น่าจะเป็นประโยคคำถามแรกที่ใครหลายคนตั้งขึ้นในใจ เมื่อครั้งทราบราคาหลังการเปิดตัว “ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์” รถกระบะที่มาพร้อมกับค่าตัว 1,699,000 บาท หรือจ่าย 1.7 ล้านบาท ได้ทอนหนึ่งพันบาท หลังจากนั้นเกิดกระแสตามมาอย่างมากมาย
นับตั้งแต่เปิดตัว แล้วให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ จนกระทั่งเวลานี้ เมื่อรถเข้าสู่กระบวนการขาย และส่งมอบให้ลูกค้า กระแสของ แรพเตอร์ ยังคงความแรงไม่หยุดหย่อน ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง วิเคราะห์จุดแกร่งของ เจ้าไดโนเสาร์ คันนี้ เพื่อเป็นคำตอบให้ว่า ทำไมใครหลายคนยอมจ่าย 1.7 ล้านบาท แลกกระบะหนึ่งคัน และเขาเหล่านั้นได้อะไรกลับมาบ้าง...
1. หล่อขั้นเทพ
สิ่งแรกที่เห็นครั้งแรกและสะดุดตาคือ หน้าตาของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ เพราะมันดูหล่อมาก รูปร่างหน้าตาที่บึกบึน กระจังหน้า ด้านข้าง ด้านท้าย มันช่างลงตัว สวยงาม โดดเด่น จนต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้งว่ารถรุ่นอะไร ทำไมมันเท่ อย่างนี้ และถือได้ว่าเป็นกระบะที่หน้าตาดีที่สุดบนถนนตอนนี้ก็ว่าได้
แน่นอนเมื่อได้ครอบครองรถที่ดูเท่ หล่อ ขั้นเทพขนาดนี้ ย่อมส่งผลดีต่อใจ เป็นความภาคภูมิใจ เหนืออื่นใดไม่เพียงแต่เฉพาะตัวเองเท่านั้นแต่ในสายตาคนอื่นทั่วไป แรพเตอร์ สามารถสร้างการรับรู้และการยอมรับในวงกว้าง เพราะขับไปที่ไหนมีคนเข้ามาทักทายตลอด ซึ่งจะว่าไปแล้วยังไม่เคยมีรถกระบะคันใดทำได้เช่นนี้มาก่อน ...เรื่องนี้แม้จะจับต้องไม่ได้ แต่มันรู้สึกได้จริง
2.ที่สุดของเทคโนโลยี
ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ นอกจากการเป็นกระบะที่ราคาแพงที่สุดในตลาดแล้ว ความแพงดังกล่าวมาพร้อมกับ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร บล็อกใหม่ที่มีพละกำลังมากที่สุด 213 แรงม้า, แรงบิดที่มากที่สุด 500 นิวตันเมตร, เทคโนโลยีเกียร์ล่าสุด อัตโนมัติ 10 สปีด , โหมดการขับขี่ที่ปรับได้ถึง 6 รูปแบบ หนึ่งในกระบะที่สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ดุจดั่งรถหรู, ช่วงล่างเทพที่สุด จาก ฟอกซ์ ช้อคอัพที่พัฒนาเวอร์ชันนี้ใหม่เพื่อแรพเตอร์โดยเฉพาะ และ ยางที่ทนที่สุด บีเอฟกู๊ดริช พัฒนายางขึ้นใหม่ด้วยโครงสร้างยางพิเศษทนแรงกดสูงโดยจะไม่แตกหรือระเบิดเมื่อต้องรับแรงกระแทกจากการขับขี่ ทั้งหมดนี้ถือเป็นที่สุดเทคโนโลยีของกระบะที่อยู่ในแรพเตอร์
3. ขับสบาย ควบคุมง่าย
