xs
xsm
sm
md
lg

Ferrari 812 Superfast ดิบ แรง เนียน ถูกใจรุ่นใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คำว่า ซูเปอร์คาร์ นั้นปัจจุบันเราเรียกรถสปอร์ตที่มีความแรงและราคาสูงแทบทุกคันว่าเป็น ซูเปอร์คาร์ ซึ่งไม่ถือว่าผิดแต่ประการใด เพราะเมื่อมองถึงผลลัพธ์ความแรงที่ได้ ทั้งแรงม้าและความเร็วสูงสุด รถสปอร์ตคาร์ยุคนี้ ทำได้ดีกว่ารถซูเปอร์คาร์ยุคก่อนมาก





ทั้งนี้ สำหรับรถในอดีตที่ถูกเรียกว่าเป็น ซุปเปอร์คาร์ นั้น จะต้องมีสิ่งสำคัญประการหนึ่ง นั่นก็คือ เครื่องยนต์แบบ V12 อันเป็นหัวใจที่บ่งชี้ว่า นี่คือรถสปอร์ตระดับซุปเปอร์คาร์ แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปมาก รวมถึงทิศทางการพัฒนารถที่ทุกค่ายต่างลดขนาดของเครื่องยนต์ลง รวมถึงการถือกำเนิดของไฮเปอร์คาร์ ที่มีความแรงมากกว่าซุปเปอร์คาร์ ทำให้เครื่องยนต์แบบ V12 เริ่มหายไปจากการทำตลาด


เฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ เปิดตัวทำตลาดไปเมื่อปี 2017 หรือราวปีกว่าๆ ที่ผ่านมา และหากข่าวของเราไม่ผิดพลาดนี่คือ รถรุ่นสุดท้ายของเฟอร์รารี่ที่จะใช้เครื่องยนต์แบบ V12 ในการทำตลาด ดังนั้น เพื่อไม่ให้พลาดการเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน ทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง จึงขอนำเสนอบททดลองขับ ม้าลำพอง เจ้าของฉายา เร็วโคตรๆ ตัวนี้ กันสักหน่อย

-V12 ไร้เทอร์โบ 800 แรงม้า

เริ่มกันด้วยหัวใจของ เฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 6.5 ลิตร แบบ V12 สูบ ให้กำลังสูงสุด 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 715 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.9 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.

ขณะที่ตัวถังภายนอกได้รับการออกแบบในลักษณะของการผสมผสานระหว่างความเป็นคลาสสิกและความทันสมัย บนพื้นฐานของหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเป็นรถกึ่งจีที ที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระทางด้านหลังได้มากกว่ารถรุ่นอื่นๆ ของเฟอร์รารี่


ด้วยการวางเครื่องยนต์ไว้ทางด้านหน้า จึงทำให้ฝากระโปรงหน้ารถค่อนข้างยาว และมีการใส่ช่องดักลมเอาไว้ด้วย เส้นสายการดีไซน์มีความโค้งมน จนทำให้เรานึกไปถึงรถในยุค 70s - 80s เลยทีเดียว ด้านท้ายมีการเพิ่มช่องดักลม เพื่อช่วยสร้างแรงกดแทนการใช้สปอยเลอร์


การออกแบบภายใน ยังคงยึดแนวทางปัจจุบันของเฟอร์รารี่ ที่ผู้เขียนขอชื่นชนว่า สวยถูกใจมาก ด้วยช่องแอร์รูปทรงเครื่องยนต์เจ็ตช่อง เบาะนั่งแบบรถแข่งกระชับตัว และในรุ่นนี้ถือว่า เบาะมีขนาดใหญ่ รวมถึงความสูงภายในห้องโดยสารที่มากกว่ารุ่น 488 ทำให้คนตัวใหญ่นั่งได้สบายกว่า





อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชอบออพชันเสริมความสบาย บอกก่อนตรงนี้ว่า อาจจะต้องผิดหวัง เนื่องจากเฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ คอนโซลกลางไม่มีจอ และมีเฉพาะฟังก์ชันที่จำเป็นต่อการขับขี่เท่านั้น เฟอร์รารี่ยังคงยึดแนวทางการให้พวงมาลัยเป็นจุดศูนย์กลางของการควบคุมรถ ผู้ขับสามารถส่ังการทุกอย่างได้ โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย

-แรงหลังติดเบาะ

ว่าด้วยการทดลองขับนั้น ด้วยข้อกำหนดของทางผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “คาวาลลิโน มอเตอร์” ทำให้เราเลือกวิ่งที่พื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่รบกวนผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป ความรู้สึกแรกต้องบอกตั้งแต่ติดเครื่องยนต์ว่า เร้าใจมาก ด้วยเสียงของท่อไอเสียและเครื่องยนต์ที่คำรามตลอดเวลา แม้จะไม่ได้กดคันเร่งหนักแต่อย่างใด ระบบการใช้เกียร์ของเฟอร์รารี่ นอกจากรองรับความแรงแล้วยังสร้างมาบนพื้นฐานของความปลอดภัยเป็นหลัก

