นิสสัน ลีฟ เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10% ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างนิสสัน ลีฟ มียอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลก
ยอดขายของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในปีงบประมาณที่พึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังจากที่มีการเปิดตัว นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ เป็นที่น่าจับตามองทั้งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังขยายตลาดไปสู่ ลาตินอเมริกา เอเซีย และโอเชียเนียต่อไป
นายแดเนียล สกิลลาชี รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ กล่าวว่า “นิสสันมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตทั่วโลกคือ ข้อพิสูจน์ถึงความความเป็นผู้นำ และผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ผลตอบรับอันน่าทึ่งต่อรถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกอย่าง นิสสัน ลีฟ นำมาซึ่งยอดขายที่แข็งแกร่งของนิสสันในปี 2017 นิสสัน ลีฟ คือรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายอันดับหนึ่งในโลก สามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้มากที่สุด โดยนิสสันคาดว่าลีฟจะยังคงครองแชมป์ต่อไปในปี 2018”
ในปีงบประมาณ 2017 มีลูกค้าซื้อรถนิสสัน ลีฟ ทั้งหมด 54,451 คันซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 15% จาก 47,423 คัน จากปีก่อน นิสสันได้จำหน่ายลีฟไปแล้วกว่า 320,000 คันตั้งแต่มีการเปิดตัวรถรุ่นแรกในปี 2010
นิสสัน ลีฟ ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT (ProPILOT Assist สำหรับตลาดของสหรัฐอเมริกา) ProPILOT Park และ e-Pedal รวมถึง สมรรถนะและระยะทางในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นโดยจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล ชิลี จีน โคลอมเบีย คอสตาริกา เอกวาดอร์ ฮ่องกง มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เปอร์โตริโก สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย และอุรุกวัย เร็วๆ นี้
ทั้งนี้ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากโครงการประเมินรถยนต์ใหม่ในญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติหรือ ProPILOT ช่วยให้นิสสันลีฟได้คะแนนไป 94.8 จาก 100 คะแนนเต็มในด้านความปลอดภัยในยานยนต์ เมื่อเกิดการชน
นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างรถยนต์ทีแข็งแรง ถุงลมนิรภัยหกใบ เบาะนั่งแบบมีที่รองรับการกระแทกของศีรษะ และโครงหลัง รวมถึง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และหลัง และยังได้รับรางวัล รถยนต์สีเขียวระดับโลกปี 2018 หรือ 2018 World Green Car จาก World Car Award เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย