“บ๊อซ” ตั้งเป้าปี’61 โต 3% มั่นใจตลาดไทยแข็งแกร่ง เร่งเปิดโรงงานผลิตระบบส่งกำลัง หลังปี’60 ยอดขายทะลุ 12.8 พันล้าน คว้าแชมป์รายได้สูงสุด 5 ปีซ้อน
โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อซ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ บ๊อซ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต ประมาณ 2-3% โดยในช่วง 3 เดือนแรก มียอดขายเพิ่มขึ้น 5% ด้วยความชำนาญด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการเดินทางและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ยอดขายของบ๊อซเพิ่มขึ้น
ด้านผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บ๊อซ มียอดขายรวมมูลค่า 12.8 พันล้าน เติบโต 7.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค มียอดขายรวมทั้งสิ้น 23.6 พันล้าน เติบโต 13.5% หรือประมาณ 30% ของยอดขายบ๊อซทั่วโลก
“ตลาดไทยถือเป็นตลาดที่ทำรายได้สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจยานยนต์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง ซึ่ง บ๊อชได้เร่งเพิ่มจำนวนโซลูชั่นและบริการต่างๆให้ครอบคลุมและด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรม คาดว่าจะสามารถสนับสนุนและเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ในไทย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” ของรัฐบาลไทย มีความคืบหน้าอย่างมาก
สำหรับกลุ่มธุรกิจหลักในการสร้างรายได้ของบ๊อซ ได้แก่ ระบบส่งกำลังและระบบควบคุมแชสซีของกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปกรณ์บริโภค ที่มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง และขยายไปยังช่องทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ที่มีการเติบโตและทำรายได้เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ขยายตัว จากการใช้งานของภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่เป็นผลมาจากการเติบโตของระบบอัตโนมัติในโรงงานและอุตสาหกรรมเชื่อมต่อ
นอกจากนี้ บ๊อซได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไทยและภาคอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันนวัตกรรมด้านการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการนำโซลูชั่นต่างๆ มาปรับใช้กับโรงงานหลายแห่ง”
โจเซฟ ฮง กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บ๊อช ได้ลงทุนมูลค่า 1.6 พันล้านบาท ในทุกกลุ่มธุรกิจบ๊อชในไทย และมีการเปิดโรงงานผลิตระบบส่งกำลังรถยนต์ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ทั้งได้มีการลงทุนในโรงงานผลิตระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงกว่า 80 ล้านบาท เพื่อเป็นฐานรองรับผู้ผลิตยานยนต์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานแห่งนี้ จะช่วยให้มีการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ สำหรับการบริการลูกค้ารถยนต์ทั้งในและต่างประเทศ
