จากัวร์ มั่นใจประเทศไทย มีศักยภาพเพียงพอต่อนโยบายรถไฟฟ้า เตรียมทำตลาด “ไอ-เพซ” รถยนต์ไฟฟ้า 100% ระดับหรูหรารุ่นแรกของแบรนด์ ระบุไทยเป็นหนึ่งใน 3 ของภูมิภาคต่อจาก สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ที่มีความพร้อมเหมือนกัน เชื่อ ไอ-เพซ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบนได้เป็นอย่างดี
กระแสของรถยนต์ไฟฟ้า เป็นทิศทางที่ค่ายรถยนต์ทุกค่ายในโลกต่างส่งสัญญาณไปในแนวทางเดียวกันว่า จะเดินหน้าพัฒนารถประเภทนี้อย่างแน่นอน จะเพื่อตอบรับกระแสรักษ์โลกหรือเพื่อลดค่าเฉลี่ยการปล่อยมลพิษจากปลายท่อไอเสียของแต่ละแบรนด์ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด ตามข้อกำหนดของอียู ซึ่งหากแบรนด์ใดไม่ทำให้ไอเสียผ่านมาตรฐานดังกล่าวจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปในทันที ดังนั้นนอกจากเรื่องของแรงจูงใจแล้วยังมีเรื่องของข้อกำหนดแกมบังคับช่วยผลักดันให้รถไฟฟ้าเกิดเร็วขึ้น
ซึ่งรถยนต์แบรนด์แรกที่สร้างกระแสให้ทุกคนบนโลกนี้ทราบว่ารถไฟฟ้านั้นมีดีอย่างไรก็คือ “เทสล่า” และยังทำให้บรรดาค่ายรถยนต์ต่างหันมามองยอดสั่งจองที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อ รถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่า ว่ามีจำนวนมากมายเพียงใด ซึ่งในปัจจุบัน เทสล่า โมเดล 3 หากสนใจจองจะต้องใช้ระยะเวลารอนาน1-2 ปี กว่าจะได้รับการส่งมอบตามคิว
จากกระแสความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว ทำให้ค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างเร่งพัฒนารถยนต์ของตัวเองออกมา โดยในตลาดระดับกลาง นิสสัน ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่ครองตลาดอยู่ ด้วย “นิสสัน ลีฟ” แต่สำหรับตลาดระดับบนยังไม่มีผู้เล่นหลักเข้ามา(ไม่นับรถแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV) จนกระทั่ง จากัวร์ เปิดตัว “ไอ-เพซ”
สำหรับ ไอ-เพซ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบเอสยูวี ระดับหรูรุ่นแรกจากแบรนด์หลัก ที่เปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระยะทางวิ่งที่ทางจากัวร์เคลมว่าไกลถึง 480 กม. (ตามมาตรฐานของ WLTP) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง โดยอาศัยกำลังไฟฟ้าแบตเตอรี่แบบลิเธียม อิออน ขนาด 90 kWh
หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อน ไอ-เพซ เลือกใช้ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว วางในตำแหน่งหน้าและหลัง ขนาดกำลังตัวละ 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 348 นิวตัน รวมพละกำลังทั้งหมด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 696 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุดเคลมไว้ที่ 200 กม./ชม.
