ในประเทศไทย เราจะพบเห็นการบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก จนสูงและหนักเกินไปเป็นประจำ ทั้งที่เป็นการบรรทุกสัมภาระที่ไม่เหมาะสม และเป็นอันตราย ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการควบคุมรถ เปลืองน้ำมัน เนื่องจากมีการต้านทานลมที่เพิ่มขึ้น และน้ำหนักที่มากเกินไปจะกดทับช่วงล่างของรถ
ดังนั้น การลากจูง ถือเป็นทางออกที่ดีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และเพื่อช่วยให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการถ่ายเทน้ำหนักมากขึ้น เชฟโรเลต จึงขอนำเสนอเคล็ดลับในการลากจูง ที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังนี้
-เลือกรถให้ถูกต้องเหมาะสม
เมื่อได้รับการติดตั้งด้วยตะขอลากจูงและชุดลากหัวบอลที่เหมาะสม รถโคโลราโดสามารถลากจูงเทรลเลอร์ที่มีระบบเบรก ได้ถึง 3,500 กิโลกรัม และรถเทรลเบลเซอร์ สามารถลากจูงได้ถึง 3,000 กิโลกรัม เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการลากจูง ดังนี้
1.ระบบลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์ จะทำงานเมื่อเทรลเลอร์มีอาการส่ายและช่วยเบรกรถและเทรลเลอร์ รวมถึงลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยในการทรงตัว
2.ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน จะป้องกันการไหลถอยหลังของรถ โดยจะหยุดรถไว้ประมาณหนึ่งวินาที เมื่อต้องออกตัวบนทางลาดที่มีความชันมากกว่า 5 องศา
3.ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน จะช่วยควบคุมความเร็วของรถในขณะลงทางลาดชันไม่ว่าจะอยู่ที่เกียร์เดินหน้าหรือถอยหลัง
4.ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน จะใช้ชุดเกียร์ในการควบคุมแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานจากเบรกของล้อรถและเทรลเลอร์ในขณะที่ขับลงทางลาด
-เลือกตะขอลากจูงให้เหมาะสม
การเลือกตะขอลากจูงและสายไฟเชื่อมต่อที่เหมาะสม มีผลต่อการควบคุมรถยนต์ การเข้าโค้ง และการเบรก รวมถึงความสามารถในการส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่คนอื่น เมื่อต้องเปลี่ยนช่องจราจรหรือเลี้ยวขณะลากจูงได้ ก่อนที่จะเลือกตะขอลากจูงหรือเทรลเลอร์ ควรรู้น้ำหนักที่รถสามารถบรรทุกหรือลากจูงได้ก่อน และปรึกษาผู้ที่มีความเชียวชาญในการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการใช้งานที่เหมาะสม
-คำนวณให้ดี
อัตราการรับน้ำหนักสุทธิของรถ (GCWR) คือ น้ำหนักรวมสูงสุดที่ได้รับอนุญาตสำหรับรถและเทรลเลอร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ผู้โดยสาร สัมภาระ อุปกรณ์ และชุดแต่ง ซึ่งน้ำหนักทั้งหมดไม่ควรเกินอัตราการรับน้ำหนักสุทธิของรถ ซึ่งดูได้จากคู่มือสำหรับรถยนต์
สำหรับการตรวจสอบว่าน้ำหนักของรถยนต์และเทรลเลอร์อยู่ในอัตราการรับน้ำหนักสุทธิของรถหรือไม่ เริ่มต้นจากน้ำหนักรถเปล่า บวกน้ำหนักของเทรลเลอร์ ซึ่งบรรทุกสัมภาระและพร้อมสำหรับการเดินทาง, น้ำหนักของผู้โดยสารทุกคนบนรถ, น้ำหนักของสัมภาระทั้งหมด และน้ำหนักของชุดลากจูง เช่น เหล็กต่อพ่วงรถ, ชุดลากหัวบอล, บาร์คู่สำหรับรับน้ำหนัก หรือ บาร์ค้ำลากจูง
-ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการลากจูง
จากพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกสำหรับประเทศไทย ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถลากจูงได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตหากสัมภาระที่ลากจูงมีน้ำหนักน้อยกว่า 1,600 กิโลกรัม ซึ่งไม่รวมน้ำหนักของสัมภาระที่บรรทุกบนรถ แต่ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องมีใบอนุญาตหากลากจูงเทรลเลอร์ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1,600 กิโลกรัม เจ้าของรถควรนำเอกสารที่มีข้อมูลของเทรลเลอร์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เผื่อถูกเรียกเพื่อตรวจสอบ และเมื่อขึ้นทางด่วน เจ้าของรถอาจจะต้องจ่ายเงินมากกว่าปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ เทรลเลอร์ต้องมีทะเบียนรถแยกต่างหาก
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก เริ่มหันมาใช้การลากเพื่อการขยายธุรกิจของตนมากขึ้น อย่าง “คลาสคาเฟ่” ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มแบบสตาร์ทอัพ ได้นำรถกระบะเชฟโรเลตโค รุ่นแอลทีแซด พ่วงลากจูงเทรลเลอร์แบบฟู้ดทรัค ให้บริการนอกสถานที่ตามงานอีเว้นท์ต่างๆ
นายมารุต ชุ่มขุนทด ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารบริษัทคลาสคอฟฟี่ จำกัด กล่าวว่า การทำโมบายล์คาเฟ่ ซึ่งพ่วงลากจูงโดยรถกระบะโคโลราโด เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบหนึ่งที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตขึ้น เพราะทั้งเขาและทีมงานสามารถเดินทางไปสำรวจและทดลองทำธุรกิจร้านกาแฟโดยขายผ่านโมบายล์คาเฟ่ในสถานที่ต่างๆ ทั้งสามารถประเมินโอกาสและศักยภาพในตลาด ก่อนที่จะเปิดสาขาใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะบริเวณที่ห่างไกลหรือบริเวณเนินเขาของภาคอีสาน
“เราต้องการรถกระบะที่มีพละกำลัง มีความทนทาน และมาพร้อมเทคโนโลยี สำหรับการพ่วงลากจูงโมบายล์คาเฟ่ของเราไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล ด้วยเหตุนี้ เราจึงเลือกใช้รถกระบะโคโลราโด นอกจากรูปทรงที่เป็นอเมริกันที่ดูดีและเข้ากับธุรกิจเบอร์เกอร์และกาแฟของเรา ทำให้ดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็น พวกเขามักจะถ่ายรูปและแชร์บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น” นายมารุต กล่าว
นอกจากนี้ ทางคลาสคาเฟ่ ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการและบริหาร ล่าสุด จะนำเอาระบบการจดจำใบหน้าลูกค้ามาใช้ที่ร้านในเร็วๆ นี้ ทั้งเข้าร่วมกับโปแกรมเชฟวี่ พลัส มอบสิทธิ์พิเศษให้แก่ลูกค้าเชฟโรเลต ทั้ง 16 สาขาในกรุงเทพฯ และภาคตะวันออกเฉียงหนือ
ส่วนลูกค้าที่ใช้การลากจูงสำหรับไลฟ์สไตล์ อย่าง นายณกร กมลศิริ อดีตนักกีฬาขี่ม้ากระโดด ทีมชาติไทย และคร่ำหวอดในวงการขี่ม้าร่วม 30 ปี ได้ใช้รถกระบะโคโลราโด แอลทีแซด ในการลากจูงเทรลเลอร์สำหรับขนย้ายม้า 2 ตัว ไปยังสถานที่ทั้งในต่างจังหวัดและต่างประเทศ
“ผมไว้ใจรถกระบะโคโลราโดในการลากจูงเทรลเลอร์สำหรับขนย้ายม้าของผม และสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะโคโลราโดมีเครื่องยนต์ พละกำลังและการควบคุมรถที่ไว้วางใจได้ ” นายณกร กล่าว
นายแฮรี่ สแปรงเกอร์ เจ้าของ UPBEAT บริษัทนำเข้าเทรลเลอร์รายแรกของไทยและผลิตเทรลเลอร์อันดับหนึ่งในไทย ทั้งเป็นผู้ผลิตชุดลาก MasterHook Tow Hitch และชุดลากหัวบอล ให้ความเห็นว่า “การลากจูงเป็นเรื่องใหม่ในไทย เพราะคนไทยยังไม่คุ้นเคย หรือมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับกฎหมายการลากจูง
“ไม่ว่าคุณอยากจะลากจูงเรือเพื่อการท่องเที่ยวหรือลากจูงสินค้าไปยังตลาด การใช้เทรลเลอร์จะทำให้การลากจูงง่ายขึ้น แต่น่าเสียดายที่หลายคนในไทยไม่นิยมใช้การลากจูง เพียงเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าสามารถทำได้ ผมคิดว่าเราควรเปลี่ยนความคิดนั้น” นายแฮรี่ กล่าว