เพื่อให้หายข้องใจ คลายทุกข้อสงสัย ค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจึงจัดทริปทดสอบ “พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด” สกู๊ตเตอร์ตัวธงประจำค่ายที่อัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ โดยการเติมระบบขับเคลื่อนแบบลูกผสม หรือที่เรียกติดปากกันว่าระบบ “ไฮบริด” ให้สื่อมวลชนสายสองล้อได้พิสูจน์สมรรถนะกันว่ามันมีดีอย่างไร
...นั่นสิ ไฮบริดที่ว่ามันดีกว่ารุ่นปกติยังไง
ก่อนรู้คำตอบ ขออนุญาตไล่เรียงไทม์ไลน์คร่าวๆ ของโมเดลนี้กันก่อน
ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด (PCX Hybrid) เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปีก่อน
ส่วนในไทย เอ.พี.ฮอนด้า ยึดงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2018 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นปีเพื่อทำการเปิดตัว แต่ยังไม่ให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสเปก กำหนดการทำตลาด และราคาที่ทุกคนอยากรู้
ทิ้งช่วงจังหวะเวลามาถึงกลางปีในเดือนกรกฎาคม ค่ายปีกนกจัดงานแถลงข่าวใหญ่เพื่อให้รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถ โดยชูจุดเด่นว่านี่คือ รถจักรยานยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน พร้อมแย้มคิวการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในเดือนถัดไป
และแน่นอน สำหรับราคาค่าตัวก็ยังเป็นปริศนาเช่นเดิม
หลังจากนั้นเพียงเข้าสู่วันที่ 2 ของเดือนสิงหาคม ตามสัญญาการปล่อยโมเดลรุ่นยอดนิยมที่เพิ่มเติมขุมพลังไฮบริดออกสู่ตลาด เอ.พี.ฮอนด้า แจ้งราคาจำหน่ายอยู่ที่ 99,900 บาท
ถือว่าช็อกโลกพอสมควร เพราะก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารเคยให้ข้อมูลเช็กเรตติ้งไว้ว่าไม่เกิน 120,000 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าส่วนต่างราคาจะแคบลงจากที่หลายคนคาดเดา ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ รุ่นปกติ ขาย 82,300 บาท รุ่นไฮบริดจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 20,000 บาท แต่เงินก้อนนี้คนซื้อไปจะได้อะไรบ้าง? ก็ยังเป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่ดี
หลังการขับขี่ในทริปทดสอบ เส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ระยะทางรวมกว่า 100 กิโลเมตร เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อะไรที่มันดีจากที่เรารู้และสัมผัสได้ เราก็อยากให้คุณรู้ด้วย
***บิดแรงแซงสบาย***
ก่อนหน้านี้ค่ายปีกนกเคยจัดกิจกรรมเทสต์ไรด์แบบสั้นๆ ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยย่านรามคำแหง โดยนำพีซีเอ็กซ์ รุ่นปกติ และโฉมขุมพลังลูกผสมมาให้ลองบิดกระแทกคันเร่ง วัดกันไปเลยรุ่นต่อรุ่น รู้เลยว่ามันแรงกว่ากันชัดเจน
แต่ในสนามทดสอบเขาไม่ให้ขี่แซงกันครับ
ทีนี้พอได้ลองในสถานการณ์จริง แรงบิดที่เพิ่มมากขึ้น 26 เปอร์เซ็นต์ พร้อมให้สัมผัสตั้งแต่ช่วงออกตัว รวมถึงในยามที่รถกำลังวิ่ง และเราต้องการจะบิดแซงคู่แข่ง เฮ้ย...ไม่ใช่ หมายถึงรถคันอื่นบนท้องถนน มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยส่งพลังขับเคลื่อนให้คุณเร่งสปีดแซงรถคันหน้าได้อย่างสบายๆ
ขณะเดียวกันไม่ได้บิดสนุกแรงขึ้นอย่างเดียว แต่ยังให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีกว่ารุ่นก่อนหน้า จากเดิมที่ว่าประหยัดมากถึง 51.3 กิโลเมตรต่อลิตร เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์อีกต่างหาก
***โหมดสปอร์ตสนุกได้อีก***
นอกจากพละกำลังแรงเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ จากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่มาช่วยหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเสริมการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ eSP ขนาด 150 ซีซี หรือรวมสมรรถนะแรงบิดเทียบเท่าการใช้เครื่องยนต์ขนาด 180 ซีซีแล้ว เจ้าระบบไฮบริดยังมีลูกเล่นโหมดการขับขี่ติดตั้งมาให้ด้วย
ส่วนการเลือกใช้ก็ไม่ยาก ทำได้ทั้งตอนรถจอดหรือล้อหมุน เพียงกดปุ่มที่แฮนด์บังคับฝั่งซ้ายในตำแหน่งไฟขอทาง มีให้เลือก 2 โหมด คือ D (Drive Mode) และ S (Sport Mode) ซึ่งทั้งสองโหมดนี้เวลาเราบิดคันเร่งแบบฉับพลัน ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะส่งพลังมาช่วยหมุนเพลาข้อเหวี่ยงด้วยทั้งคู่ เพียงแต่ต่างกันที่การตอบสนอง
อยากแรงปกติใช้ D อยากแรงแบบสปอร์ตเลือก S
***หน้าจอหรูขั้นสุด***
จริงๆ ส่วนนี้เป็นการต่อยอดจากโฉมธรรมดา การแสดงสถานะต่างๆ บนแผงหน้าปัดแบบดิจิตอลนั้นก็หรูหราอยู่แล้ว แต่ในรุ่นไฮบริดจะเรียกว่าไฮโซขั้นสุดก็ว่าได้
โดยการเพิ่มแถบเลเวลการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเช่นกันกับการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่เมื่อผ่อนคันเร่ง ระดับพลังงานในแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และตัวอักษรแสดงไรด์ดิ้งโหมดที่ผู้ขับขี่กำลังเลือกใช้อยู่ในขณะนั้น
***สัญลักษณ์ไฮบริดมาตรฐานโลก***
สำหรับเหล่าไบค์เกอร์ที่ชื่นชอบความยูนีค สีสันของฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ไฮบริด จะแตกต่างกับรุ่นธรรมดาอย่างไม่ต้องสังเกตก็เห็นได้ชัด จากการเลือกใช้สีโทนเข้ม น้ำเงิน-ดำ (BLUE-BLACK) พร้อมความพิเศษของเส้นสายไฟหน้า Blue Liner LED Headlight
ตบท้ายด้วยตราสัญลักษณ์ ไฮบริด (HYBRID) ในรูปแบบฟร้อนท์เดียวกับที่ฮอนด้าใช้แปะอยู่บนรถยนต์ไฮบริดที่วางจำหน่ายทั่วโลก
ทั้งหมดคือสิ่งที่เราสัมผัสได้ ทั้งฟีลลิ่งการขับขี่และรูปลักษณ์หน้าตา
เกือบลืม! เพิ่มเติมข้อมูลอีกนิด ค่ายปีกนกให้การรับประกันคุณภาพรถจักรยานยนต์ไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน จำนวน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ส่วนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงชนิดนี้ โดยประมาณอยู่ที่ 6-8 ปี
รู้แล้วว่าดีกว่ารุ่นปกติยังไง ถ้าอยากลองใช้ ค่าตัวจำง่าย จ่ายหนึ่งแสนทอนร้อยเดียว.