ปอร์เช่ แข็งแกร่งในตลาดโลก เฉพาะ 9 เดือนแรก ยอดส่งมอบโต 6% ตัวเลข 195,562 คัน เฉพาะเยอรมนี พุ่งสุด 13% ยอด 24,709 คัน ดันยอดในทวีปยุโรป โต 9% ด้านจีน เพิ่ม 4% โดย พานาเมร่า โตสุด 60% รุ่นหลักเป็นไฮบริด ส่วน “มาคันน์” ยอดสูงสุด 68,050 คัน พร้อมคาดปีนี้ ยอดตามเป้า 246,375 คัน
สตุ๊ทการ์ท : ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ปอร์เช่ เอจี สามารถส่งมอบรถใหม่ได้มากขึ้น 6% หรือคิดเป็น 196,562 คัน ด้วยการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของปอร์เช่ในทวีปยุโรป ทำให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 9% หรือ 66,551 คัน เฉพาะเยอรมัน เพิ่มขึ้น 13% คิดเป็น 24,709 คัน ด้านจีน ที่เป็นตลาดใหญ่สุดของปอร์เช่ มีตัวเลขปรับเพิ่มขึ้น 4% หรือ 56,254 คัน
สำหรับ ปอร์เช่ พานาเมร่า มีการเติบโตสูงสุด โดย 9 เดือนแรก ส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 60% ขณะที่รุ่น 911 ยังรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดเพิ่มขึ้น 19% ตามด้วย มาคันน์ และคาเยนน์ ที่มียอดขายมากสุด ตัวเลขอยู่ที่ 68,050 คัน และ 49,715 คัน ตามลำดับ
“เยอรมนีและทวีปยุโรป เป็นตลาดสำคัญที่สร้างความแข็งแกร่งและรักษาสถานะความเป็นที่สุดของปอร์เช่ที่ครองใจผู้ใช้ทั่วโลก และเป็นที่ต้องการของผู้หลงใหลความแรงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่ตลาดในสหรัฐอเมริกาและจีนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ” Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาดของ ปอร์เช่
“ในช่วงไตรมาสที่ 4 ยังมีภารกิจสำคัญที่ท้าทายมากมาย เราต้องทำงานเชิงรุกเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการทดสอบ WLTP test cycle, ทดสอบการทำงานของการกรองน้ำมันเชื้อเพลิง และการยุติบทบาทของเครื่องยนต์ดีเซลที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ ประกอบกับกฎข้อบังคับด้านมลภาวะในทวีปยุโรป ที่เริ่มใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในอนาคต โดยปอร์เช่ เริ่มดำเนินการผลิตรถที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ ในรุ่นสปอร์ต 2 ประตู คือ 911 และ 718 เป็นอันดับแรก ตามมาด้วย มาคันน์ ใหม่ ที่นำมาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ Paris Motor Show ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปอร์เช่ ไม่ได้บรรจุรถรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลในสายการผลิต ตั้งแต่กุมภาพันธ์ และท้ายสุดเมื่อกันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารได้ลงมติตัดสินใจยุติการทำตลาดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปอร์เช่ ถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้สนใจขุมพลังไฮบริด ปรากฏว่า มากกว่า 60% ของพานาเมร่า ใหม่ ที่ได้รับการส่งมอบในยุโรป เป็นรุ่นขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ดังนั้น ในปีนี้ คาดการณ์ว่า ปอร์เช่ จะมียอดส่งมอบรถใหม่ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 246,375 คัน
