ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เปิดตัว รถยนต์รุ่นใหม่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (The new Porsche Cayenne E-Hybrid) รถยนต์ไฟฟ้าแบบ ปลั้กอิน-ไฮบริด ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด340 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า) มีพละกำลังสูงสุดรวม 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive พร้อมขีดการลากจูงสูงสุดกว่า 3.5 ตัน
ด้านสมรรถนะ เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสามารถเดินทางได้ไกล 44 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 135 กม./ชม. ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในระยะเวลา 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 253 กม./ชม. อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย อยู่ที่ 29.4 - 31.2 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน(NEDC) โดยขึ้นอยู่กับขนาดของยางรถยนต์ที่ติดตั้ง อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9 – 20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
ในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ ได้แก่ หน้าจอ แสดงข้อมูล head-up display แบบใหม่, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Porsche InnoDrive พร้อมระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control , เบาะนวดไฟฟ้า, ประตูดูด, เครื่องเสียงBOSE และล้ออัลลอยเบาขนาด 22 นิ้ว
สำหรับระบบไฟฟ้า คาเยนน์ อี-ไฮบริด ได้รับการติดตั้ง แบตเตอรี่ใหม่ที่มีขนาดความจุมากกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 30% จาก 10.8 เป็น 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ประกอบด้วยโมดูล 8 ชุด แต่ละโมดูลคือเซลล์ prismatic lithium ion จำนวน 13 เซลล์ ระบายความร้อนด้วยระบบ fluid-cooled
การชาร์จ สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุภายในระยะเวลา 7.8 ชั่วโมง ด้วยไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาดกระแส 10 แอมป์ หากเป็นกรณีที่ใช้อุปกรณ์พิเศษ on-board charger 7.2 กิโลวัตต์ ไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาดกระแส 32 แอมป์ แทนที่ระบบชาร์จมาตรฐานแบบ 3.6 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จพลังงานจนเต็มความจุภายในระยะเวลาเพียง 2.3 ชั่วโมงเท่านั้น
ทั้งนี้สามารถควบคุมและตรวจสอบสภาวะการทำงานผ่านระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management (PCM) พร้อมสั่งการระบบปรับอากาศได้จาก Porsche Connect app โดยติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและ สามารถเลือกเชื่อมต่อด้วยโทรศัพท์มือถือได้ตามต้องการ รวมถึงรองรับการค้นหา คัดกรองสถานีชาร์จพลังงาน และบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในจุดหมายของระบบนำทางผ่านดาวเทียม
ปอร์เช่ ตั้งราคาจำหน่าย คาเยนน์ อี-ไฮบริด เริ่มต้นที่ 7.5 ล้านบาท ถือว่าถูกกว่ารุ่นเดิมราว 7 แสนบาท โดยตั้งเป้าการจำหน่ายไว้ที่ 500 คันในปีแรก เริ่มรับจองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันมีจองล่วงหน้าก่อนเปิดตัวแล้วกว่า 270 คัน โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ราวปลายปีเป็นต้นไป