หลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่ กลายเป็นคดีความประวัติศาสตร์ของตลาดรถยนต์ไทยระหว่างบริษัท ฟอร์ด กับกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานรถยนต์ฟอร์ดรุ่น โฟกัส และ เฟียสต้า ซึ่งยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ หลังมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกมาแล้ว บวกกับยอดขายรถยนต์นั่งของฟอร์ดในปีที่แล้วมีเพียง 222 คัน (เฟียสต้า 11 คัน/โฟกัส 130 คัน/มัสแตง 81 คัน) และเดือนแรกของปีนี้มีเพียง 18 คัน ส่งผลให้เกิดข่าวลือในทำนองที่ว่า ฟอร์ด จะยุติการทำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทย

ขณะเดียวกันจากการสำรวจของทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง พบความเคลื่อนไหวบนหน้าเวปไซต์ของทาง ฟอร์ด ประเทศไทย มีการนำเอา รถยนต์รุ่น โฟกัส และ เฟียสต้า ออกจากไลน์การขายบนหน้าเวปไซต์ รวมถึงรุ่น เอคโค่สปอร์ต ก็ไม่ปรากฎบนหน้าเวปไซต์ของฟอร์ดมาระยะหนึ่งแล้วเช่นกัน คงเหลือแค่เพียง 3 รุ่นเท่านั้น ได้แก่กระบะเรนเจอร์, เอเวอเรสต์ และ มัสแตง

ดังนั้นเพื่อความกระจ่างทีมงานจึงได้สุ่มสอบถามไปทางดีลเลอร์จำนวนหนึ่งเพื่อตรวจสอบว่า ยังมีรถยนต์นั่งของฟอร์ดทั้งสามรุ่นจำหน่ายอยู่หรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือ หลายโชว์รูม รถยนต์ทั้งสามรุ่นนั้นไม่มีจำหน่ายมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว (เฟียสต้าและเอโค่สปอร์ต หยุดการขายเกินกว่าปีแล้ว) แต่บางโชว์รูมจะมีเพียงรุ่น โฟกัส จำหน่ายอยู่เท่านั้น และขณะนี้มีการลดราคาลงมาเหลือเพียง 699,000 บาท (หกแสนเก้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) จากเดิมราคา 979,000 บาท

ซึ่งจากการสอบถามฝ่ายขายของโชว์รูมฟอร์ดดังกล่าว คนที่สนใจจะซื้อ รถโฟกัส ต้องพิจารณาถึง ระยะการรับประกันด้วย เพราะรถล็อตดังกล่าวนั้น เป็นรถที่ทางดีลเลอร์ได้รับภาระสต็อกการขาย โดยมีการรายงานข้อมูลเข้าสู่ระบบของฟอร์ด ประเทศไทยว่า รถได้ขายแล้ว เพื่อให้ได้รับแคมเปญส่วนลดพิเศษเป็นจำนวนเงิน 180,000 บาท จาก ฟอร์ด ประเทศไทย ให้กับดีลเลอร์ที่สามารถปิดการขายได้ทันภายในเวลาที่กำหนด คือ ประมาณก่อนสิ้นปี2017

เพราะฉะนั้นรถฟอร์ด โฟกัส ล็อตดังกล่าว จะมีการรับประกันน้อยกว่า 3 ปี หรือ 100,000 กม. เนื่องจากเมื่อมีการส่งข้อมูลว่าขายแล้ว ระยะเวลาการรับประกันจะเริ่มต้นทันที ใครที่คิดจะซื้อขอให้ทำความเข้าใจ เงื่อนไขการรับประกันให้ดี ส่วนใครที่ซื้อไปก่อนก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณได้ขับและใช้งานโดยมีการรับประกันครบถ้วนตามมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามพนักงานขายถึงว่าจะมีรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ออกมาหรือไม่ อย่างไร คำตอบที่ได้คือยังไม่มีความชัดเจน บางท่านบอกว่าจะมีในปีหน้า บางท่านกล่าวว่าคงหยุดไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเรื่องนี้คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือ ฟอร์ด ประเทศไทย

ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้สอบถามไปยัง ฟอร์ด ประเทศไทย เกี่ยวกับการลดราคาและทิศทางการทำตลาดรถยนต์นั่งของฟอร์ดในประเทศไทย ได้รับคำตอบว่า “ฟอร์ดยังไม่มีการประกาศเกี่ยวกับแผนรถยนต์นั่งของเราในอนาคต และไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการคาดการณ์ใดๆ ในขณะนี้”
จะว่าไปแล้ว การทำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทย เวลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก ตลาดได้เปลี่ยนไปจากรถประเภทบีคาร์ กลายมาเป็นรถอีโคคาร์ที่ได้ประโยชน์ทางด้านอัตราภาษี และคู่แข่งในตลาดต่างมีความแข็งแกร่งในแบรนด์ของตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า, ฮอนด้า, มาสด้า, ซูซูกิ และ นิสสัน ดังนั้นการที่ฟอร์ดจะกลับมาทำตลาดรถยนต์นั่งในช่วงที่ตัวเองยังมีบาดแผลจึงลำบากไม่น้อย ถือเป็นงานระดับเข็นครกขึ้นภูเขากันเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อมองดูเพื่อนร่วมชาติอย่าง เชฟโรเลต ที่ประกาศชัดเจนว่าจะทำตลาดเฉพาะรถกระบะและเอสยูวีเท่านั้น ยิ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ฟอร์ดจะเดินตามรอยนี้หรือไม่

