โตโยต้า มอบโอกาสดี ๆ ให้แก่นักศึกษา จากรั้วมหาวิทยาลัยที่ชนะการประกวด 3 อันดับแรกจากโครงการ “Toyota Campus Challenge 2018” ดูงานด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำความรู้ ความคิด ด้านการขับขี่ไปปรับใช้และต่อยอดของโครงการแต่ละมหาวิทยาลัยที่ทำแผนขึ้นมา
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เท่านั้น ยังดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมในหลายด้าน และหนึ่งในนั้นคือ “โครงการถนนสีขาว” ซึ่งดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 31 ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญในการเคารพกฎจราจรและมีน้ำใจต่อกันบนท้องถนน
หนึ่งในกิจกรรมของโครงการถนนสีขาว คือ การประกวดแผนขับขี่ปลอดภัย พร้อมทั้งรณรงค์จริงในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อก่อให้เกิดการรับรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างรอยยิ้มและลดการสูญเสียแก่สังคมไทยภายใต้ชื่อ “Campus Challenge”
กิจกรรม “Campus Challenge” ภายใต้โครงการถนนสีขาว ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 โดยให้นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการออกแบบแผนประชาสัมพันธ์และรณรงค์สร้างความปลอดภัยบนท้องถนนในรั้วมหาวิทยาลัยจนถึงการลงมือปฏิบัติเพื่อลดอุบัติเหตุจริง โดยคาดหวังให้ความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่นี้ เป็นพลังขับเคลื่อนในการสร้างวินัยและน้ำใจ เพื่อสร้างสังคมคนขับรถดี อันจะนำไปสู่ถนนสีขาวหรือถนนปลอดอุบัติเหตุได้อย่างแท้จริงในอนาคต
สำหรับกิจกรรม “Campus Challenge 2018 ” ได้ตัดสินไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561
ส่วนทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีมญี่ปุ่นยืนหนึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีนักศึกษาร่วมกันทำ 4 คน คือ นางสาวภัทริกา สาสกูล , นายธนวัฒน์ สิงหเสนี ,นางสาวธาราทิพย์ บุญสนิท และนางสาวจริญา พร้อมสมบูรณ์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีม 4 Angies มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มีนักศึกษาร่วมทีม 4 คน คือ นายดนัย เรือนเงิน ,นายอดิรุจ ใจปาละ, นางสาววิจิตรา คำมณี และนายกฤษดา สีโยยอด
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมชูโล่จัง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีนักศึกษาร่วมกันทำ 4 คน คือ นายสุรเชษฐ์ ศรีลามาตย์ ,นายพฤษโชค โพธิ์สีดา ,นายพบณรงค์ บุญฑล และนางสาวจุรีลักษณ์ ป้องทัพไทย
ทั้ง 3 ทีม ได้เดินทางไปทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษา และเงินสนับสนุนมอบให้มหาวิทยาลัยดำเนินกิจกรรมต่อยอด 6 เดือน เพื่อที่จะร่วมสร้างความปลอดภัยบนถนนให้แก่สังคมไทยเป็นถนนสีขาวหรือถนนแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
สำหรับแหล่งการศึกษาที่น้องได้ไปศึกษาเรียนรู้ ได้แก่
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (Toyota Techno Museum) แหล่งเรียนรู้สถานที่แรกที่ให้น้องๆ ได้รู้จักประวัติความเป็นมาของโตโยต้า การวิวัฒนาการของรถรุ่นต่างๆ ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งการประกอบรถโครงสร้างของรุ่นต่างๆ และได้สัมผัสรถยนต์รุ่นแรกของ โตโยต้า นั่นคือ Toyota AA Model
พิพิธภัณฑ์โตโยต้า (Toyota Kaikan Museum) สัมผัสความล้ำหน้าของเทคโนโลยี นวัตกรรมรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากทางโตโยต้า อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์เล่นดนตรี ถือว่าเป็นความล้ำหน้าแห่งรถยนต์สมัยใหม่
ศูนย์ศึกษาความปลอดภัยโตโยต้า สนามโมบิลิต้าส์ (Mobilitas) การเรียนรู้ อบรมการขับขี่ของประเทศญี่ปุ่น ในการขับขี่บนท้องถนนอย่างไรให้ปลอดภัย ได้สัมผัสทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ การนั่ง การจับพวงมาลัย การเบรกของระบบ ABS และ VSC ระบบที่ช่วยในด้านความปลอดภัยของการขับขี่รถในปัจจุบัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญขับให้นักศึกษาได้นั่งไปด้วย
อีกทั้งยังมีการศึกษา จุดบอดของรถ เพื่อให้เกิดความระมัดระวังให้มากขึ้นต่อการขับรถ รวมทั้งได้จำลองแว่นสายตาเสมือนผู้ดื่มสุราจริงเพื่อให้น้องๆ ลองใส่ เพื่อจะได้เข้าใจถึงการขับขี่แบบผู้เมาสุรา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ
