เป็นอันว่า “เคลียร์” เรียบร้อยโรงเรียนเยอรมัน ยุติความสับสน เหลือเพียงความชัดเจนที่ว่า “อาวดี้ ไทยแลนด์” คือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงหนึ่งเดียวของรถยนต์ “อาวดี้” ในเมืองไทย ณ เวลานี้ ซึ่งพร้อมเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มตัว โดยมีแผนเปิดตัวโชว์รูมอาวดี้แห่งใหม่ที่ว่ากันว่า ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย
ส่วนการทำตลาดมีรถยนต์เข้ามาให้เลือกสรรหลากหลายรุ่น ส่วนยอดขายเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ โดยยรถที่น่าสนใจ นอกจาก อาวดี้ ทีที ที่ทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง เคยนำเสนอไปแล้ว ครานี้ได้มีโอกาสทดลองขับเจ้า อาวดี้ คิว7 พี่ใหญ่ของตระกูลเอสยูวีจากค่าย 4 ห่วง ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน
ตัวใหญ่ หัวใจเล็ก เน้นประหยัด
สำหรับ อาวดี้ คิว7 คันนี้ เป็นเจเนอเรชันที่ 2 ของตระกูล โดยเปิดตัวเมื่อปี 2015 จำหน่ายในปี 2016 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่โฉมก่อนหน้านั้น แชร์โครงสร้างพื้นฐานกับเจ้า ปอร์เช่ คาร์เยนน์ ขณะที่โฉมปัจจุบัน ก็ยังคงมีความเกี่ยวเนื่องกันภายใต้ชื่อ MLBevo Platform ของโฟล์คสวาเกนที่เป็นบริษัทฯ แม่
ซึ่ง MLBevoนั้น เป็นพื้นฐานโครงสร้างของรถยนต์เอสยูวีรุ่นอื่นๆ เช่น เบนท์ลี่ย์ เบนทาก้า, ลัมบอร์กินี่ อูรัส, อาวดี้ คิว8 และโฟล์คสวเกน ทัวร์เร็ก รวมถึงรถยนต์นั่งในตระกูล เอ หลายรุ่นของอาวดี้อีกด้วย ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความเป็นท็อปคลาส
ขับสบาย เปลี่ยนเลนง่าย
การทดลองขับเราเลือกใช้งานแบบผู้บริหารที่มีทั้งการเดินทางในเมืองช่วงการจราจรติดขัดสุดๆ และการเดินทางยาวๆ ไปต่างจังหวัด ในระยะทางไม่เกิน 200 กม. แบบไปเช้า-เย็นกลับได้
ช่วงแรกเป็นการลองขับในเมือง ซึ่งต้องบอกว่า ตัวรถดูภายนอกใหญ่มาก แต่เมื่อเข้ามาประจำการหลังพวงมาลัยแล้ว ขับง่าย ทัศนวิสัยชัดเจนดีทุกมุมมอง ทำให้ไม่มีปัญหาแม้จะขับในเมืองที่ต้องช่วงชิงพี้นที่การจราจร ซึ่ง คิว7 ค่อนข้างได้เปรียบรถคันอื่นๆ มาก ทุกช่องทางเวลาขอเปลี่ยนเลนหรือขับแทรก คันอื่นมักจะหยุดให้ง่ายๆ
ส่วนหนี่งต้องชมพวงมาลัยไฟฟ้าที่ตอบสนองไวและเบามือ ขณะที่ส่วนใหญ่คงเป็นเรื่องของการออกแบบตัวถังที่ดี รวมถึงทัศนวิสัยที่ชัดเจน ทำให้เวลาเปลี่ยนเลนได้เปรียบรถคันอื่นๆ ส่วนการตอบสนองของคันเร่ง พอดี ไม่มีอาการอืดแต่อย่างใด พละกำลัง 252 แรงม้า ที่แบกน้ำหนักรถราว 1900 กว่ากิโลกรัมนั้น ไม่ใช่ปัญหา
การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ไร้รอยต่อ ช่วงล่างสำหรับรุ่นเริ่มต้นนี้ เป็นแบบปกติ โดยรุ่นท็อป 45 ทีเอฟเอสไอ จึงจะเป็นแบบถุงลม ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ดี สมชื่อชั้นของอาวดี้
การทดลองขับทางยาวๆ น่าจะเป็นสิ่งที่ประทับใจผู้ได้ครอบครอง คิว 7 ที่สุด เนื่องจากความสบายในการเดินทางที่มาจากขนาดตัวถังใหญ่ การโยนตัวหรือแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างน้อย รวมกับการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
ควอตโต ทำให้การเข้าโค้งหรือเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูงเกิน 120 กม./ชม. รถยังนิ่งและมั่นใจได้ 100%
ส่วนหัวใจของ คิว7 ในตลาดโลกมีหลายทางเลือก ซึ่งทางอาวดี้ ไทยแลนด์ เลือกมาทำตลาด 3 รุ่นย่อย 2 เครื่องยนต์หลัก คือ ดีเซล และเบนซิน โดยคันที่เราขับในวันนี้ คือ ตัวเริ่มต้น คิว7 40 ทีเอฟเอสไอ ควอตโต พิกัดเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทริปทรอนิค อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม.
