xs
xsm
sm
md
lg

5 เทคนิคขับขี่ออฟโรดให้สนุกและปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หากพูดถึงการขับขี่ออฟโรด หลายๆ คนคงนึกถึงภาพการเดินทางที่แสนสมบุกสมบัน แถมทดสอบทักษะนักขับได้เป็นอย่างดี แต่นอกเหนือจากความสนุกและประสบการณ์สุดท้าทายที่ได้รับ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ผู้ขับขี่จะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการผจญภัยแบบออฟโรด เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมท้องถนน เพราะการขับขี่ออฟโรดนั้น เต็มไปด้วยความท้าทายและอาจไม่สะดวกสบายเหมือนการขับรถบนถนนพื้นผิวเรียบทั่วไปเหมือนในชีวิตประจำวัน

ทีมวิศวกรของ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่” ได้แนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้สามารถออกเดินทางบนทุกพื้นผิวที่ท้าทายและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเมื่อออกผจญภัยแบบออฟโรด



1. เตรียมตัวให้พร้อม


การขับขี่แบบออฟโรด เป็นเรื่องท้าทายที่เราไม่ควรประมาท ดังนั้น การวางแผนการเดินทางอย่างละเอียด การเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือและเตรียมรถให้พร้อมใช้งานเต็มกำลังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แนะนำให้เตรียมเช็คลิสต์สำหรับการเดินทาง โดยเริ่มตั้งแต่เติมน้ำมันให้เต็มถัง เตรียมเชือกสำหรับลากรถ ยางสำรอง ชุดอุปกรณ์การเปลี่ยนยาง เครื่องปั๊มลมแบบพกพา น้ำดื่ม ไฟฉาย และอื่นๆ
ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยโทรฉุกเฉิน ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ด้วยระบบ SYNC® และต่อสายไปที่เบอร์ 1669 ในกรณีที่มีอุบัติเหตุ และยังมีระบบแผนที่นำทางด้วยดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถที่ยังคงใช้งานได้เมื่อออกนอกพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้สามารถติดต่อโลกภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา




2. ลดแรงดันของยาง


เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด อีกทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารตลอดระยะเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ ข้อดีในการลดแรงดันของยางนั้นมีอยู่มากมาย เช่น

-หากพื้นผิวยางสามารถสัมผัสพื้นผิวของถนนได้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้รถสามารถกระจายน้ำหนักได้สมดุลมากเท่านั้น

-ยางจะสามารถดูดซับแรงกระทบได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยปกป้องล้อและส่วนอื่นๆ ของยานพาหนะเมื่อขับเคลื่อนบนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ

-การลดแรงดันของยางจะมอบความรู้สึกของการขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อออกผจญภัยแบบสมบุกสมบัน ยางที่อ่อนเล็กน้อยจะช่วยยึดเกาะถนนที่มีพื้นผิวขรุขระและสามารถลดแรงกระแทกได้ในเวลาเดียวกัน


โดยฟังก์ชั่นระบบตรวจจับลมยาง ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะทำหน้าที่คอยตรวจวัดความดันลมในยางล้อทั้ง 4 ล้อ และเตือนผู้ใช้งานเมื่อความดันลมเปลี่ยนแปลง ระบบนี้นอกจากจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย




3. ขับรถด้วยความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


การขับรถเร็ว หมายถึง การมีเวลาตอบสนองน้อยลงต่อสิ่งรอบข้างที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และมักจะใช้เวลานานกว่าเมื่อต้องการจะหยุดรถ ความเร็วจะเพิ่มความเสียหายต่อยานพาหนะมากขึ้น ในกรณีที่ขับรถข้ามสิ่งกีดขวางหรือเมื่อปะทะกับสิ่งใดก็ตาม ในทางกลับกัน การขับรถในอัตราความเร็วต่ำจะช่วยให้ระบบกันกระเทือนรับมือกับแรงกระทบได้ดีกว่า ทำให้การขับขี่นั้นนุ่มนวลและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเวลามากพอที่จะตรวจสอบสิ่งรอบข้าง และมีเวลาไตร่ตรองก่อนจะตอบสนองกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด


ดังนั้น เพื่อให้ขับรถทางไกลได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ของฟอร์ด จะช่วยควบคุมความเร็วตามที่กำหนด และจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้อัตโนมัติ โดยระบบจะช่วยเบรกและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่ไม่ต้องคอยเหยียบเบรกและคันเร่ง เป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมเมื่อต้องเดินทางระยะไกล




4. เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดทุกครั้ง


ทุกครั้งที่ต้องออกเดินทาง ควรศึกษาเส้นทางให้ละเอียดเพื่อความปลอดภัย พยายามศึกษาว่าในเส้นทางนั้นๆ มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่น ทางโค้ง ทางเลี้ยวหักศอก ทางชัน และอื่นๆ เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและเพื่อให้สนุกกับประสบการณ์ออฟโรดแบบขั้นสุด


ด้วยเทคโนโลยีของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน จะทำให้การขับรถลงภูเขาที่ลื่นและลาดชันง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม บวกกับความสามารถในการลุยน้ำสูงถึง 80 ซม. ทำให้มั่นใจได้ว่า ต่อให้บุกป่าฝ่าดงแค่ไหน ก็จะได้รับความปลอดภัยตลอดเส้นทางเมื่ออยู่ในรถคันนี้




5. ทำความเข้าใจในเรื่องการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน


พื้นผิวถนนที่แตกต่างกันจำเป็นต้องใช้เทคนิคและฟังก์ชั่นการขับขี่ที่แตกต่างกันด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะทำให้การผจญภัยง่ายขึ้น เพียงปรับโหมดให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวต่างๆ ที่ขับในแต่ละครั้ง


ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีทั้งโหมดปกติ โหมดโคลน โหมดทราย และโหมดหิน ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้าเพื่อให้บุกตะลุยไปได้ทุกที่ ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นแบบไหน เพียงหมุนปุ่มปรับโหมด ก็สามารถสนุกกับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้ตลอดทริป





กำลังโหลดความคิดเห็น