โตโยต้า MEGA WEB น้องๆ จะได้สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สร้างขึ้นมาใหม่ของโตโยต้า รวมไปถึงการให้น้องๆ ร่วมกิจกรรมจำลองการขับขี่เสมือนจริง เรียนรู้ระบบใหม่ๆ เพื่อความปลอดภัยที่หลากหลาย รวมทั้งสัมผัสรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ที่สำคัญน้อง ๆนักศึกษา จะได้ท่องเที่ยวในสถานที่ที่เป็นไฮไลต์ของแต่ละเมืองที่ไปเยือนด้วยอาทิ ปราสาทนาโกย่า ,หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ,เมืองทาคายามะ เดินเล่น ชันมาชิ ซูจิ ย่านเมืองเก่า ในสมัยเอโดะ ,หมู่บ้านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์โอชิโนฮัคไค เป็นต้น
เราลองมาฟังความคิดเห็นของนักศึกษาทั้ง 3 สถาบันกันบ้าง หลังจากมาเรียนรู้ขับขี่ปลอดภัย ณ ประเทศญี่ปุ่น
ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีมญี่ปุ่นยืนหนึ่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
จากการที่ได้มาดูงาน เราได้ประโยชน์ ทั้งการเรียนรู้ การใช้ถนนที่ถูกต้อง กฎระเบียบ หรือข้อบังคับที่จะทำให้การใช้รถ ใช้ถนน ที่ดีขึ้น สามารถนำไปต่อยอดโครงการได้ เช่น การทำคอนเทนท์ออนไลน์ เพื่อแนะนำให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนน เกิดการใช้รถ ใช้ถนน อย่างถูกต้อง การเกื้อกูลและเผยแพร่กับเพื่อนร่วมทาง และมีการรณรงค์ สร้างจิตสำนึกในการใช้ถนนที่ดีขึ้น
เหมือนไปดูที่มิวเซียมของโตโยต้า ที่นั่นเขาจะให้ความสำคัญกับเด็ก การเรียนรู้ของเด็ก ปลูกฝังการใช้รถ ใช้ถนน ตั้งแต่เด็ก เพื่อที่โตไปจะเป็นผู้ใหญ่ใช้รถ ใช้ถนนที่ถูกต้อง มีระเบียบวินัย
สิ่งที่ประทับใจจาการมาเยือนในครั้งนี้ ประทับใจมิวเซียมได้เห็นพัฒนาการจุดเริ่มต้นของรถ “โตโยต้า” ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้รถ ใช้ถนน สิ่งที่จะนำไปต่อยอดโครงการ คือ การนำคอนเทนท์ ที่เราได้ไปสร้างคอนเทนท์ใหม่ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม 4 Angies มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
หลังจากมาดูงานที่ญี่ปุ่น การใช้รถใช้ถนน และการขับขี่ของคนญี่ปุ่นค่อนข้างจะแตกต่างจากบ้านเรา ทำให้พวกเราทั้ง 4 คนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้พบเห็นและสัมผัส ทั้งจากชมพิพิธภัณฑ์ ลองนั่งรถในสนามทดสอบ ทุกอย่างเราจะนำมาปรับใช้ เราจะมีการบอกให้กับแกนนำในมหาวิทยาลัยไปกระจายต่อเพื่อโครงการจะได้ลุล่วง สำเร็จด้วยดี
สำหรับความประทับใจ อย่างแรก จากการสัมผัสเรียนรู้ การใช้ชีวิต ของคนญี่ปุ่น สังเกตเห็นความมีระเบียบวินัยในทุกเรื่อง เช่น การข้ามถนน การใช้รถ ซึ่งค่อนข้างเป็นอะไรที่ Amazing มาก เขาจะให้ความสำคัญกับคนมาก นอกจากคนแล้ว ทางโตโยต้าก็ผลิตรถดีๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สมรรถนะเป็นเลิศ จากการได้นั่งรถในสนามทดสอบโดยมีผู้เชี่ยวชาญขับให้ ทำให้รู้ว่าการใช้รถใช้ถนน มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ คน รถ ถนน องค์ประกอบทั้ง 3 ลงตัวดีมาก
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม ชูโล่จัง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
การมาญี่ปุ่นครั้งนี้ สิ่งที่เราเห็นคือการมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น คิดว่า เขาน่าจะมีการปลูกฝังกันมาตั้งแต่เด็ก แตกต่างจากเมืองไทยค่อนข้างจะไม่ได้ปลูกฝังในเรื่องนี้เท่าไร โดยเฉพาะการใช้รถ ใช้ถนน จะโฟกัสที่ตอนโต นอกจากระเบียบวินัยแล้ว ความคิดของคนญี่ปุ่นค่อนข้างจะดี พูดจริง ทำจริง และสิ่งที่ประทับใจคือ ตอนพวกเราไป พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า ผู้บรรยายได้พูดประโยคหนึ่งว่า เขาต้องการทำให้อุบัติเหตุเป็น “ศูนย์” ตรงนี้เราน่าจะนำมาต่อยอด กลับไปคิด ทำอย่างไรให้อุบัติเหตุในบ้านเราเหลือแค่ “ศูนย์” เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าที่บอกกับพวกเรา เพราะว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้สูญเสีย มันคือชีวิตคน เราจะนำตรงนี้ไปปรับใช้ที่ละขั้น โดยเราจะเริ่มจากเด็กปลูกจิตสำนึกให้กับเด็ก คนโตอาจจะไม่เกิดผล น่าจะต่อยอดได้
ถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่า จากการไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดการความรู้เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งวัฒนธรรมการขับขี่ ของประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้น้องๆ นำมาปรับใช้ในอนาคต