น่าจะเป็นหนึ่งในเรื่องเหลือเชื่อของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ ที่ภายนอก ดูบึกบึนและมีขนาดตัวถังที่สูงใหญ่ ซึ่งหากมองแค่นี้ทุกคนต้องคิดว่า แรพเตอร์ขับยากแน่นอน แต่ความจริง หากคุณได้ไปลองขับแล้วจะพบว่า เจ้าไดโนเสาร์รุ่นนี้บังคับควบคุมง่ายและเชื่องมืออีกต่างหาก ความลับของเรื่องนี้ต้องขอบคุณ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ที่ได้รับการติดตั้งไว้เป็นมาตรฐานของรถกระบะเรนเจอร์ รวมถึงการเซตอัพช่วงล่างและระยะปีกนกใหม่ที่เตี้ยกว่ารุ่นเรนเจอร์เล็กน้อย
4. คุ้มค่าส่วนต่างราคา
มีคำถามจากหลายคนที่ไม่อยากจ่ายถึง 1.7 ล้านบาท โดยคิดที่จะซื้อเรนเจอร์ ตัวท้อปที่ใช้เครื่องยนต์2.0 ลิตรตัวเดียวกันนี้มาทำเป็น แรพเตอร์ ขอบอกเลยว่า เมื่อคำนวณส่วนต่างราคา ระหว่างรุ่นท้อปสุดของเรนเจอร์ กับ แรพเตอร์ แล้ว เท่ากับ 434,000 บาทถ้วน ซึ่งเมื่อมาลองคำนวณอุปกรณ์ต่างๆ ที่ฟอร์ด เพอร์ฟอร์มมานซ์(ทีมงานผู้พัฒนารถรุ่นแรพเตอร์) ใส่ให้แล้ว เยอะมาก ...และหากเราคิดจะซื้อใส่เองพูดได้เลยว่าเกินส่วนต่างราคาดังกล่าวอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น โช้คอัพ 4 ต้น ราคามากกว่า 200,000 บาท, ชุดแต่งภายนอก (ชุดกันชนหน้า-หลัง บันได,กาบข้าง) มากกว่า 80,000 บาท, เบาะนั่งทรงสปอร์ตคู่ละกว่า 80,000 บาท, ล้อแม็กชุดละ 80,000 บาทและยางพิเศษชุดละ 60,000 บาท คร่าวๆ เพียงแค่นี้ส่วนต่างราคาที่เราจะทำเกินมูลค่าที่เราต้องจ่ายเพื่อแรพเตอร์ ทั้งนี้ยังไม่รวมเรื่องของการเซตอัพรถและโหมดการขับขี่อีกด้วย
เหนืออื่นใด หากเราทำเอง นอกจากจะไม่ได้รับการรับประกันจากโรงงานเหมือนที่ซื้อแรพเตอร์ แล้วยังจะสูญเสียการรับประกันจากผู้ผลิตอีกด้วย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วน ซึ่งถือว่าผิดเงื่อนไขการรับประกัน
5. การรับประกันใหม่
ฟอร์ดยุคใหม่นี้ ถือว่ามีการบริการหลังการขายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการอย่างรวดเร็ว การเข้าไปดูแลลูกค้าที่มีปัญหา รวมถึงการมีรถให้ใช้ในระหว่างที่รถซ่อมอยู่ด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือ การเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีของฟอร์ดที่เราสามารถจับต้องได้ อีกทั้งในส่วนของรถที่เกิดปัญหาขึ้นนั้นทางฟอร์ดได้ขยายการรับประกันจากปกติ 3 ปี หรือ 100,000 กม. เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. นัยว่าเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ถึงบรรทัดนี้ ใครที่ยังสงสัย ไม่แน่ใจ เราขอแนะนำให้ไปทดลองขับที่โชว์รูม แล้วท่านจะเข้าใจในสิ่งที่เราบรรยายมาทั้งหมด ว่าจริงหรือไม่ เพราะหากคุณจะซื้อรถสักคัน แนะนำว่า อย่าเกรงใจใคร ต้องได้ลอง ก่อนตัดสินใจซื้อ แล้วคุณจะได้รู้รถคันนั้นมันตรงกับที่เราต้องการอยู่หรือไม่ประการใด สำหรับ แรพเตอร์ ถ้าเผลอลองแล้ว คุณอาจจะอยากเสียเงินให้กับรถรุ่นนี้ .... ไม่เชื่อเรา ก็ไปลองขับได้เลย