บทสัมภาษณ์พิเศษประธานคนใหม่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย “โรลันด์ โฟลเกอร์” หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ กับประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ดูแลตลาดมาอย่างหลากหลายพื้นที่ ครั้งนี้มารับตำแหน่งใหญ่ในเมืองไทย จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงค่ายแห่งดวงดาวรายนี้หรือไม่ เชิญติดตามอ่านได้
-มุมมองต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ผมเพิ่งจะมารับตำแหน่งได้ 10 วัน(สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561) ดังนั้นจึงยังไม่สามารถบอกอะไรที่ชัดเจนได้ กำลังพยายามทำความเข้าใจอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เมื่อดูจากงานในวันนี้(AMG Driving Experience) จะเห็นได้ว่าตลาดของไทยมีศักยภาพสูงมาก ประกอบกับเรามีทีมงานที่เข้มแข็งและเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่คลอบคลุมและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศจึงน่าจะตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภค
-สิ่งแรกที่จะทำเมื่อรับตำแหน่ง
รับฟัง จากประสบการณ์การทำงานของผมกว่า 40 ปี เมื่อคุณมาเริ่มต้นทำงานในที่ใหม่ สิ่งแรกที่ควรทำคือ รับฟัง ข้อมูลต่างๆ จากทั้งทีมงานและผู้แทนจำหน่าย เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์และสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าคุณไม่รับฟังคนที่ดูแลอยู่ก่อนแล้ว
-ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
เหมือนเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลก คือสร้างแบรนด์ ให้คงอยู่ในระดับที่ดีที่สุด ซึ่ง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมี 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มสุดหรูหราอย่าง เมอร์เซเดส-มายบัค และ กลุ่มสปอร์ตอย่าง เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ที่ให้ความรู้สึกว่าหนุ่มขึ้น อายุน้อยลง
-นโยบายมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติ โดยเราจะเน้นไปที่รถมือสองมากขึ้นกว่าเดิม โดยจะมีการสร้างการรับรู้ใหม่ในการทำแบรนด์รถมือสองของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผ่านทางเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย โดยจะมีการแยกส่วนชัดเจน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ในการซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้ามีความสนใจที่จะซื้อรถยนต์รุ่น อี-คลาส ใหม่ป้ายแดง ในงบประมาณ 4 ล้านบาท เมื่อมีการทำรถมือสองควบคู่ไปด้วย ลูกค้าจะมีทางเลือกในงบที่เท่าๆ กัน อาจจะซื้อรุ่น เอส-คลาส มือสองที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ รวมถึง การรับเทรดอิน หรือ ลูกค้าสามารถนำรถเข้ามาเทิร์นเพื่อออกคันใหม่ได้ด้วยเช่นกัน เรียกว่าครบวงจร
-การทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่งจะประกาศสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ ในประเทศไทย ภายใต้การส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งเวลานี้การก่อสร้างคืบหน้าไปมาก โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตามกำหนด ราวปีหน้า ส่วนทิศทางของชนิดรถจะเป็น PHEV หรือ BEV ยังไม่สามารถตอบได้ในเวลานี้
-เป้าหมาย
ความพึงพอใจของผู้บริโภคคือ เป้าหมายสูงสุดของเรา ภายใต้ปรัชญา “การนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดังนั้นทุกอย่างที่เราทำเพื่อเกิดประโยชน์แก่ลูกค้าของเรา และแน่นอนรวมถึงสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทและเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่เหมาะสมอีกด้วย
ถึงบรรทัดนี้ ต้องจับตาดูให้ดีกับภารกิจรักษาความเป็นแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์เอาไว้ให้ได้ ซึ่งเมื่อมองไปที่ยอดขายในตลาดรถหรู เจ้าของสัญลักษณ์แห่งดวงดาวรายนี้ยังยืนอยู่ในตำแหน่งเบอร์หนึ่ง แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะค่ายหรูร่วมประเทศนั้นยอดขายหายใจรดต้นคอมาแล้ว