การจะเข้าเกียร์เดินหน้าเพื่อให้รถเคลื่อนตัวออก เริ่มด้วยการกดที่แพดเดิลชิฟขวาหลังพวงมาลัย และเท้าจำเป็นต้องกดแป้นเบรกด้วย เกียร์จึงจะเปลี่ยนจากเกียร์ว่างมาเป็นเดินหน้า อย่างไรก็ตามแม้จะเข้าเกียร์แล้ว แต่รถจะยังไม่เคลื่อนตัวออก หากไม่กดคันเร่ง นับเป็นระบบเซฟตี้เพื่อความปลอดภัยอย่างสูง ส่วนเมื่อหยุดแล้วอยากจะเข้าเกียร์ว่าง ต้องกดแพดเดิลชิฟซ้ายและขวาพร้อมกัน จึงจะเป็นการเข้าเกียร์ว่าง

จบจากการเข้าเกียร์มาสู่เรื่องของความรู้สึกในการทดลองขับ ช่วงแรกเราขับแบบปกติธรรมดา ด้วยความเร็วมาตรฐานทั่วไป ไม่เกิน 120 กม./ชม. กดคันเร่งแบบสบายๆ ไม่มีคิกดาวน์ การตอบสนองทันใจดี ขับง่าย พวงมาลัยเบามือ เพราะเป็นรุ่นแรกของเฟอร์รารี่ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า

ทัศนวิสัยต่างๆ ชัดเจนดี เสาเอไม่ใหญ่จนเกินไป พื้นที่ในห้องโดยสารให้ความรู้สึกกว้างดี คนตัวใหญ่ไม่อึดอัดอย่างแน่นอน กระจกมองข้างไม่ยาวจนเกินไปเหมือน 488 ที่ทำให้หลายคนหวาดเสียวเวลาขับในเมือง เพราะกลัวมอเตอร์ไซค์มาเฉี่ยวไปกิน




เมื่อเราจอดติดไฟแดงเป็นคันแรกตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ กดคันเร่งออกตัวแบบคิกดาวน์ แรงดึงมหาศาล ทำให้หลังติดเบาะ ตัวรถมีอาการดิ้นเล็กน้อยพอจะส่งให้อะดีนาลีนหลั่งแบบพุ่งพล่านได้ทันที แต่มั่นใจได้ว่าเอารถอยู่ไม่หลุดลงข้างทางแต่อย่างใด ซึ่งการดิ้นนั้น คือ ความตั้งใจของทีมวิศวกรเฟอร์รารี่ ที่อยากผู้ขับขี่สนุกกับการขับนั่นเอง

ช่วงทางตรงยาว เราลองอัตราเร่งกดคันเร่งแบบคิกดาวน์ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เสียงเครื่องยนต์และท่อไอเสียคำรามสนั่นเข้ามาในห้องโดยสารที่แม้จะมีการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีระดับหนึ่ง แต่เกินจะต้านทานเสียงคำรามนั้นได้ ตัวรถพุ่งทะยานไปแตะที่ความเร็วระดับ 200 กม./ชม. แรงดึงหลังติดเบาะเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่น คือ การดึงของเฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ จะขึ้นแบบเนียนๆ ไม่กระชากทันที และหลังการผ่อนคันเร่ง แรงดึงยังคงค้างอยู่ไม่หายไปเหมือนรถที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งความรู้สึกแบบนี้หาได้เฉพาะรถที่มีความแรงโดยไม่ใช้ระบบอัดอากาศเท่านั้น

เราได้ลองขับแบบกดคันเร่งเช่นนี้อยู่หลายรอบจนหนำใจ สนุกและเพลิดเพลิน โดยไม่เหนื่อยล้าแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังได้ลองกลับรถบนถนน 2 เลน ที่มีไหล่ทาง พบว่า เฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ สามารถกลับรถได้พอดีโดยไม่ต้องถอยหลัง แสดงว่ารัศมีวงเลี้ยวแคบและคล่องตัว แม้บอดี้ภายนอกจะดูใหญ่และหน้ารถยาวก็ตาม

ส่วนสิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษของรุ่นนี้ คือ ระบบเบรก หลายจังหวะที่เราลองเบรกแบบหนักๆ ให้ความรู้สึกที่มั่นใจว่า เอาอยู่แบบ 100% รถบางรุ่นแรงจริง แต่เมื่อเบรกแล้วกลับมีอาการหวาดระแวงอยู่บ้าง เพราะบางทีแรงเกินระบบเบรก เรียกว่า แม้จะมีกำลังมากถึง 800 แรงม้า แต่มั่นใจได้ว่า เบรกเอาอยู่

แต่สิ่งที่ไม่ถูกจริตเรา คือ ส่วนของราคาค่าตัวที่ขายเป็นสกุลยูโร 787,000 ยูโร หรือประมาณ 13 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นเพราะ คาวาลลิโน มีนโยบายชัดเจนในเรื่องของการจ่ายภาษีให้รัฐแบบครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ แถมรถทุกคันที่ขายจะไม่มีส่วนลดใดๆ แม้แต่ผู้บริหารซื้อเอง ก็ต้องจ่ายในราคาเต็มเท่ากับลูกค้าทุกคน

-เหมาะกับใคร

หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา เฟอร์รารี่ 812 ซูเปอร์ฟาสต์ ตอบโจทย์คนที่อยากได้ซูเปอร์คาร์ เครื่องยนต์ 12 สูบไร้ระบบอัดอากาศ ที่ภายในกว้าง ขับสบาย และยังตอบโจทย์ให้กับนักสะสมซูปเปอร์คาร์ เพราะนี่คือ หนึ่งในคอลเลคชันที่คุณควรจะมีไว้ V12 รุ่นสุดท้ายของม้าลำพอง




กำลังโหลดความคิดเห็น