ช่วงนี้ต้องบอกเลยว่าซูซูกิมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอัพเดทตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะคิวต่อไปที่รอเปิดตัวต่อจากโฉมใหม่ของ Swift คือ ความอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่งจากอินโดนีเซียอย่างรุ่น เออร์ติกา (Ertiga) ซึ่งซูซูกิ เออร์ติกา อเนกประสงค์ใหม่ลุยตลาดไทยกลางปีนี้ มีการเผยรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ออกมาแล้วในงานอินโดนีเซีย มอเตอร์โชว์ และบ้านเราน่าจะทำตลาดช่วงกลางปีค่อนมาทางปลายปีนี้อย่างแน่นอน
สำหรับ เออร์ติกา เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ในสไตล์มินิแวนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตลาดในแถบอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และก็รวมถึงประเทศเรา ซึ่งรุ่นแรกเปิดตัวขายในตลาดเหล่านี้มาตั้งแต่ปี 2012 พร้อมตัวถังแบบ 5 ประตูที่มีเบาะนั่ง 3 แถว และรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง สำหรับรุ่นใหม่ถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 และเปิดตัวเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมหน้าตาสดใหม่ทั้งคัน
การพัฒนามีขึ้นบนพื้นตัวถัง HEARTECT รุ่นใหม่แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน Swift รุ่นปัจจุบันแต่มีการยืดระยะฐานล้อออกมาเป็น 2,740 มิลลิเมตร โดยตัวถังมีความยาว 4,395 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 130 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างและความสูงอยู่ที่ 1,735 และ 1,690 มิลลิเมตรตามลำดับ ซึ่งก็เพิ่มขึ้น 40 และ 5 มิลลิเมตรตามลำดับ
ในแง่ของหน้าตานั้นได้รับการออกแบบให้ดูสวยและทันสมัยขึ้น โดยเฉพาะไฟหน้าทรงเหลี่ยมยาวที่ถูกออกแบบให้รับกับกระจังหน้าทรงเหกลี่ยมขนาดใหญ่ที่ยาวจนถึงกันชนหน้า ขณะที่บนฝากระโปรงหน้ามีการเล่นสันเหลี่ยมและยกสูง ซึ่งช่วยให้ตัวรถดูสปอร์ตและบึกบึนขึ้น ส่วนด้านท้ายมีการออกแบบให้ไฟท้ายมีลักษณะคล้ายตัว L และเน้นเส้นสายที่มีเหลี่ยมสันมากขึ้น เรียกว่าดูสวยและลงตัวขึ้นจากรุ่นเดิม
สำหรับภายใน จุดเด่นอยู่ที่ความกว้างขวางของห้องโดยสาร ซึ่งถ้าอยากบรรทุกคน ก็รองรับได้กับเบาะนั่ง 3 แถวแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งยังพอเหลือที่ให้บรรทุกในระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการบรรทุกสัมภาระจริงๆ และพับทั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ลง ตัวเลขของความจุจะเพิ่มขึ้นเป็น 803 ลิตรเลยทีเดียว
ในตลาดอินโดนีเซีย มีทางเลือกกับขุมพลังในรหัส K-Series ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ 4 สูบ 1,500 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ที่มีกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 14.1 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติ 4 จังหวะสู่การขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนบ้านเราก็น่าจะใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน
ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม โดยใช้ดิสก์หน้าและดรัมหลัง บวกกับล้อและยางขนาด 185/65R15 มีรัสมีวงเลี้ยวแคบสุด 5 เมตร
เปิดตัวแล้วก็จริง แต่การเริ่มรับจองในอินโดนีเซียจะมีขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ โดยราคายังไม่เปิดเผย บอกแค่ว่าใครที่สนใจต้องเสียเงินจองราวๆ 5 ล้านรูเปียห์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 110,000 บาท ส่วนอินเดียจะเป็นตลาดต่อไปที่เปิดขาย โดยจะเริ่มที่เดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งบ้านเราก็น่าจะมาในช่วงเวลานี้
