“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดาวบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ดาวรุ่งพุ่งแรงที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมเป็นนักบิดในโครงการ “VR46 The Master Camp” ของแชมป์โลก 9 สมัย วาเลนติโน่ รอสซี่ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการใหญ่ระดับเวิล์ดคลาส รายการ CEV Moto3 Junior World Championship แบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
วันนี้ เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ได้มีโอกาสไปเชียร์ติดขอบสนามที่เลอ มังส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่สเศส พร้อมสัมภาษณ์เจ้าของแชมป์เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมป์เปียนชิพ รุ่นเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ปี 2016 เกี่ยวกับเกมการแข่งขัน การเตรียมความพร้อม เพื่อลงแข่งในสนามระดับอินเตอร์ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
-สิ่งที่ได้รับจากการเข้าไปอยู่ในโครงการ VR46 The Master Camp
ประสบการณ์ใหม่ๆ ในเรื่องการบังคับรถ แนวทางการทำงานกับทีมงานฝรั่งทางฝั่งยุโรปที่เข้มงวด เขาเลือกโปรแกรมการฝึกให้ผม 2 แบบ คือโมโตรัน กับมินิไบท์ เพื่อเสริมทักษะในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
-อยู่ที่แคมป์อิตาลี ได้เจอรอสซี่ ไหม
เจอครับ เจอเขาแทบทุกวัน และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รอสซี่ได้แนะนำเรื่องต่างๆ ไม่ว่าการเทรนนิ่ง วิธีการขับขี่ของรถที่ใช้ในการแข่งขันของฝั่งยุโรป การเตรียมความพร้อมของร่างกาย เพราะเขาบอกว่าร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งรถ เพราะร่างกายจะช่วยนำพาเราให้ควบคุมรถไปได้ดีและเร็ว
-ได้ลงแข่งเป็นปีที่ 2 อยากให้พูดถึงความยาก-ง่าย ต่างกันอย่างไร
ปีนี้ค่อนข้างยาก เพราะสนามแรกเราไปแข่งที่ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นสนามที่ผมไม่เคยไปลองเลย สภาพแทร็กมีบั๊มเยอะ แทร็กก็เก่า เลยต้องทำงานอย่างหนัก และสุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุเอ็นข้อเท้าขาด ทำให้สนามสองที่สเปนเราไม่สามารถไปแข่งได้ แต่อย่างไรผมก็พยายามอย่างเต็มที่
ปีที่แล้วได้รับประสบการณ์มากมาย ปีนี้ก็คิดว่าจะทำผลงานให้ดีกว่าปีที่แล้ว จะปรับปรุงเรื่องการขับขี่และทักษะในการควบคุมรถ ปรับเซตรถกับทีมช่างให้มากที่สุด เพื่อนำผลงานที่ดีกลับไปฝากแฟนคลับชาวไทยครับ
-พอใจกับผลสนามนี้หรือไม่
วันนี้รู้สึกดีใจกับอันดับ 12 ที่ทำได้ เพราะเราได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 25 รอบแรกผมพยายามขึ้นไปให้เร็วที่สุด และเกาะกลุ่มหน้าไว้ แต่โชคร้ายดันมีรถล้มตัดหน้าไปทำให้เสียจังหวะในการไล่ตอนแรก และที่สำคัญเราโดนปรับกริดจากที่ 13 ลงไปที่ 25 เพราะมีรถช้าหลายคนขวางด้านหน้า ทำให้เราต้องชะลอเลยโดนลงโทษว่าตั้งใจชะลอให้รถช้าลง แต่โดยรวมก็ถือว่าน่าพอใจกับผลงานในสุดสัปดาห์นี้ การคว้าแต้มถือว่ามีผลต่อกำลังใจ และความมั่นใจมากขึ้นครับ
-เรื่องอาหารและสภาพอากาศมีผลไหม
เรื่องอาหาร ผมทานไม่ค่อยได้ มาที่นี่ก็พยายามหาอาหารเสริม พกอาหารถูกปากมาจากไทยด้วย เพราะผมทานอาหารของฝรั่งไม่ค่อยได้เลย ต้องหาอาหารไทยมาช่วย ส่วนสภาพอากาศที่หนาวมีผลกระทบเหมือนกัน เพราะเรามาจากเมืองร้อน พอเจอหนาว อากาศแห้ง สภาพแทร็กที่มันชื้น มันก็ยังไม่คุ้นเคยเท่าไร พยายามปรับตัวอยู่ครับ
-คู่แข่งในสนามเป็นอย่างไรบ้าง
ทุกคนเก่งหมด แต่เราไม่ยอมแพ้ ผมก็จะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าสนามยุโรปยาก-ง่ายต่างกัน ไม่สามารถตอบได้ เพราะทุกสนามมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป แต่ละสนามมีโค้งที่เป็นเสน่ห์ของสนามนั้น มันท้าทายทุกสนาม
-ปีนี้ตั้งเป้าไว้อย่างไร
ผมจะทำให้ดีที่สุด คือ ถ้าเราไปได้เราไปอยู่แล้ว ก็ตั้งเป้าไว้ 1 ใน 5 ต้องมีสนามหนึ่งที่เราทำได้ และนำผลงานกลับไปฝากแฟนๆ ในเมืองไทย
-เห็นได้ข่าวว่าเป็นหนึ่งในนักแข่งที่จะได้รับสิทธิ์ Wild Card สนามบุรีรัมย์ เดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เตรียมตัวอย่างไร
ตอนนี้พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวที Junior World Championship อยู่ จะนำเอาประสบการณ์ครึ่งฤดูกาลนี้ ไปใช้ในโฮมเรซของเราในประเทศไทย และการเข้าไปฝึกในโครงการ VR46 The Master Camp จะช่วยเสริมทักษะในการขับขี่ให้มากขึ้นด้วย และผมจะนำเอาไปใช้ในการแข่งขันที่จะมีขึ้นอย่างเต็มที่
-อัพเดทอาการบาดเจ็บ
อาการตอนนี้ก็หายประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ จากสนามที่แล้วข้อเท้าเอ็นขาด และล่าสุดรอบควอลิฟายก็ล้มอีก แต่เชื่อว่าสนามหน้าจะฟิตซ้อมเต็มที่และจะกลับมาให้สมบูรณ์เต็มร้อย
-ฝากถึงแฟนคลับชาวไทย
ขอบคุณที่ติดตามผม เชียร์ผม ในสนามนี้ผมทำเต็มที่แล้ว และจะพยายามปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากสนามนี้ พร้อมพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อจะเอาผลงานดีๆ ไปฝากคนไทยให้ได้ครับ
สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในรุ่นดาวรุ่ง รายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018 ดวลความเร็วสนาม 3 ของปี เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ณ สนามเลอ มังส์ เซอร์กิต ประเทศฝรั่งเศส “แสตมป์-อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” ดาวบิดไทยจาก วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ทีม ฝืนอาการบาดเจ็บลงดวลในศึก โมโตทรี จูเนียร์ ชิงแชมป์โลก คว้าอันดับ 12 เก็บแต้มในเกมระดับโลกได้อีกครั้ง จากกริดสตาร์ทที่ 25 ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้บนสนามระดับโลก.
