xs
xsm
sm
md
lg

ค่ายรถเริงร่า ยอดขาย ส.ค.ทะยาน 27.7%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ยอดขายรถ ส.ค.ทะยาน 27.7% ตัวเลข 86,814 คัน ดันยอด 8 ด.พุ่ง 657,878 คัน เพิ่มขึ้น 21.1% รถเพื่อการพาณิชย์ เพิ่มมากสุด 22.2% ทิ้งห่างรถนั่ง โตแค่ 19.5% โตโยต้า นำที่ 1 แชมป์ 3 ตลาดใหญ่ กวาดแชร์ 29.7% คาดยอดขาย ก.ย.แนวโน้มพุ่งไม่หยุดจากปัจจัยความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจที่ดีขึ้น





นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถิติการขายรถประจำเดือน ส.ค.61 มียอดรวม 86,814 คัน เพิ่มขึ้น 27.7% ประกอบด้วยรถเพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตสูงสุด อยู่ที่ 28.1% ตัวเลข 52,650 คัน ตามด้วย รถนั่ง 34,164 คัน เพิ่มขึ้น 27.1% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอด 41,314 คัน เพิ่มขึ้น 23.7% โดยโตโยต้ามียอดขายสูงสุด อยู่ที่ 27,131 คัน เติบโตสูงถึง 68.9% ทิ้งห่างอีซูซุ ที่มียอดเพียง 13,135 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% ตามด้วยฮอนด้า มียอด 11,307 คัน เพิ่มขึ้น 5.6%






ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตลาดรถนั่งและตลาดรถการพาณิชย์มีการเติบโตเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากความนิยมในรถรุ่นใหม่ที่มีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆของบริษัทรถในงาน Big Motor Sale 2018 ที่ผ่านมา






ด้านยอดขายในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมี มีปริมาณอยู่ที่ 657,878 คัน เพิ่มขึ้น 21.1% โดยตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ยังมียอดเติบโตสูงสุดเช่นเดิม ตัวเลขอยู่ที่ 400,873 คัน เติบโต 22.2% ตามด้วยตลาดรถกระบะ Pure Pick up ยอดขาย 276,961 คัน เพิ่มขึ้น 21% และตลาดรถกระบะ ขนาด 1 ตัน (รวม Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV) ยอดขาย 317,308 คัน เพิ่มขึ้น 19.7% ขณะที่ตลาดรถนั่ง มีการเติบโตน้อยสุด อยู่ที่ 19.5% ยอดขาย 257,005 คัน






ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ค่ายที่มียอดขายสูงสุดยังคงเป็นของ โตโยต้า ตัวเลขอยู่ที่ 195,348 คัน เติบโต 34.7% ทิ้งห่างอันดับที่ 2 อย่างอีซูซุ ที่มียอด 112,638 คัน เพิ่มขึ้น 10.4% และอันดับ 3 ฮอนด้า ยอดขาย 81,633 คัน ลดลง 1.2%






ปัจจัยที่ทำให้ยอดจำหน่ายตลาดรถนั่งและรถเพื่อการพาณิชย์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมการเติบโตของตลาดรถยนต์





สำหรับตลาดรถในช่วงเดือนกันยายนนี้ มีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น และความต้องการของตลาดรถในประเทศที่ยังคงมีอยู่สูง ซึ่งเห็นได้จากค่ายรถต่างๆ พากันแนะนำรถรุ่นใหม่และรุ่นปรับปรุงใหม่ เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น แม้ว่าราคาพืชผลหลักทางการเกษตรบางรายการยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรโดยส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว แต่ยังไม่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์มากนัก






กำลังโหลดความคิดเห็น