นี่ไม่ใช่นโยบายหาเสียงประชานิยมของพรรคการเมืองใดๆ นะครับ แต่ผมกำลังหมายถึงตัวเลือกบิ๊กไบค์คันแรกที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้
ฮอนด้า ซีบีอาร์500อาร์(Honda CBR500R) ราคา 217,000 บาท สปอร์ตไบค์รุ่นเริ่มต้นของตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูล 500 ซีรีย์ ของฮอนด้า
ว่าแต่ทำไมโมเดลนี้ถึงเป็นบิ๊กไบค์คันแรกที่น่าสนใจ ก่อนไปต่อ อันดับแรกมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าไหม
กี่ซีซี ถึงจะเรียกว่าบิ๊กไบค์?
ในแต่ละยี่ห้อนั้นกำหนดขนาดเครื่องยนต์ขั้นต่ำต่างกันครับ โดยเฉพาะค่ายญี่ปุ่นและยุโรปที่มองความต้องการของตลาดไม่เหมือนกัน
ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร หากใครก็ตามที่เห็นต่างจากเรา จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเลขความจุเครื่องยนต์ที่ไม่ตรงกัน
แต่สำหรับค่ายปีกนก ตั้งแต่พิกัด 500 ซีซี พวกเขามองว่านี่คือขุมพลังที่มีความเหมาะสมและลงตัวที่สุด
จากเหตุผลหลักๆ ได้แก่ นักบิดมือใหม่ที่เพิ่งขยับจากสองล้อไซส์เล็กสามารถปรับตัวเข้าหาได้ง่าย
ข้อนี้อย่ามองข้ามนะครับ นึกภาพตาม จากเคยซิ่งรถตลาดทั่วไปขนาด 100-150 ซีซี แน่นอนความเคยชินแรงม้ากับแรงบิดที่แตกต่าง ย่อมส่งผลต่อการควบคุมอันนำมาซึ่งความปลอดภัยของตัวผู้ใช้เอง
ขณะที่มิติตัวรถและน้ำหนักของบิ๊กไบค์ไซส์ใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัว
เชื่อเถอะว่าแค่เข็นจอดช่วงแรกก็สร้างปัญหาให้กับนักบิดหน้าใหม่ไม่น้อยแล้ว
ขณะเดียวกันในด้านสมรรถนะการใช้งาน เครื่องยนต์ 2 สูบ ปริมาตรสุทธิ 471 ซีซี ก็ให้อรรถรสครบเครื่องในระดับน่าพอใจ
จะใช้ขับขี่ในเมืองก็ยังคงมีความสะดวกคล่องตัว หรือจะบิดออกทริปท่องเที่ยวเดินทางไกลก็สามารถทำความเร็วได้ด้วย
และที่สำคัญที่สุดครับ ราคาค่าตัวถือว่าคุ้มค่าและไม่แพงเกินไปนัก
ส่วนที่บอกน่าสนใจ ตัวเลือกในตระกูล 500 ซีรีย์ ล่าสุด เพิ่งมีการปรับโฉมใหม่ยกแผง
ประกอบด้วย โฉมเน็กเก็ต CB500F, มาดสปอร์ต CBR500R และสไตล์แอดเวนเจอร์ CB500X
โดยเวอร์ชั่นปี 2019 ทั้ง 3 รุ่น เปิดตัวและทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
สำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หรือบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ นอกจากรูปร่างหน้าตาภายนอกจะหล่อเหลามีความทันสมัยขึ้นแล้ว ในส่วนของฟังก์ชั่นก็มีการพัฒนาด้านการขับขี่ ให้สามารถตอบสนองการใช้งานในแต่ละประเภทได้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
และเพื่อให้เข้าถึงรายละเอียดออฟชั่นต่างๆ ที่เสริมเข้ามาอย่างเต็มที่
วันก่อนค่ายปีกนกจึงจัดกิจกรรม ใช้ชื่อว่า CBR Series Circuit Experience ชวนสื่อมวลชนร่วมทดสอบโมเดลสายพันธุ์สปอร์ต CBR1000RR, CBR650R และ CBR500R ในรูปแบบแทร็คเดย์ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
หวดกันแบบไม่ยั้ง แต่ยังคงมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายใต้การให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด จากอดีตนักบิดเวิล์ดจีพีรุ่นโมโตทูคนแรกของไทย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมดูแลผู้ร่วมกิจกรรมการทดสอบครั้งนี้
บิ๊กไบค์มาดสปอร์ต CBR500R หน้าตาเปลี่ยนไปอย่างไรคงไม่ต้องบอกซ้ำนะครับ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือในแคตตาล็อกก็รู้อยู่แล้ว
ในที่นี้ขอย้ำเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งมีผลต่อการขับขี่เท่านั้น
เริ่มจากองศาการจับแฮนด์เปลี่ยนมาที่ใต้แผงคอ ส่งผลให้ท่านั่งเปลี่ยน การควบคุมทำได้มั่นใจและดีขึ้นมากๆ เมื่อเทียบกับโฉมก่อนหน้าครับ
การได้ลองทดสอบบนสังเวียนโมโตจีพี ช่วงทางตรงยาวก่อนเข้าโค้งที่ 3 มาด้วยความเร็วท็อปสปีดประมาณ 180 กม/ชม. การได้ระบบสลิปเปอร์คลัทช์(Slipper Clutch) มาเสริมความนุ่มนวลขณะลดจากเกียร์ 6 ลงมาที่เกียร์ 3
หรือในโค้งที่ 12 ต้องลงมาถึงเกียร์ 2
ตัวช่วยที่ว่านี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สอดรับกับหน้าปัดดิจิทัลที่ออกแบบมาใหม่ มีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ให้ทราบขณะขับขี่ด้วย
ด้วยพื้นที่อันจำกัด สรุปในภาพรวมให้กระชับ ฮอนด้า CBR500R 2019 เป็นการปรับโฉมเพิ่มออฟชั่น เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตให้สมกับโมเดลสายพันธุ์สปอร์ตของ CBR ซีรีย์
แล้วในฐานะนักแข่งล่ะ รู้สึกอย่างไร?
“ผมว่า CBR500R ตัวใหม่ ขี่สนุกทีเดียวครับ สนุกตรงนี้หมายถึงเราสามารถผ่อนคลายได้ ขี่ง่าย ควบคุมง่าย การเปิดคันเร่งออกจากโค้งทำได้เต็มมือ”
“อย่างไรก็ตาม สำหรับการทดสอบในสนามช้างฯ ครั้งนี้ ถ้าไปเทียบกับตัว CBR650R ความแรงของเขาก็ต้องมากกว่าอยู่แล้ว ถ้าใครชอบแรงก็เลือก 650 ส่วนใครที่เป็นมือใหม่น่าจะชอบ 500 ครับ”
ข้างบนคือคำตอบของอดีตนักบิดขวัญใจคนไทย เมื่อผมถามว่าลองขี่แล้วเป็นไงบ้าง
ตัดสินใจเลือกบิ๊กไบค์คันแรกทั้งที จะเลือกให้ดี อย่าเพิ่งเชื่อใคร
ไปลองขี่ก่อนดีที่สุด
ขับขี่ปลอดภัยและสนุกไปกับมันครับ.
