วงเลยครับ เพราะตอนนี้ผมว่าน้องก้องมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น หลังผ่านสนามที่อาร์เจนติน่า ยิ่งติดท็อปเท็นและคว้าแต้มแรกมาได้แล้ว นี่คือสิ่งสำคัญมาก เพราะจะได้ไม่กดดันตัวเองด้วย”
“ส่วนเรื่องสนามที่ไม่เคยขี่มาก่อน หรือกระทั่งเรื่องรถที่ยังต้องปรับตัว ผมว่าก็เหมือนที่อาร์เจนฯ นั่นแหละ บางทีเขาขี่แล้วอาจจะชอบก็ได้ ถ้าก้องมีความมั่นใจ ขี่แล้วสนุก ไม่ว่าจะเป็นสนามไหน ผมว่าเขาสู้ได้ครับ”
อดีตนักบิดโมโตทูคนแรกของไทย เผยต่อว่า สำหรับเป้าหมายขอให้เน้นเก็บประสบการณ์จากการแข่งขัน เนื่องจากปีนี้แค่เริ่มต้นก้าวแรกเท่านั้น
“ถ้าเก็บแต้มได้ก็ถือว่าเป็นโบนัส จริงๆ ผมอยากให้เขาได้เรียนรู้จากตัวรถ จากสนาม จากนักแข่งในระดับโลก เพราะอนาคตเขาจะต้องพัฒนาไปสู่จุดนั้น ตามแผนโร้ดแม็ปของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่จะผลักดันนักบิดไทยสู่การแข่งขันโมโตจีพี ภายในปี 2025 ครับ” รัฐภาคย์ กล่าวทิ้งท้าย.