ทันทีที่ข่าวยืนยันการทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการของ “มัสแตง” รถสปอร์ตระดับตำนานของ ฟอร์ด ปรากฏบนสื่อ กระแสการตอบรับของผู้บริโภคเป็นไปในทิศทางบวกค่อนข้างมาก ด้วยการประกาศราคา ในรุ่น 2.3L EcoBoost เคาะค่าตัวอยู่ที่ 3,599,000 บาท และรุ่น 5.0L V8 GT จ่ายค่าตัวที่ 4,799,000 บาท
แค่สเตปแรกที่ประกาศราคาออกมาเช่นนี้ ฟอร์ด โกยแต้มบวกจากสาวกไปได้มากโข ด้วยราคาที่ต้องบอกว่า ประทับใจ เนื่องจากบรรดาผู้นำเข้าอิสระ ที่นำ ฟอร์ด มัสแตง เข้ามาจำหน่ายในช่วงก่อนหน้านี้ ราคาแพงกว่าที่บริษัทแม่ นำเข้ามาทำตลาดเอง โดยอยู่ในระดับ 4 ล้านกว่าบาท สำหรับรุ่น 2.3L
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีบางส่วนที่ผิดหวัง เนื่องจากตัดสินใจซื้อรถรุ่นดังกล่าวจาก เกรย์ มาร์เก็ตมาแล้ว เรียกว่า ช้ำใจที่ซื้อมาก่อนในราคาแพงกว่า และยังส่งผลตอกย้ำให้ผู้ประกอบการรถนำเข้าอิสระที่มี มัสแตง อยู่ในสต็อกเจ็บตัวอย่างหนัก ทั้งจากราคารถที่สูงกว่าบริษัทแม่ ทำให้รถติดมือขายออกลำบาก และซ้ำสอง คือ ผู้บริโภคจะเกิดความรู้สึกกังวลว่า ซื้อรถเกรย์แล้วแพงกว่า แถมในส่วนของการรับประกันยังไม่ชัดเจนเท่ากับรถที่ซื้อจากบริษัทแม่อย่างแน่นอน ทำให้ในอนาคตของธุรกิจรถนำเข้าอิสระมิทิศทางที่มืดมนสำหรับแบรนด์ฟอร์ด
ถามว่า ฟอร์ด นำ มัสแตง เข้ามาทำตลาดเพื่อถล่ม เกรย์ มาร์เก็ต ใช่หรือไม่ คำตอบหลักๆ คือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน หากพิจารณาจากจำนวนยอดขายที่ทาง ฟอร์ด คาดว่า จะจำหน่ายได้แล้ว อย่างไร ไม่น่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุนนำเข้ามาทำตลาด เพราะการทำตลาดรถยนต์แต่ละรุ่น นอกจากต้นทุนค่านำเข้า ยังมีเรื่องของค่าอะไหล่ ที่ค่ายรถยนต์จะต้องมีสำรองไม่น้อยกว่า 10 ปี หลังจากยุติการจำหน่ายรถยนต์รุ่นนั้น
ยิ่งเมื่อเห็นราคาที่เปิดจำหน่ายในระดับ เกรย์ กระอักเลือดแบบนี้ แสดงให้เห็นว่า สัดส่วนกำไรของ ฟอร์ด มัสแตง ไม่ได้มากมายอะไร เมื่อไม่ได้หวังยอดขายมาก แถมกำไรก็น้อย แล้วทำไม! ฟอร์ด นำเข้า มัสแตง มาเพื่ออะไร....
อย่างที่เกริ่นตอนแรก กระแสตอบรับที่ดีของ มัสแตง ไม่ได้เกิดขึ้นแบบรักแรกพบ แต่มัน คือ รักฝังใจ ที่บรรดาเหล่าสาวก หรือแม้จะไม่ใช่สาวก แต่เป็นคนที่ดูหนังฮอลลีวูด จดจำภาพของเจ้ามัสแตงโลดแล่นอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยมักจะรับบทเป็นพระเอกอยู่หลายครั้งด้วยเช่นกัน
เมื่อ ฟอร์ด มีพระเอกเบอร์ต้นๆ ของโลกอยู่ในสังกัด และหาก ฟอร์ด ต้องการจะกอบกู้ภาพลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องหาพระเอกสักหนึ่งคนมาช่วย ดังนั้น หวยจึงมาออกที่ มัสแตง เพราะนี่คือรถยนต์ที่ภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในระดับ A+++ ของ ฟอร์ด
แล้วทำไม ฟอร์ด ต้องมากอบกู้ภาพลักษณ์ด้วย... คำตอบของคำถามนี้ เชื่อว่า ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว... กับประเด็นดังระดับโลก ของ ฟอร์ด เฟียสต้า และโฟกัส สองผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเกียร์ ซึ่งนอกจากประเทศไทยที่ประสบปัญหานี้ ยังมีออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา ที่ประสบปัญหาเดียวกัน
หลายครั้งที่มีคำถามว่า ฟอร์ด จะยังทำตลาดรถยนต์นั่ง ทั้ง เฟียสต้า และ โฟกัส ต่อไปอีกหรือไม่ ทุกครั้ง ผู้บริหารของ ฟอร์ด ประเทศไทย จะตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ยังคงขายอยู่ ส่วนรุ่นใหม่ ที่มีการเปิดตัวในตลาดโลกไปแล้วจะเข้ามาทำตลาดหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ดังนั้น การเข้ามาทำตลาดของ มัสแตง น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้คนไทยได้รู้ว่า ฟอร์ด จะยังคงเดินหน้าลุยทำตลาดรถยนต์นั่งต่อไป
ส่วน มัสแตง จะเข้ามากอบกู้ภาพลักษณ์ที่เสียไปของ ฟอร์ด ในตลาดรถยนต์นั่งได้หรือไม่ ประการใด คงต้องจับตาดูกันต่อไป
