นักออกแบบรถยนต์ในอดีตทำงานซับซ้อนน้อยกว่าในยุคปัจจุบัน นั่นคือ การออกแบบที่เน้นรูปทรงที่สวยงามตามหลักสุนทรียศาสตร์เป็นหลัก ดังนั้น รถยนต์ในอดีตจึงมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่นสะดุดตามากบ้าง น้อยบ้าง ต่างกันไป
แต่เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์มีการพัฒนาและก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ยานยนต์มีความซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย โดยการออกแบบจะไม่สามารถคำนึงเฉพาะหลักสุนทรียศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่นักออกแบบยานยนต์ หรือทีมดีไซน์เนอร์ ยุคปัจจุบัน ต้องให้ความสำคัญกับอีกหลายปัจจัยเหนือเหนือจากความสวยงาม
ปัจจัยที่มีความสำคัญ ได้แก่ หลักอากาศพลศาสตร์ เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ฟังก์ชั่นในการใช้งานความสะดวกและความปลอดภัย คำถาม คือ ปัจจัยเหล่านี้ จะต้องถูกบรรจุไว้ในรถหนึ่งคัน ที่ไม่เพียงจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งเท่านั้น หากยังต้องโดดเด่นเหนือกว่าอีกด้วย
บริษัทผู้ผลิตรถในปัจจุบัน มีสิ่งที่เรียกว่า เอกลักษณ์การออกแบบ หรือ Design Language ซึ่งเป็นเหมือนทิศทางที่กำหนดว่า รถยนต์ของแบรนด์นั้นๆ จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และรถแต่ละรุ่น ภายใต้แบรนด์เดียวกันนั้น จะมีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันแบบ “ ตระกูลเดียวกัน” ได้อย่างไร ขณะเดียวกัน รถแต่ละรุ่นและรุ่นย่อยจะต้องมีความแตกต่างกันด้วย เหมือนกับลูกชายลูกสาวที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับพ่อแม่ แต่ขณะเดียวกันต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย ซึ่งนักออกแบบยานยนต์จะต้องคำนึงถึงปัจจัยการออกแบบเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อสร้างรถยนต์ รถกระบะ หรือรถอเนกประสงค์ ที่มีรูปลักษณ์สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและรักษาเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละรุ่นไว้ ซึ่งอาจใช้คำจำกัดความสั้นๆ ว่า “รักษาจุดร่วมและคงไว้ซึ่งจุดต่าง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบเท่าเทียมกับระบบวิศวกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีนั้น จะตระหนักว่า ลำพังแค่เอกลักษณ์การออกแบบยังไม่เพียงพอ หากจะต้องเจาะลึกลงไป เพื่อค้นหาองค์ประกอบที่ทำให้เกิดเอกลักษณ์การออกแบบ
ทั้งนี้ การออกแบบรถยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อยู่บนแนวคิดพื้นฐานที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเอกลักษณ์การออกแบบ โดยพัฒนามาจากความสำเร็จอันเป็นตำนาน หรือ Heritage กล่าวคือ การต่อยอดตำนานดังกล่าวสู่ยานยนต์มิตซูบิชิยุคใหม่ที่ทลายข้อจำกัดเดิมๆ ดึงดูดสายตาและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าในระดับตลาดโลกได้
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ อัตลักษณ์การออกแบบยุคใหม่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่สะท้อนแนวคิดความแข็งแกร่งที่สร้างอย่างความชาญฉลาด แนวคิดนี้ สืบทอดคุณสมบัติเด่น อันเป็นตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้แก่ ความซื่อตรง ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำนวัตกรรม ความอเนกประสงค์และเป็นที่วางใจได้ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะนำเอกลักษณ์ความเป็นมิตซูบิชิ หรือ Mitsubishi-ness มากำหนดทั้งภายนอกและภายในของรถยนต์ว่าควรเป็นเช่นไร
ตัวอย่างของความเป็นมิตซูบิชิ ได้แก่ การถ่ายทอดแนวคิด Robust & Ingenious สู่รูปลักษณ์ภายนอกตัวรถ ด้วย Advanced ‘Dynamic Shield’ พร้อมดีไซน์แกร่งบึกบึนของตัวรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่การออกแบบภายใน ใช้แนวคิด ‘Horizontal Axis’ และโอโมเตะนาชิ (Omotenashi) สามารถพบได้ภายในห้องโดยสาร
แนวคิด ‘Horizontal Axis’ คือ การจัดเรียงแผงควบคุมทั้งหมดแบบเส้นตรงแนวราบ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์ขับเคลื่อนของตัวรถ พร้อมช่วยเพิ่มทัศนะวิสัยด้านหน้าและทำให้ห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งมากขึ้น ขณะที่ โอโมเตะนาชิ คือความประณีตพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดแบบญี่ปุ่น เพื่อให้ภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมรองรับทุกความต้องการของผู้โดยสาร
สำหรับการออกแบบภายนอก Advanced ‘Dynamic Shield’ และรูปทรงของตัวรถที่ใหญ่บึกบึน มาพร้อมพลังจากเส้นสายหนักแน่นโฉบเฉี่ยว ทำให้ยนตรกรรมมิตซูบิชิ มีรูปลักษณ์และบุคลิกที่โดดเด่นและมั่นคงแข็งแกร่งราวกับถูกแกะสลักออกมาจากก้อนโลหะแกร่งขนาดใหญ่อันทรงพลัง