เหนืออื่นใด หากมองตัวเลขยอดขายรถกระบะ และพีพีวีของฟอร์ด เวลานี้ต้องบอกว่า ชื่นมื่นเป็นที่สุด ด้วยการยึดครองตำแหน่งอันดับ 3 ตลาดกระบะได้อย่างสวยงามในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายเรนเจอร์ที่ 55,517 คัน (ไม่รวมPPV) เติบโต 24.7% ครองส่วนแบ่งตลาด 12.4% ขณะที่ยอดขายเอเวอเรสต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,628 คัน อยู่ในอันดับที่ 4 ของรถ PPV

เพราะฉะนั้นหากฟอร์ดจะทำตลาดเพียงรถกระบะและเอสยูวี เช่นเดียวกับ เชฟโรเลต ก็สามารถทำได้ แถมมียอดขายที่โดดเด่นกว่า แต่หากมองภาพใหญ่ระดับโลก ฟอร์ด มีผลิตภัณฑ์รถยนต์นั่งที่ยอดเยี่ยมอยู่หลากหลายรุ่น รวมทั้ง โฟกัสและเฟียสต้า ที่สร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำในยุโรป ดังนั้น ฟอร์ด คงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในการขายหลุดลอยไป คงเพียงแต่แค่รอเวลาแก้ปัญหาเรื่องราวที่ค้างคาอยู่ให้แล้วเสร็จในเร็ววัน

ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ในการทำตลาดรถยนต์นั่งของฟอร์ด ยังคงมีอยู่ไม่น้อย เมื่อลองพิจารณาให้ลึกลงไปถึงการเข้ามาทำตลาดของ “มัสแตง” ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นโมเดลใหม่ในตลาดโลกแต่อย่างใด เหตุใดฟอร์ดจึงนำรถยนต์รุ่นนี้เข้ามาจำหน่าย
เหตุผลที่คาดเดาได้ไม่ยาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ใหม่ ให้กับรถยนต์นั่งของฟอร์ด โดยรอเวลาให้ มัสแตง ทำหน้าที่ของมันในการสร้างภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่ซื้อไป รวมถึงเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ ฟอร์ด ในการขยายฐานลูกค้าและดูแลกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะได้เห็นรถยนต์นั่งของฟอร์ด กลับมาทำตลาดอีกครั้งก็เป็นไปได้


ขณะเดียวกันจากการสำรวจของทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง พบความเคลื่อนไหวบนหน้าเวปไซต์ของทาง ฟอร์ด ประเทศไทย มีการนำเอา รถยนต์รุ่น โฟกัส และ เฟียสต้า ออกจากไลน์การขายบนหน้าเวปไซต์ รวมถึงรุ่น เอคโค่สปอร์ต ก็ไม่ปรากฎบนหน้าเวปไซต์ของฟอร์ดมาระยะหนึ่งแล้วเช่นกัน คงเหลือแค่เพียง 3 รุ่นเท่านั้น ได้แก่กระบะเรนเจอร์, เอเวอเรสต์ และ มัสแตง
ดังนั้นเพื่อความกระจ่างทีมงานจึงได้สุ่มสอบถามไปทางดีลเลอร์จำนวนหนึ่งเพื่อตรวจสอบว่า ยังมีรถยนต์นั่งของฟอร์ดทั้งสามรุ่นจำหน่ายอยู่หรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้คือ หลายโชว์รูม รถยนต์ทั้งสามรุ่นนั้นไม่มีจำหน่ายมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว (เฟียสต้าและเอโค่สปอร์ต หยุดการขายเกินกว่าปีแล้ว) แต่บางโชว์รูมจะมีเพียงรุ่น โฟกัส จำหน่ายอยู่เท่านั้น และขณะนี้มีการลดราคาลงมาเหลือเพียง 699,000 บาท (หกแสนเก้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) จากเดิมราคา 979,000 บาท
ซึ่งจากการสอบถามฝ่ายขายของโชว์รูมฟอร์ดดังกล่าว คนที่สนใจจะซื้อ รถโฟกัส ต้องพิจารณาถึง ระยะการรับประกันด้วย เพราะรถล็อตดังกล่าวนั้น เป็นรถที่ทางดีลเลอร์ได้รับภาระสต็อกการขาย โดยมีการรายงานข้อมูลเข้าสู่ระบบของฟอร์ด ประเทศไทยว่า รถได้ขายแล้ว เพื่อให้ได้รับแคมเปญส่วนลดพิเศษเป็นจำนวนเงิน 180,000 บาท จาก ฟอร์ด ประเทศไทย ให้กับดีลเลอร์ที่สามารถปิดการขายได้ทันภายในเวลาที่กำหนด คือ ประมาณก่อนสิ้นปี2017
เพราะฉะนั้นรถฟอร์ด โฟกัส ล็อตดังกล่าว จะมีการรับประกันน้อยกว่า 3 ปี หรือ 100,000 กม. เนื่องจากเมื่อมีการส่งข้อมูลว่าขายแล้ว ระยะเวลาการรับประกันจะเริ่มต้นทันที ใครที่คิดจะซื้อขอให้ทำความเข้าใจ เงื่อนไขการรับประกันให้ดี ส่วนใครที่ซื้อไปก่อนก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณได้ขับและใช้งานโดยมีการรับประกันครบถ้วนตามมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามพนักงานขายถึงว่าจะมีรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ออกมาหรือไม่ อย่างไร คำตอบที่ได้คือยังไม่มีความชัดเจน บางท่านบอกว่าจะมีในปีหน้า บางท่านกล่าวว่าคงหยุดไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเรื่องนี้คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือ ฟอร์ด ประเทศไทย
ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้สอบถามไปยัง ฟอร์ด ประเทศไทย เกี่ยวกับการลดราคาและทิศทางการทำตลาดรถยนต์นั่งของฟอร์ดในประเทศไทย ได้รับคำตอบว่า “ฟอร์ดยังไม่มีการประกาศเกี่ยวกับแผนรถยนต์นั่งของเราในอนาคต และไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อการคาดการณ์ใดๆ ในขณะนี้”
จะว่าไปแล้ว การทำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทย เวลานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก ตลาดได้เปลี่ยนไปจากรถประเภทบีคาร์ กลายมาเป็นรถอีโคคาร์ที่ได้ประโยชน์ทางด้านอัตราภาษี และคู่แข่งในตลาดต่างมีความแข็งแกร่งในแบรนด์ของตัวเองอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า, ฮอนด้า, มาสด้า, ซูซูกิ และ นิสสัน ดังนั้นการที่ฟอร์ดจะกลับมาทำตลาดรถยนต์นั่งในช่วงที่ตัวเองยังมีบาดแผลจึงลำบากไม่น้อย ถือเป็นงานระดับเข็นครกขึ้นภูเขากันเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อมองดูเพื่อนร่วมชาติอย่าง เชฟโรเลต ที่ประกาศชัดเจนว่าจะทำตลาดเฉพาะรถกระบะและเอสยูวีเท่านั้น ยิ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ฟอร์ดจะเดินตามรอยนี้หรือไม่
เหนืออื่นใด หากมองตัวเลขยอดขายรถกระบะ และพีพีวีของฟอร์ด เวลานี้ต้องบอกว่า ชื่นมื่นเป็นที่สุด ด้วยการยึดครองตำแหน่งอันดับ 3 ตลาดกระบะได้อย่างสวยงามในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายเรนเจอร์ที่ 55,517 คัน (ไม่รวมPPV) เติบโต 24.7% ครองส่วนแบ่งตลาด 12.4% ขณะที่ยอดขายเอเวอเรสต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,628 คัน อยู่ในอันดับที่ 4 ของรถ PPV
เพราะฉะนั้นหากฟอร์ดจะทำตลาดเพียงรถกระบะและเอสยูวี เช่นเดียวกับ เชฟโรเลต ก็สามารถทำได้ แถมมียอดขายที่โดดเด่นกว่า แต่หากมองภาพใหญ่ระดับโลก ฟอร์ด มีผลิตภัณฑ์รถยนต์นั่งที่ยอดเยี่ยมอยู่หลากหลายรุ่น รวมทั้ง โฟกัสและเฟียสต้า ที่สร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำในยุโรป ดังนั้น ฟอร์ด คงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในการขายหลุดลอยไป คงเพียงแต่แค่รอเวลาแก้ปัญหาเรื่องราวที่ค้างคาอยู่ให้แล้วเสร็จในเร็ววัน
ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ในการทำตลาดรถยนต์นั่งของฟอร์ด ยังคงมีอยู่ไม่น้อย เมื่อลองพิจารณาให้ลึกลงไปถึงการเข้ามาทำตลาดของ “มัสแตง” ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นโมเดลใหม่ในตลาดโลกแต่อย่างใด เหตุใดฟอร์ดจึงนำรถยนต์รุ่นนี้เข้ามาจำหน่าย
เหตุผลที่คาดเดาได้ไม่ยาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ใหม่ ให้กับรถยนต์นั่งของฟอร์ด โดยรอเวลาให้ มัสแตง ทำหน้าที่ของมันในการสร้างภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่ซื้อไป รวมถึงเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ ฟอร์ด ในการขยายฐานลูกค้าและดูแลกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะได้เห็นรถยนต์นั่งของฟอร์ด กลับมาทำตลาดอีกครั้งก็เป็นไปได้