xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดปิกอัพ เทรนด์เปลี่ยน เครื่องเล็กมาแรง เข้าทางอีซูซุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยังคงถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย แม้ว่าบางปีจะมีสัดส่วนน้อยกว่าตลาดรถยต์นั่งไปบ้าง นั่นก็ด้วยปัจจัยพิเศษชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ เราก็จะได้เห็นสัดส่วนยอดขายของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยเฉพาะ รถปิกอัพ ที่ถือว่าเป็นโปรดักซ์แชมเปิ้ยนอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีการขายมากกว่ารถยนต์นั่ง ดังเช่นในปีที่ผ่านมา รวมถึงไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ด้วย

ซึ่งจากการรายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ เราจะเห็นสัดส่วนการขายที่ ไตรมาสแรกตลาดปิกอัพ มียอดขายรวม 102,893 คัน เทียบกับรถยนต์นั่งที่มียอดขายไตรมาสแรกรวม 90,131 คัน แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้งานรถปิกอัพของผู้บริโภคชาวไทยยังคงมีความนิยมสูงและเหนียวแน่น สมกับที่เป็นประเทศที่มียอดจำหน่ายรถปิกอัพสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวเท่านั้น
โทชิอากิ มาเอคาวะ

เมื่อมาวิเคราะห์เจาะลึกลงไปที่ตลาดของปิกอัพ เราจะเป็นตัวเลขการเปลี่ยนแปลงของผู้นำตลาด โดยในปีที่แล้ว อีซูซุ สามารถกลับขึ้นมาครองอันดับหนึ่งยอดขายตลาดรถปิกอัพได้อีกครั้ง และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สามารถทำยอดขายได้ 37,408 คัน เติบโตขึ้น 12% ครองอันดับหนึ่งตลาดรถปิกอัพ

ซึ่งเมื่อมองไปที่ตัวโปรดักซ์ อีซูซุ มิได้ออกรุ่นใหม่แต่ประการใด ยังคงทำตลาดด้วย “อีซูซุ ดีแม็กซ์”ซึ่งโฉมนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2554 หรือปี 2011 ราว 7 ปีแล้วที่ทำตลาดมา แล้วอะไรทำให้ อีซูซุ ดีแมกซ์ สามารถก้าวขึ้นมาสู่อันดับหนึ่งของตลาดรถปิกอัพ คำตอบของคำถามนี้อยู่ตรงนี้

“นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ ยอดขายปิกอัพอีซูซุเครื่องยนต์ 1.9 มีสัดส่วนถึง 90% เพราะลูกค้าเห็นสมรรถนะของรถ ประหยัดน้ำมันมากให้พลังสูง ขณะที่MU-X 1.9 มีสัดส่วน 70%” คำกล่าวของ โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่ตอบคำถามเรื่องของสัดส่วนการขายของรถปิกอัพอีซูซุ



ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่ตัว 1.9 ดีดีไอ นั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2558 หรือเมื่อราว 3 ปีที่แล้ว และที่ยังไม่เปรี้ยงปร้างทันที นั่นก็เนื่องมาจากว่า ความเชื่อดั้งเดิมของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะสายปิกอัพบรรทุก ที่ไม่ว่าอย่างไร เครื่องยนต์ต้องมีขนาดใหญ่ไว้ก่อน เพื่อกำลังที่ดี แต่ความเป็นจริง เทคโนโลยีของโลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว

อีซูซุ ใช้เวลาในการสื่อสารและทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างเข้มข้น จนกระทั่งลูกค้าที่ได้ทดลองใช้ อีซูซุ เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร นั้นมีการบอกต่อกัน ประกอบกับการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าเดิมอย่างใกล้ชิดของอีซูซุ เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าเปลี่ยนรถใหม่ ลูกค้าของอีซูซุจึงยังคงกลับมาหาอีซูซุ เหมือนเช่นเดิมยืนยันด้วยคำกล่าวของประธานกลุ่มอีซูซุ

“ที่ผ่านมาอีซูซุไม่ได้เน้นเรื่องส่วนแบ่งตลาด เพราะมีฐานลูกค้าที่มีความจงรักภักดีสูง จึงให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าให้เขาพอใจ เพราะคนที่ตัดสินใจซื้อรถ คือ ลูกค้า ดังนั้น ส่วนแบ่งตลาดเป็นผลลัพธ์ของความพยายามของเราเท่านั้นเอง เราจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าพอใจและกลับมาซื้อซ้ำรวมถึงบอกต่อ เราไม่ได้ต้องการรักษาส่วนแบ่งตลาด แต่เราจะรักษาความพึงพอใจของลูกค้าของเรา” โทชิอากิ มาเอคาวะกล่าว






ขณะที่ลูกค้ารายใหม่ เมื่อทราบถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ที่ไมได้เล็กไปตามขนาด ด้วยกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ 2.5Ddiเดิมถึง 60 กก. ทำให้บรรทุกของได้น้ำหนักมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับลูกค้าโดยตรง อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการเปิดตัวเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร มีคำถามและข้อสงสัยตามมามากมาย แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ตัวเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า มีประสิทธิภาพเพียงใดดังนั้น ผลลัพทธ์จึงแสดงออกมาด้วยยอดขายที่ อีซูซุ ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้

ถึงบรรทัดนี้ ทำให้เราพอจะมองเห็นกระแสพฤติกรรมการเลือกซื้อรถของผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ในตลาดปิกอัพยังคงมองที่ความประหยัดและสมรรถนะในการบรรทุกเป็นหัวใจสำคัญรวมถึงการบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมจึงจะสามารถมัดหัวใจของผู้บริโภคชาวไทยเอาไว้ได้

สำหรับการคาดการณ์ อีซูซุมองว่าตลาดรถยนต์รวมของไทยปีนี้จะอยู่ที่ 900,000 คัน แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น เรื่องการส่งออก แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของโลก และอัตราหนี้สินครัวเรือนที่สูงมากของไทยซึ่งอาจทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของตลาด

ส่วนเป้าหมาย ปีนี้อีซูซุคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดราว 18% ของตลาดรถรวมเท่ากับปีก่อนๆ ที่เคยได้ แต่ถ้าเฉพาะตลาดปิกอัพ อีซูซุมีส่วนแบ่งตลาด 36.3% โดยหวังจะรักษาระดับนี้เอาไว้ให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแบรนด์อื่นย่อมอยากเพิ่มส่วนแบ่ง ดังนั้นการแข่งขันจึงรุนแรง ทั้งด้านราคา และกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขาย เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก พร้อมส่วนลดต่างๆอย่างจุใจ เวลานี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้บริโภคในการต่อรองกับเซลล์เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด







กำลังโหลดความคิดเห็น