ส่วนการชาร์จไฟนั้น จากระดับ 0-80% จะใช้เวลาเพียง 40 นาที เมื่อชาร์จด้วยชุดชาร์จเร็ว (100kW) หรือหากเป็นการเติมไฟเพิ่มจะได้ระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้น 100 กม. ในเวลาทุก 15 นาที ส่วนการชาร์จจากไฟบ้าน ด้วยชุดวอลล์ชาร์จ (7kW) จากระดับ 0-80% จะใช้เวลาราว 10 ชั่วโมง และเต็ม100% ในเวลาระหว่าง 12-14 ชั่วโมง เหมาะกับการชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน
ทั้งนี้ในส่วนของโครงสร้างตัวถัง จากัวร์ ไอ-เพซ ผลิตโดยใช้ชิ้นส่วนอลูมิเนียมถึง 98% เพื่อทำให้รถมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรง โดยเป็นรถแบบเอสยูวีที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และกระจายน้ำหนักได้ดีในอัตราส่วนหน้า 50 ต่อ หลัง 50 ชุดช่วงล่างหน้าเป็นแบบ ดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ อินเทกัล ลิงค์
สำหรับการออกแบบตกแต่งภายใน เน้นในเรื่องของความหรูหราและประณีต โดยมีให้เลือก 2 รุ่นแตกต่างกันคือ รุ่น S จะมาในสไตล์สปอร์ต เบาะนั่งแบบ Bucket Seat โอบกระชับ และ รุ่น First Edition ตกแต่งแบบหรูหราเบาะนั่งหนังแท้คุณภาพสูง ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส ที่มีเนวิเกเตอร์ซึ่งสามารถนำทางได้อย่างแม่นยำ หลังคากระจกบานใหญ่ แบบเต็มหน้าจรดด้านท้าย
ในแง่ของการทดสอบก่อนออกจำหน่ายทางจากัวร์ ยืนยันว่า ไอ-เพซ สามารถวิ่งได้แม้อยู่ในสภาวะอุณหภูมิติดลบถึง 40 องศาเซลเซียส และสามารถลุยน้ำที่มีระดับความสูงไม่เกิน 50 ซม. ได้โดยไม่มีระบบใดของรถได้รับความเสียหาย แม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกปูเต็มใต้ท้องรถก็ตาม
เหนืออื่นใด จากัวร์ ไอ-เพซมากับระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ให้คุณสามารถสั่งการรถขณะที่ตัวคุณอยู่ในบ้านได้ ผ่านทางแอพพลิเคชัน หรือในทางกลับกันสามารถสั่งการจากรถเพื่อควบคุมระบบไฟฟ้าภายบ้านได้ รวมถึงสามารถส่งเสียงพูดคุยผ่านลำโพงที่ติดตั้งไว้ภายในบ้านได้อีกด้วย และยังสามารถอัพเดตซอฟแวร์ต่างๆ เพิ่มเติมได้หากมีการพัฒนาที่มากขึ้นในอนาคต
ส่วนใครที่ห่วงในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อไม่ได้แล้วนั้น ทางจากัวร์ มีนโยบายในการนำแบตเตอรี่ดังกล่าวนั้นกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้งในรูปแบบของที่เก็บประจุสำรองไฟฟ้า(Second-life energy storage trials) โดยร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในการจัดการดังกล่าวในอนาคต
ขณะที่การทำตลาด จากัวร์ ไอ-เพซ ในเมืองไทย เป็นหน้าที่ของ บริษัท อินซ์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งทางทีมงานจากัวร์ระดับภูมิภาคยืนยันว่า ประเทศไทย มีความพร้อมเพียงพอต่อการนำ ไอ-เพช เข้ามาทำตลาด
ทั้งนี้มาจากปัจจัยทางด้านนโยบายของรัฐบาลไทยที่เคยส่งสัญญาณเบื้องต้นว่า สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ให้มีจำหน่ายในประเทศไทย และโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จไฟซึ่งกำลังขยายตัว ดังนั้นทาง จากัวร์ จึงมีความมั่นใจว่า หากทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทยแล้วมีความเป็นไปได้ในเชิงของการใช้งานจริง โดยในภูมิภาคอาเซียนนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมี สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ที่ทางจากัวร์มองว่ามีศักยภาพเพียงพอในการส่ง ไอ-เพชเข้าทำตลาด
ซึ่งในส่วนของทาง อินช์เคป เองมีความพร้อมในการทำตลาด ไอ-เพซ โดยล่าสุดมีการเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่บนศูนย์การค้าสยามพารากอน และกำลังจะเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแห่งใหม่ที่จังหวัดภูเก็ตในช่วงปลายเดือนนี้ เป็นไปตามแผนการขยายงานเพื่อรองรับการขายที่เพิ่มมากขึ้น ของรถยนต์ จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย
ถึงบรรทัดนี้ แม้จะยังไม่รู้ว่า ราคาของ จากัวร์ ไอ-เพซ เป็นเท่าใด แต่มั่นใจได้ว่า ประชาชนคนไทยจะได้เห็นจากัวร์ ไอ-เพซทำตลาดในเมืองไทยอย่างแน่นอน ส่วนจะประสบความสำเร็จเพียงใดนั้น ยังคงต้องรอลุ้นกันเพราะการสนับสนุนอย่างจริงจังของรัฐบาลจะเป็นปัจจัยเกี่ยวเนื่องที่ส่งผลต่อโดยตรงการทำตลาดรถไฟฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งทุกค่ายที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้านั้น กำลังรอความชัดเจนในส่วนนี้อยู่