กระแสเรื่องรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี กำลังได้รับสนใจอย่างมาก ในบ้านเราขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถอีวี , ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถไฮบริด ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง บวกกับรัฐบาลสนับสนุนกลุ่มรถดังกล่าว ตามแพ็กเกจการส่งเสริมการลงทุนของ บีโอไอ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเกิดธุรกิจต่อเนื่องเพื่อสนับสนุน ผลักดันให้รถประเภทนี้ได้แจ้งเกิดในเมืองไทย
ธุรกิจเปิดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าจึงเกิดขึ้น และมีเอกชนหลายรายให้ความสนใจในการเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้าหรือสถานีชาร์จไฟฟ้ารองรับล่วงหน้าไปก่อนหลายเจ้า และหนึ่งในนั้นมีชื่อบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด เจ้าของแบรนด์ อีเอ เอนี่แวร์ (EA Anywhere) ร่วมอยู่ด้วย
นายธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด กล่าวว่าในอนาคตพลังงานจากน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน จะถูกลดบทบาทไป พลังงานอื่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะเข้ามาแทนที่ บริษัทจึงสนใจดำเนินธุรกิจด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เมื่อปี 2560 ภายใต้ชื่อ อีเอ เอนี่แวร์ (EA Anywhere)
“อีเอ เอนี่แวร์ เดินหน้าเปิดตัวให้บริการสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าหมายไว้ 1,000 สถานีทั่วประเทศภายในปี 2561 และได้เพิ่มงบประมาณก่อสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าจาก 600 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท เราต้องการให้สถานีอัดประจุไฟฟ้าแพร่หลายไม่ต่างจากการใช้บริการของสถานีน้ำมัน บวกกับสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีรถไฟฟ้าในบ้านเราไม่ต่ำกว่า 30,000 คันแน่นอน “
ล่าสุดอีเอ เอนี่แวร์ ได้จับมือกับพันธมิตรรวม 8 จุด เปิดให้บริการสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน รวมระยะทาง 380 กิโลเมตร เป็นรายแรกในเมืองไทย สำหรับ 8 จุดนั้นเริ่มจาก สถานีชาร์จที่ปั๊มน้ำมันซัสโก้ (สำหนักงานใหญ่) ราษฎร์บูรณะ , ร้าน Café Amazon OPG บางขุนเทียน , ปั๊มน้ำมันบางจาก แพรกหนามแดง (อัมพา) , ร้านอาหารครัวบ้านขวัญ แยกวังมะนาว , ศูนย์บริการ A.C.T หัวหิน , โรงแรม Holiday Inn Vana Nava หัวหิน,โครงการ La Cacita แสนสิริ และ FN outlet หัวหิน
เส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน สถานีทั้งหมดที่รองรับ และรูปแบบสถานีจากจำนวนรวม 8 สถานีหลัก จากรุงเทพฯ-หัวหิน มั่นใจได้ว่าผู้ใช้รถยนต์สามารถเข้าใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ได้ตลอดการเดินทาง เพราะแต่ละสถานีจะมีรูปแบบสถานีที่แตกต่างกันออกไป เช่นปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ร้านกาแฟ ศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการดูแลรถยนต์ โรงแรม คอนโดมิเนียม รวมถึงศูนย์การค้าซึ่งรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป
ธนพัชร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสถานีให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นและเพื่อให้พิสูจน์กันว่า หัวชาร์จทุกสถานีสามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้า Phev และ Bev ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น สามารถเลือกใช้บริการในสถานีต่าง ๆ ตลอดเส้นทางยอดนิยมนี้ได้อย่างมั่นใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ที่มักจะแวะพักในจุดต่าง ๆ โดยใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน อีเอ เอนี่แวร์ บนโทรศัพท์มือถือที่รองรับการค้นหาและตรวจสอบสถานีให้บริการ รวมถึงจองและชำระเงินด้วยความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย
นี่เป็นเพียงเส้นทางแรกของ อีเอ เอนี่แวร์ ในอนาคตบริษัทฯเตรียมจะเปิดเส้นทางใหม่และสถานีในเมืองสำคัญอีกในเร็ว ๆนี้ ภายใต้เป้าหมาย 1,000 สถานี
การที่เรารุกทางนี้ก็เพื่อต้องการจะเป็นอันดับต้น ๆ ให้ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปจดจำเราให้ได้ก่อน หากต้องการใช้บริการ เนื่องจากธุรกิจนี้ต้องยอมรับว่า ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิด เราจึงต้องเปิดตัวเพื่อจับจองพื้นที่เป็นรายแรกเมื่อผู้ใช้อยากจะชาร์จไฟรถก็นึกถึง อีเอ เอนี่แวร์ ก่อนใคร ธนพัชร์ กล่าว
สำหรับรูปแบบการให้บริการของสถานีอัดประจุไฟฟ้านั้นมีหัวจ่ายอยู่ 2 แบบ คือ
-แบบ DC ชาร์จเร็วหรือควิกชาร์จภายใน 7 นาทีวิ่งได้ระยะทาง 100 กม.
-แบบ AC ชาร์จปกติ 1-2 ชม. รองรับรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าทุกค่ายและทุกรุ่นสามารถชาร์จไฟฟ้าได้
รูปแบบสถานีชาร์จจะมี 3 ขนาด คือ เอส ,เอ็ม,แอล
-ขนาดเอส 3 หัวจ่าย ประกอบด้วย DC 2 หัว และ AC 1 หัว
-ขนาดเอ็ม 4 หัวจ่าย ประกอบด้วย DC 1 หัว และ AC 3 หัว
-ขนาดแอล ประกอบด้วยหัวจ่ายแบบ DC 1 หัว และ AC 3 หัว ที่จะกระจายแยกจุดออกไปติดตั้งยังจุดจอดรถต่าง ๆ
ส่วนอัตราค่าบริการ คิดค่าบริการลูกค้าที่มาใช้บริการแบบชาร์จปกติ 1 ชม. 50 บาท ,2 ชม. 80 บาท ,3 ชม. 120 บาท และ 4 ชม. 150 บาท ส่วนแบบควิกชาร์จ คิดตามหน่วยไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาที่ไม่สูงกว่าก๊าซเอ็นจีวีอย่างแน่นอน เบื้องต้นลูกค้าสามารถลงทะเบียนและใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น EA Anywhere ทั้งระบบ ios และ play store ซึ่งสามารถจอง จ่าย ชาร์จ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
