ประเทศไทยเนื้อหอม “รอยัล เอนฟิลด์” สยายปีกขึ้นไลน์ประกอบรถจักรยานยนต์ครบทุกรุ่นในเมืองไทย คงราคาขายเท่าเดิม คาดแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ตั้งเป้าครองแชมป์ตลาดรถขนาดกลาง 250-750 ซีซี พร้อมขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายสิทธัตถะ ลาล ประธานบริหาร รอยัล เอนฟิลด์ เปิดเผยว่า หลังจากที่รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ เข้ามาทำตลาดในปรเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดของเมืองจักรยานยนต์ไทยมีศักยภาพสูงมากแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ จึงได้ตัดสินใจ ลงทุนขยายฐานการผลิตเพื่อประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย
สำหรับการขึ้นไลน์ประกอบดังกล่าวจะเป็นการร่วมมือกับ บริษัท ยูไนเต็ด ออโต้ ที่มีโรงงานประกอบรถยนต์อยู่แล้ว โดยทางรอยัล เอนฟิลด์ จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนของสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ ในการประกอบรวมถึงชิ้นส่วนที่ใช้ เช่น เครื่องยนต์ที่นำเข้าจากอินเดีย ขณะที่ชิ้นส่วนของโครงสร้างตัวถัง ใช้ผู้ผลิตในประเทศไทยได้แก่ ไทยซัมมิท อยู่แล้ว
“นี่คือโรงงานแห่งแรกนอกประเทศอินเดีย เราเลือกประเทศไทย เพราะตลาดรถจักรยานยนต์ของไททยมีการตอบรับที่ดีในแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ และ นโยบายภาครัฐนั้นส่งเสริมให้สามารถทำได้ง่ายและดีกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ รวมถึงการมีซัพพลายเออร์พร้อมสรรพ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคนี้ได้อีกด้วย โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล” นายสิทธัตถะ กล่าว
ทั้งนี้ การประกอบรถจะเริ่มต้นภายในเดือนมิถุนายน กำลังการผลิตคาดว่าจะไม่น้อยกว่าเดือนละ 100 คัน โดยจะเป็นการผลิตทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยครบทั้ง ฮิมาลายัน, คลาสสิค, บุลเล็ต, คอนติเนนทอล จีที และอินเตอร์เซปเตอร์ ซึ่งจะมีการใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นจนถึงเกณฑ์ที่สามารถส่งออกได้ และจะไม่มีการปรับราคาจำหน่ายแต่อย่างใด เนื่องจากราคาปัจจุบันนั้นสัดส่วนกำไรน้อยอยู่แล้ว
นายสิทธัตถะ กล่าวว่า เป้าหมายของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศไทยคือการขึ้นเป็นที่หนึ่งตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางตั้งแต่ 250-750 ซีซีในเวลา 5-10 ปีข้างหน้า ที่ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 15,000 คันต่อปี สำหรับยอดขายในปีที่แล้ว รอยัล เอนฟิลด์ขายได้ 1,400 คัน ขณะเดียวกันมีแผนที่จะขยายดีลเลอร์สโตร์เพิ่มจาก 3 แห่งเป็น 15 แห่ง และเพิ่มศูนย์บริการเฉพาะทางอีก 25 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความสะดวกและมั่นใจให้กับลูกค้าทุกคน
