ครั้งแรกในโลก! ไทรอัมพ์ เผยโฉม 2 รุ่นใหม่ "สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี และ เอ็กซ์อี เอาใจสาวกขาลุย เท่ห์สไตล์ออฟโรดสุดคลาสสิก พร้อมเครื่องใหม่ใหญ่กว่าเดิมจาก 900 ซี.ซี.เป็น 1200 ซี.ซี. สำหรับตลาดไทย เตรียมเปิดตัววันที่ 13 พ.ย. นี้ ที่ ร้านเดอะ แคฟวาลรี่ คลับ
ไทรอัมพ์ เปิดตัวรถมอเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด “สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี” และ “สแครมเบลอร์1200 เอ็กซ์อี” ครั้งแรกในโลก ที่มาพร้อมมาตรฐานใหม่หมดด้วยความสามารถแบบ Dual Purposeและสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น เน้นสมรรถนะและคุณลักษณ์เฉพาะรวมถึงรูปลักษณ์ที่สวยงาม ซึ่งหลอมรวมเข้ากับ DNAของไทรอัมพ์ได้อย่างโดดเด่นและเต็มความสามารถในสไตล์แอดเวนเจอร์อย่างแท้จริง
-จุดกำเนิดของสแครมเบลอร์รุ่นใหม่
สแครมเบลอร์ 1200 ใหม่ล่าสุด บ่งบอกให้เห็นถึงต้นกำเนิดโดยตรงที่มาจากรุ่นดั้งเดิมช่วงปี 1960 ที่ไทรอัมพ์ มีบทบาทในการสร้างต้นแบบและทำให้สแครมเบลอร์ดียิ่งขึ้น ด้วยการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำแบบเปลือยท้าย ติดตั้งท่อคู่ตั้งตรงแขวนลอยทั้งสูงหรือต่ำและท้ายตัดสั้น อันเป็นต้นแบบของรถสิงห์ทะเลทรายอย่างแท้จริง และเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตสแครมเบลอร์ครั้งแรกของโลก พร้อมกับบอนเนวิลล์ ที-120 ทีที และ ที120ซี ตลอดจน ทีอาร์6 ซี ซึ่งเป็นรถที่ Steve McQueen เคยใช้ขี่ในทะเลทราย รวมถึง Bud Ekins ใช้ในการแข่งขันบนทางวิบากและได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ในทะเลทราย อย่างรายการ Baja1000
ในปี 2006 การเปิดตัว สแครมเบลอร์ ในโลกยุคใหม่ ไทรอัมพ์ได้สร้างต้นแบบของรถรุ่นใหม่ ซึ่งกระตุ้นโลกของรถสไตล์สแครมเบลอร์ที่เห็นในปัจจุบัน ตลอดจนฐานแฟนคลับทั่วโลก ตั้งแต่นักบิดในเมืองไปจนถึงดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงต่างคลั่งไคล้ในสไตล์อันโดดเด่น และภาพเงาที่เหนือกาลเวลาของรถมอเตอร์ไซค์สแครมเบลอร์จากไทรอัมพ์
-จุดเด่นใหม่ของสแครมเบลอร์ 1200
สแครมเบลอร์ใหม่ทั้ง 2 รุ่น ประกอบด้วย สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์ซี ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานได้ในทุกสภาพท้องถนนและความสนุกในการขับขี่แบบออฟโรดอย่างแท้จริง รวมถึง สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์อี ตัวท๊อป ที่เพิ่มคุณลักษณ์เฉพาะระดับชั้นสูง และความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดบรรจุในรถรุ่นนี้ เพื่อเป็นสุดยอดมอเตอร์ไซค์ระดับต้นๆ ของโลกอย่างแท้จริง
-ประสบการณ์สุดเร้าใจ
