ตลาดรถ! ส่อแววรุ่ง ผู้บริโภคเชื่อมั่นหลังการเมืองชัดเจน ประเดิมเดือนแรก พุ่ง 17.3% ยอดขาย 78,061 คัน กระบะมาแรงสุด โต 21% ทิ้งห่างรถนั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ โตเพียง 17.4% และ 17.3% คาดยอด ก.พ.แนวโน้มดี ผลจาก ศก.ขยายตัวต่อเนื่อง
นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ ประจำมกราคม 2562 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 78,061 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยค่ายรถที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่ โตโยต้า ตัวเลขอยู่ที่ 26,757 คัน เพิ่มขึ้น 56.1% ส่วนแบ่งตลาด 34.3% ทิ้งห่างอันดับ 2 อีซูซุ ที่มียอด 12,704 คัน เพิ่มขึ้น 3.9% ส่วนแบ่งตลาด 16.3% และฮอนด้า ยอด 9,290 คัน เพิ่มขึ้น 2.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
สำหรับเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ได้แก่ ตลาดรถกระบะ ขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV) ขยายตัว 21% ยอดขายอยู่ที่ 39,674 คัน โดยค่ายรถ ที่มียอดขายอันดับ 1 ได้แก่ โตโยต้า ตัวเลขอยู่ที่ 15,864 คัน เพิ่มขึ้น 72.1% ตามด้วยอีซูซุ ยอดขาย 11,721 คัน เพิ่มขึ้น 4.2% และฟอร์ด ยอด 4,129 คัน ลดลง 12.9%
ตามด้วยตลาดรถยนต์นั่ง ยอดขาย 30,221 คัน เพิ่มขึ้น 17.4% โดยค่ายที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่ โตโยต้า ยอด 9,301 คัน เพิ่มขึ้น 26.5% ตามด้วยฮอนด้า ยอดขาย 6,926 คัน ลดลง 0.2% และมาสด้า ยอดขาย 4,231 คัน เพิ่มขึ้น 49.8%
ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 47,840 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% โดยค่ายที่ครองอันดับ 1 ได้แก่ โตโยต้า ยอดขาย 17,456 คัน เพิ่มขึ้น 78.4% อันดับ 2 ได้แก่ อีซูซุ ยอดขาย 12,704 คัน เพิ่มขึ้น 3.9% ตามด้วยฟอร์ด ยอดขาย 4,129 คัน ลดลง 16.6%
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการเมืองในประเทศมีสัญญาณดีขึ้นจากการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และต่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการทยอยส่งมอบรถยนต์ที่จองในช่วงงาน Motor Expo ที่ผ่านมา อันเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกให้กับตลาดรถยนต์ในเดือนมกราคมนี้
สำหรับตลาดในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศ รวมถึงการบริโภคของภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในประเทศมากนัก