นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู X7 ได้สร้างนิยามใหม่แห่งความพิเศษในทุกวินาทีของการขับขี่ ด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่โดดเด่น ทั้งเป็นรถรุ่นใหญ่สุดในตระกูล X ที่แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในการพัฒนารถยนต์ระดับหรู หลังเปิดตัว ซี่รี่ส์ 8 ใหม่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยเน้นความกว้างขวาง หรูหรา และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นและแตกต่าง อันเกิดจากการผสมผสานความสะดวกสบายควบคู่สมรรถนะได้อย่างลงตัว
มิติใหม่แห่งความคล่องตัวและความสบาย
หัวใจสำคัญของ X7 ใหม่ คือ การผสานที่สุดแห่งความสะดวกสบาย ความคล่องตัวและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ และเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 294 กิโลวัตต์ / 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สมรรถนะของ X7 M50d สร้างความประทับใจได้อย่างโดดเด่น ด้วยการส่งพละกำลังจากชุดอัดอากาศ ประกอบด้วยชุดอัดอากาศแบบความดันต่ำ 2 ตัว และแบบความดันสูง 2 ตัว ทำให้เรียกพละกำลังได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่สะดุด โดยทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ
ระบบช่วงล่างแบบถุงลม สามารถปรับระดับอัตโนมัติ คล่องตัว ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่ทำให้สามารถควบคุมขุมพลังได้อย่างแม่นยำ ง่ายดาย และให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ทุกสภาพถนน พร้อมด้วยเทคโนโลยีแชสซีใหม่ล่าสุด และระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ให้การควบคุมได้อย่างเฉียบคมและปราดเปรี้ยวยิ่งขึ้น
ทั้งเป็นครั้งแรกของรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งท่อไอเสียในสไตล์ M Sport เสริมความสปอร์ต ด้วยเสียงดุดัน สร้างความเร้าใจในการขับขี่ หากคงความสง่างามในแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู
หรูหรา ทรงพลัง สะกดทุกสายตา
แม้บีเอ็มดับเบิลยู X7 ใหม่ มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหญ่และโอ่อ่า หากเส้นสายการออกแบบกลับถ่ายทอดออกมาในสไตล์ที่ปราดเปรียว และคล่องตัว เน้นองค์ประกอบของความประณีตและความเรียบง่าย ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ทรงแนวตั้งขนาดใหญ่ ไฟหน้า BMW Laserlight โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้ว ลาย Y-spoke สวยสะดุดตาจากทุกมุม ส่งให้รถรุ่นนี้ ดูทรงพลังและภูมิฐานมากขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ สีดำ Black Sapphire สีดำ Carbon Black สีขาว Mineral White สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect
พลังแห่งความสง่างามที่มาพร้อมเทคโนโลยี
ภายในสะท้อนความหรูหราสง่างามและความสะดวกสบาย ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ ออกแบบให้รองรับเบาะนั่งแบบ 3 แถว จุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 คน ทุกที่นั่งปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า เบาะที่นั่งบุด้วยหนังแท้ Merino จาก BMW Individual เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งลายไม้สีดำเงา เสริมด้วยวัสดุตกแต่งผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ พร้อมชุดไฟ Ambient light สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร เพดานแบบ Panorama glass roof Sky Lounge ที่เพิ่มความโปร่งอย่างโอ่อ่า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ด้านท้ายมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ จุได้ 326 ลิตร และเพิ่มสูงสุด 750 ลิตร หรือ 2,120 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ ตอบโจทย์การขับขี่ในชีวิตประจำวัน และผู้ที่รักการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายต่างๆ มากมาย อาทิ ระบบ Parking Assistant Plus ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant รวมถึงระบบบันเทิงและระบบเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด เช่น ระบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด และระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ให้เป็นส่วนตัวมากกว่าเดิม
ควบคุมง่ายดายทุกการขับขี่
อีกข้อพิสูจน์ในการก้าวสู่อนาคตแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ คือ ฟังก์ชั่น Reversing Assistant ที่ให้การช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบอัตโนมัติ เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยออกจากบริเวณที่มีพื้นที่แคบได้อย่างง่ายดาย แม้มีมุมมองที่จำกัด โดยฟังก์ชั่นนี้จะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 50 เมตร ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเริ่มใช้งานโดยกดปุ่ม Reversing Assistant ขณะจอดนิ่งที่เกียร์ P หลังจากนั้น รถยนต์จะถอยหลังอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับเข้าไปล่าสุด ผู้ขับขี่จะมีหน้าที่เพียงแค่แตะเบรกหรือคันเร่ง โดยความเร็วในการถอยอัตโนมัติจะอยู่ที่ความเร็วสูงสุด 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งระบบจะสามารถจดจำองศาการเลี้ยวภายในระยะ 50 เมตรสุดท้ายได้เป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถแม้กระทั่งถอยออกจากที่จอดรถได้แม้จะจอดทิ้งไว้ข้ามคืน หรือเป็นระยะเวลาหลายวัน
ผู้ช่วยส่วนตัวที่ชาญฉลาดตอบรับทุกคำสั่ง
ส่วนระบบ BMW Intelligent Personal Assistant ติดตั้งมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 และทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอีกมากมาย สามารถเรียนรู้และจดจำกิจวัตรประจำวันและความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้ ก่อนจะนำมาปรับใช้งานอย่างถูกต้องแม่นยำ เช่น ถ้าผู้ขับขี่รู้สึกว่า อุณหภูมิในตัวรถหนาวเกินไป สามารถพูดออกคำสั่งว่า “Hey BMW, I’m cold” ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant จะปรับการทำงานของระบบปรับอากาศให้เหมาะสม
ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ได้พัฒนาให้ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้ สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มเติมคุณสมบัติและรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อีกในอนาคต
บีเอ็มดับเบิลยู X7 M50d ใหม่ จะเปิดรับจองในราคา 8,999,000 บาท พร้อมแพคเกจ BSI Standard ประกอบด้วยการบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. และการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 ระหว่างในวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ ที่ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่จองรถระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน และส่งมอบภายในวันที่ 30 เมษายน นี้ เมื่อซื้อแพคเกจ BSI Ultimate จะได้รับการขยายระยะเวลาบำรุงรักษาเพิ่มขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็น 6 ปี หรือ 120,000 กม. และการรับประกันเพิ่มขึ้นเป็น 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ส่วนผู้ที่จอง บีเอ็มดับเบิลยู ปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่น รับฟรี! ประกันชั้นหนึ่ง เสริมความอุ่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่