2 รุ่นใหม่นี้ ให้แรงบิดและเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบสแครมเบลอร์ที่นุ่มลึกในแบบเดียวกันกับเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ รุ่นล่าสุด รวมถึงรอบการจุดระเบิด 270 องศา ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ พร้อมการขับเคลื่อนที่นุ่มนวลจากเกียร์ 6 สปีด ที่ผสานกับเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ให้แรงม้าถึง 90 แรงม้า ที่อัตราเร่ง 7,400 รอบต่อนาที ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ให้กำลังแรงมากกว่ารถรุ่นบอลเนวิลล์ ที120 ถึง 12.5% และมากกว่า สตรีท สแครมเบลอร์ 2019 ถึง 38%
นอกจากนี้ ตัวจ่ายกำลังได้ถูกปรับปรุง เพื่อให้สามารถส่งแรงบิดที่สูงขึ้นเมื่อขับขี่บนเส้นทางออฟโรดและท้องถนนทั่วไป พร้อมส่งต่อรายละเอียดของเสียงเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง โดยมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตร ที่ 3,950 รอบต่อนาที พร้อมเอกลักษณ์ของเสียงในแบบสแครมเบลอร์ ที่เป็นการผสานระหว่างระบบท่อไอเสียคู่คุณภาพสูง กับเฮดเลอร์ และท่อเก็บเสียงทำจากสแตนเลส ทำให้เสียงมีความโดดเด่นนุ่มลึก
พร้อมคันเร่งไฟฟ้า และระบบทำความเย็นด้วยของเหลว เพื่อพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น สะอาดขึ้น และการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ทั้งมีรอบการตรวจสอบบำรุงรักษาครั้งแรกยาวนานถึง 16,000 กิโลเมตร
-มากมายสุดยอดขีดความสามารถ
ด้วยความสามารถแบบขีดสุดของ สแครมเบลอร์ 1200 มาพร้อมกับมาตรฐานเทคโนโลยีชั้นนำที่มุ้งเน้นผู้ขับขี่มากมาย ได้แก่
-แผงหน้าปัด TFT รุ่นที่ 2
รถทั้ง 2 รุ่นจะมีแผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colour รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมการออกแบบอย่างมีสไตล์ และธีมการแสดงข้อมูล 2 แบบ ซึ่งสามารถกำหนดลักษณะได้ด้วยตนเอง รวมถึงลักษณะใหม่ทั้งหมดที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถอัพเดทข้อความบนหน้าจอเริ่มต้นได้ด้วยชื่อของผู้ขับขี่เองได้
-โหมดการขับขี่ 6 แบบ รวมถึงโหมด Off-Road Pro
2 รุ่นมีโหมดการขับขี่ทั้งแบบบนถนน, ฝนตก, ออฟโรด, สปอร์ต และการขับขี่ที่กำหนดตามลักษณะของผู้ขับขี่ ซึ่งปรับการตอบสนองของรถมอเตอร์ไซค์ ตั้งค่าระบบ ABS และระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน ให้เหมาะสมตามความชอบของผู้ขับขี่และสภาพการขับขี่ นอกเหนือจากโหมดการขับขี่ทั้ง 5 แบบนี้ ในรุ่นเอ็กซ์อี ยังมีโหมด Off-Road pro ซึ่งเน้นการขับขี่แบบออฟโรด เพื่อการขับขี่แบบผจญภัยที่เหนือชั้น โดยเมื่อใช้งานในระบบนี้ จะเป็นการปิดระบบ ABS และระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน โดยใช้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในแบบ Off-Road แทน
-ระบบ ABS การเข้าโค้ง พร้อมตรวจจับแรงเฉื่อย IMU
เอกสิทธิ์เฉพาะ รุ่นเอ็กซ์อี จะมีระบบ ABS ในการเข้าโค้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ช่วยรักษาประสิทธิภาพการเบรกที่เหมาะสม ไม่ว่าจะมีองศาการเอียงรถเท่าใด ส่วน รุ่นเอ็กซ์ซี มีระบบ ABS แบบเปิด-ปิดได้ สามารถใช้งานได้กับโหมดการขับขี่ทั้ง 3 แบบ ซึ่งจะต้องกดเลือก หากต้องการใช้กับโหมดการขับขี่ Rider
-ระบบควบคุมยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง พร้อมตรวจจับแรงเฉื่อย IMU