ภายในได้รับออกแบบและตกแต่งตามสไตล์ของอาวดี้ ที่เน้นในเรื่องของอรรถประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก การจัดวางตำแหน่งอยู่ในจุดที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และให้ความรู้สึกสปอร์ตตามแบบฉบับของอาวดี้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่กำลังดี จับถนัดมือ หน้าจอแสดงผลตรงกลางคอนโซลหน้าเป็นแบบป้อปอัพ ฝังเก็บอัตโนมัติได้เองหลังดับเครื่องยนต์
เบาะนั่งหนังแท้ ด้านหน้านั่งสบาย ส่วนด้านหลังยิ่งสบายกว่า ด้วยพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ ตามขนาดของการเป็นรถเอสยูวีระดับ Mid-size พื้นที่ด้านท้ายรถกว้างชนิดที่ไม่เพียงแค่เด็กตัวเล็กแต่ผู้ใหญ่สามารถนอนได้ ฝาท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีครบ เช่น กล้องแสดงภาพเวลาถอยหลัง , เครื่องยนต์ BOSE , ไฟ daytime running และระบบปรับอากาศแยกอิสระ 2 โซน ส่วนระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้างและม่านข้าง พร้อมระบบล็อกเบรกขณะรถหยุดนิ่ง รวมถึงระบบมาตรฐาน ABS, EBD, ASR, ESC ให้มาครบ
ความเร็วสูงสุดที่เราลองขับได้คือ 140 กม./ชม. เนื่องจากสภาพการจราจรไม่เอื้ออำนวย จังหวะเร่งแซงอาจจะไม่ปรู๊ดปร๊าดทันใจ แต่จัดว่าสอบผ่าน ไม่มีอาการอืดหรือเร่งไม่ขึ้น แต่หากปรับโหมดการใช้งานมาใช้โหมดสปอร์ต แล้วความสนุกจะเพิ่มมาอีกหนึ่งระดับ ซึ่ง คิว 7 มีโหมดให้เลือกใช้งานได้ถึง 5 แบบ
อัตราการบริโภคน้ำมัน ในเมืองแบบรถติดๆ วิ่งไประยะทางรวม 12 กม. ในเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง หน้าจอระบุตัวเลข 17.9 ลิตร/100กม. หรือราว 5.6 กม./ลิตร ส่วนอัตราบริโภคเฉลี่ยทั้งในเมืองนอกเมือง ขับไประยะทางรวมราว 300 กม. หน้าจอระบุ 11.6 ลิตร/ 100 กม. หรือราว 8.6 กม./ลิตร
เหนือสื่งอื่นใดทั้งหมดที่กล่าวมา อาวดี้ คิว7 คันนี้ ราคาค่าตัว 4.299 ล้านบาท เทียบกับรุ่นก่อนหน้า หรือบรรดารถที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกันแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า อาวดี้ คิว7 คุ้มค่ากว่าขนาดไหน
เหมาะกับใคร
ผู้บริหารหรือครอบครัวที่กำลังมองหา รถเอสยูวีขนาดใหญ่ระดับท็อปคลาสเอาไว้ใช้งาน ทั้งในส่วนของรถประจำตำแหน่งในบริษัทฯ หรือรถส่วนตัว กับความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าตัวที่ มีเพียง อาวดี้ คิว7 เท่านั้น ที่สามารถทำราคาระดับนี้ มาให้จับจองเป็นเจ้าของได้
