ปอร์เช่ แจ้งผลประกอบการเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเลขส่งมอบรถใหม่ทั่วโลก ในช่วง 6 เดือนแรก รวม 130,598 คัน ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันความสำเร็จของ ปอร์เช่ เอจี ที่ทำผลงานได้มากกว่าปีที่แล้ว โดยมีสัดส่วนการเติบโตเพิ่มขึ้น 3% นับเป็นความสำเร็จมากสุดในประวัติการณ์ของบริษัท
ส่วนปอร์เช่ พานาเมร่า มีอัตราการเติบโตสูงสุด หลังจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สามารถส่งมอบรถสปอร์ตทัวริ่ง 4 ประตู ได้กว่า 20,500 คัน เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ ปอร์เช่ 911 ยังคงรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 28% คิดเป็นตัวเลข 21,400 คัน และรุ่นที่มียอดขายสูงสุดต่อเนื่อง คือ ปอร์เช่ มาคันน์ ที่มียอด 46,600 คัน ตามมาด้วยปอร์เช่ คาเยนน์ มียอด 28,700 คัน
“ปีนี้ เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระโอกาสครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งองค์กร จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพวกเราทุกคน ที่ ปอร์เช่ 911 รถสปอร์ตที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเรา มีแนวโน้มของอัตราการเติบโตที่ดี” ข้างต้นคือคำกล่าวของ Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้รับผิดชอบส่วนงานขายและการตลาด Porsche AG “สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสามารถเอาชนะใจผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วโลก”
ด้านยอดขายรถปอร์เช่ในเยอรมนี ช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 11% ในสวนของทวีปยุโรปเพิ่ม 9% ประเทศจีน ที่เป็นตลาดที่ใหญ่สุด มียอดกว่า 33,363 คัน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ที่ี 29,421 คัน ทั้งนี้ ยอดขายที่ปรับตัวลดลง 7 % ในจีน เป็นผลจากมาตรการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ภายหลังจากมาตรการ ดังกล่าวได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ ยอดขายจะกลับมาสูงขึ้นจากจำนวนการสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน “การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นตลาดหลักโดยเฉพาะจีนและ สหรัฐอเมริกา คือสิ่งท้าทายเราในช่วงเวลานี้
ในส่วนของทวีปยุโรปเรากำลังจัดเตรียมผลิตภัณฑ์รถยนต์ให้ตอบรับกับมาตรการควบคุมอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จากการเติบโตของเราในช่วง 6 เดือนแรก ทำให้เรามีความมั่นใจว่าจะสามารถทำผลงานได้ในระดับสูงเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา” von Platen กล่าวเสริม