รุ่นเอ็กซ์อี มีระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนในการเข้าโค้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสามารถรักษาการควบคุมการยึดเกาะถนนได้โดยอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ คุณลักษณะนี้ยังช่วยรักษาระดับการควบคุมการยึดเกาะถนนในทุกองศาการเอียงรถ ส่วนรุ่นเอ็กซ์ซี มีระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนแบบปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามโหมดการขับขี่ทั้ง 5 แบบ โดยต้องกดเลือก หากต้องการใช้กับโหมดการขับขี่ Rider
- ระบบตรวจจับแรงเฉื่อย เฉพาะในรุ่นเอ็กซ์อี
ระบบ IMU ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือในกับ Continental จะช่วยให้การทำงานของระบบ ABS ในขณะเข้าโค้ง และการควบคุมการยึดเกาะถนนของ Scrambler 1200 XE เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยระบบนี้จะตรวจวัดการหมุนตามแกนยาว (roll) การหมุนตามแกนด้านข้าง (pitch) การหมุนตามแกนที่ขนานกันไปยังแกนปกติของรถ (Yaw) องศาการเอียงรถ และอัตราเร่ง ให้สอดคล้องกับคุณสมบัติความปลอดภัยที่เหมาะสม
- ระบบไฟ LED และไฟหน้า DRL เอกลักษณ์เฉพาะ
สแครมเบลอร์ทั้ง 2 รุ่น จะมีระบบส่องสว่างเป็นไฟ LED ทั้งหมด รวมถึงไฟหน้า 5 นิ้ว ไฟท้ายที่มีรายละเอียดการกระจายแรงที่โดดเด่นมากกว่าเดิม และ ไฟหน้ายังมีการทำงานแบบไฟ LED ส่องสว่างในช่วงกลางวัน (มีขายในตลาดที่ได้รับการอนุญาต) ซึ่งช่วยเพิ่มการมองเห็นที่ดีเยี่ยม และรูปแบบของแสงไฟที่สะดุดตา พร้อมสวิตช์เรืองแสงจาก LED ที่ติดตั้งภายในกล่องสวิตช์ ซึ่งช่วยเสริมการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ และเพิ่มการควบคุมให้ดีขึ้น โดยมีแสงสว่างอ่อนๆ ออกมาในทุกสภาพแสง
-คลัตช์ผ่อนแรง
คุณลักษณะนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดแรงกำคลัตช์ของผู้ขับขี่ ช่วยให้เบาสบายขึ้นและรู้สึกได้ถึงคลัตช์ที่นิ่มขึ้นจึงทำให้ขับขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้นและยาวนานขึ้น
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอิเล็กทรอนิกส์ จัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของสแครมเบลอร์ทั้ง 2 รุ่น เป็นระบบบังคับปุ่มเดียวซึ่งติดตั้งอยู่ทางกล่องสวิตช์ด้านซ้าย โดยสามารถเข้าถึงการใช้งานระบบนี้ได้ง่ายขึ้นในขณะขับขี่เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุด
-ระบบสตาร์ทไร้กุญแจ
ระบบสตาร์ทไร้กุญแจของไทรอัมพ์ถือเป็นปกรณ์มาตรฐานของทั้ง 2 รุ่น ตัวระบบจะจดจำรหัสสัญญาณกุญแจรีโมท และสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านกล่องสวิตช์ที่ปุ่มสตาร์ท นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปิดการทำงานการส่งผ่านคลื่นวิทยุของกุญแจเมื่อแตะปุ่มเพื่อความปลอดภัยที่มากกว่าเดิม
-ปลอกมือปรับอุณหภูมิ
ปลอกมือปรับอุณหภูมิเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่นเอ็กซ์อี และเป็นชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่นเอ็กซ์ซี ซึ่งสามารถเปิด-ปิดด้วยปุ่มสวิตซ์ที่กลมกลืนกับปลอกมือด้านซ้ายอย่างแนบเนียน ช่วยให้ขับขี่ได้สบายยิ่งขึ้นในทั้ง 2 โหมดการขับขี่
-อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ
สแครมเบลอร์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ถึง 5 ช่อง ไว้สำหรับชาร์จอุปกรณ์ส่วนตัว ซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้เบาะที่นั่ง พร้อมติดตั้งระบบควบคุมกล้อง GoPo คันแรกของโลก โดยเชื่อมต่อเข้ากับชุดอุปกรณ์บลูทูธ ที่เป็นอุปกรณ์เสริมได้ด้วย โดยการเชื่อมต่อและการควบคุมจะแสดงบนแผนหน้าปัด TFT ซึ่งช่วยในเรื่องการใช้งานรูปภาพและวิดีโอ ผ่านการควบคุมโดยสวิตช์เกียร์ ทั้งมีระบบนำทางการแจ้งเตือนแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว (turn-by-turn) ซึ่งเป็นครั้งแรกของผู้ผลิตที่ร่วมมือกับ Google พร้อมเลือกรับฟังเพลง ปรับลดระดับความดังและคุยสายสนทนาได้ด้วยชุดเชื่อต่อบลูทูธ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม เพียงดาวน์โหลด แอปพลิเคชันจากไทรอัมพ์ โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย
-คุณลักษณะเฉพาะและอุปกรณ์ระดับชั้นนำ
ในการทำงานร่วมกับ Ohlins รวมถึงการตกแต่งโครงรถสแครมเบลอร์ใหม่ ที่เน้นความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด และหลักสรีรศาสตร์ของผู้ขับขี่ เพื่อความสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น จึงพัฒนาให้สามารถขับขี่ได้แบบแอดเวนเจอร์และคลาสสิกในแบบ dual purpose โดยในรถทั้งสองรุ่นจะมีชุดกันสั่นสะเทือนด้านหลังตัวใหม่จาก Ohlins แบบสปริงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนค่าได้ ซึ่งช่วยส่งต่อการเดินทางและความสามารถในการป้องกันการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี เหมาะกับความสูงจากพื้นรถและการขับขี่แบบออฟโรด โดยรุ่นเอ็กซ์อี ผลิตขึ้นเพื่อเน้นการขับขี่แบบออฟโรดให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมีระยะการเคลื่อนตัวของล้อมากถึง 250 มิลลิเมตร ส่วนในรุ่นเอ็กซ์ซี ที่เป็นการใช้งานแบบ dual purpose มีระยะการเคลื่อนตัวของล้อที่ 200 มิลลิเมตร โดยในทั้ง 2 รุ่นจะมีการติดตั้งพร้อมกับโช้คหลังแบบมีกระปุกน้ำมันแยก
“โช้คสปริงคู่ของ Ohlins ของชุดกันสั่นสะเทือนด้านหลังในสแครมเบลอร์ 1200 ใหม่จากไทรอัมพ์เป็นการรวมเทคโนโลยีใหม่เข้ากับแรงบันดาลใจจากรถมอเตอร์ไซค์วิบากในต้นปี 70 พร้อมแล้วที่จะส่งต่อประสิทธิภาพระดับสูง และความสามารถการกันการสั่นสะเทือนที่ล้ำไปอีกระดับเพื่อการเดินทางที่ยาวนานขึ้น
“ทีมทดสอบของผมรู้สึกประหลาดใจในประสิทธิภาพของสแครมเบลอร์ 1200 ใหม่ และคิดว่าเป็นรถที่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรดมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์อื่นๆ ที่เคยทดสอบมาด้วย” คำกล่าวของ Emil.Aberg ÖHLINS Key Account manager
นอกจากนี้ สแครมเบลอร์ทั้ง 2 รุ่น ยังมีสวิงอาร์มที่ทำจากอะลูมิเนียมสำหรับการเดินทางไกล โดยจะมีขนาดยาวกว่า ทำให้รุ่นเอ็กซ์ซี และเอ็กซ์อี สามารถใช้งานในการขับขี่ได้ทุกสภาพ ทั้งติดตั้งเบรก Brembo M50 radial monobloc พร้อมคาลิปเปอร์ ชุดควบคุมที่พักเท้าแบบพับได้และปรับได้ ในรุ่นเอ็กซ์อี โดยมาพร้อมยางชนิดไม่มียางในกับล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว
-สไตล์แห่งสแครมเบลอร์
รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่นนี้ เป็นสไตล์คัสตอมตกแต่งโมเดิร์นในแบบของสแครมเบลอร์ โดยมีรายละเอียดและการตกแต่งที่เป็นสุดยอดของรุ่น โดยวางต้นแบบให้เห็นว่า สแครมเบเลอร์ในศตวรรษที่ 21 ควรมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และเมื่อหลอมรวมกับ DNA ของการออกแบบสแครมเบลอร์ดั้งเดิม ทั้งความงดงามแบบไร้ขีดจำกัดของเวลา ทำให้รถรุ่นเอ็กซ์ซีและเอ็กซ์อี มีรายละเอียดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยถังน้ำมันออกแบบใหม่ให้มีเส้นสายคมชัดและแนบเนียบ, ถังแบบ cut-Away, ล้อซี่ลวดแบบยึดด้านข้างที่มีความสวยงามในเชิงวิศวกรรม, ฝาถังสไตล์ Monza ทำจากอะลูมิเนียมแบบขัดเงา, สายรัดสแตนเลสแบบขัดเงา และเบาะนั่งสุดคลาสสิก สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดรถมอเตอร์ไซค์ของรุ่นเอ็กซ์อี พร้อมติดตั้งตราสัญลักษณ์สามเหลี่ยมของไทรอัมพ์ อยู่บนตัวถังน้ำมัน, แฮนด์การ์ดพร้อมสายรัดทำจากอะลูมิเนียม, ก้านเบรก Brembo MCS, แฮนด์บาร์สีเงิน risers และ clamp สีดำและโช้คสีทอง
สแครมเบลอร์ รุ่นเอ็กซ์ซี มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Jet Black / Matt Black และ Khaki Green / Brooklands Green ส่วนรุ่นเอ็กซ์อี มีให้เลือก 2 สีเช่นกัน ได้แก่ Fusion White / Brooklands Green และ Cobalt Blue / Jet Black พร้อมมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการตกแต่งให้เลือกมากกว่า 80 รายการ และชุดตกแต่งใหม่ 2 ชุด ได้แก่ Escape kit ที่มีกระเป๋าใส่ของแขวนข้างรถและชุดอุปกรณ์ติดตั้ง, ชุดแฮนด์การ์ด, มือจับกันตก, ไฟตัดหมอก LED, ขาตั้งกลางรถ, บังลมและอุปกรณ์ติดตั้ง ซึ่งเหมาะสำหรับการบรรทุกสิ่งของแบบเต็มพิกัด
กับชุด Extreme kit ซึ่งเน้นการเดินทางแบบออฟโรดมากยิ่งขึ้น โดยมีอุปกรณ์ท่อเก็บเสียงคาร์บอนของ Arrow (ผ่านมาตรฐานทางกฎหมาย), การ์ดหม้อน้ำทำจากอะลูมิเนียม, ฝาถังน้ำมันกลึงขึ้นรูป, บังโคลนหน้าระดับสูง, ตัวค้ำแฮนด์บาร์สีดำ, ชุดไฟ LED และชุดถอดเปลี่ยนไฟท้าย, แผ่นวางขาตั้งขนาดใหญ่, การ์ดเครื่องสแตนเลส, ตะแกรงครอบไฟหน้า และกรอบไฟหน้า นอกจากนี้ ยังมีชุดเสื้อผ้าของสแครมเบเลอร์ 1200 ได้แก่ เสื้อยืดแขนสั้น แว่นกันลมลายตารางหมากรุก รวมไปถึงคอลเลกชันเสื้อผ้าสำหรับการขับขี่และชุดลำลองสำหรับหญิงและชายอีกด้วย
สำหรับในไทย อดใจรออีกนิด เพราะ ไทรอัมพ์ ประกาศจะเปิดตัว สแครมเบลอร์ 1200 ใหม่ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ ณ ร้าน เดอะ แคฟวาลรี่ คลับ ถือเป็นครั้งแรกในเอเซียแปซิฟิค ที่คนไทยจะได้สัมผัสและเป็นเจ้าของก่อนใคร..
