เมอร์เซเดส-เบนซ์ เขย่าตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัว 2 รุ่น AMG “CLS 53 4MATIC+” เคาะราคา 7.09 ล้านบาท กับ GT S ราคา 14.9 ล้านบาท เอาใจคนไทยที่ชอบความหรูหราพ่วงสมรรถนะ พร้อมอวดโฉมรถไฟฟ้าต้นแบบ EQA ชิมลางตลาดไทย ใน Motor Expo 2018
นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้นำรถยนต์จากทั้ง 4 แบรนด์ ภายใต้หลังคาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตอกย้ำความเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม โดยภายในบู๊ธได้แบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม คอมแพค ตาร์, คอนเทมโพรารี่, ลักชัวรี, ดรีม คาร์ และเอสยูวี รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรี อย่าง เมอร์เซเดส-มายบัค, รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม อย่าง เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด อย่าง อีคิว พาวเวอร์ เพื่อแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสรถยนต์แต่ละกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
สำหรับไฮไลท์ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถยนต์สมรรถนะสูง ภายใต้แบรนด์ ‘เมอร์เซเดส เอเอ็มจี’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญ และมีอัตราการเติบโตประมาณ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้ เป็นการสานต่อความร้อนแรงของรถยนต์กลุ่มนี้ หลังจัดทดสอบสมรรถนะรถยนต์กลุ่มนี้ครบทั้งตระกูลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในเดือนที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ CLS 53 4MATIC+ และน้องใหม่ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S เพื่อเอาใจสาวกดาวสามแฉกที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ
พร้อมไฮไลท์ที่สำคัญ คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซ็ปต์ EQA รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ EQ ที่จะถูกนำมาใช้ในรถกลุ่มคอมแพค โดยผสานความคล่องตัวเข้ากับระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ผ่านการใช้สถาปัตยกรรม ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติมเต็มทุกแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางแห่งอนาคต และการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้วางรากฐานไว้เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานไปจนถึงปี 2025”
นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากรถยนต์ต้นแบบ EQA ที่ทางบริษัทฯ นำมาจัดแสดงแล้ว เรายังได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่าง Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ ผลลัพธ์ของการผสมผสานเครื่องยนต์ที่ให้กำลัง 435 แรงม้ากับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต และอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย และเข้ากับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่เป็นอย่างดี ด้วยราคาจำหน่าย 7,090,000 บาท
และสุดท้ายกับอีกหนึ่งน้องใหม่ ในตระกูล AMG GT อย่าง Mercedes-AMG GT S รถยนต์แบบคูเป้ที่ใช้อลูมิเนียม น้ำหนักเบาแบบ spaceframe เครื่องยนต์ V8 Biturbo เกียร์คลัทช์แบบ 7 สปีด เพื่อเอาใจคนรักความเร็วและแรงโดยเฉพาะ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 14,900,000 บาท
“ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้ขนทัพรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ภายใต้แบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี กว่า 8 รุ่น ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์คอมแพค ในรุ่น 45 ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ รถซาลูนรุ่นประกอบในประเทศ และรถยนต์สไตล์คูเป้ รุ่น 43 หรือรถยนต์รุ่น 53 นำเข้าที่เพิ่งเปิดตัวในครั้งนี้ รวมถึงรถยนต์เครื่องแรงที่สุดในรุ่น 63 และตระกูล AMG GT ครบทั้ง GT S, GT C และ GT R มากที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานจัดแสดงรถยนต์ เพื่อมาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน ทางบริษัทฯ มีแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ที่วางขายในประเทศไทย รวมทั้งหมด 13 รุ่น ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+, Mercedes-AMG GT C Roadster, Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT S
