xs
xsm
sm
md
lg

สกู๊ตเตอร์เดือด “ญี่ปุ่น-ยุโรป” เสริมทัพรุกตลาดเต็มพิกัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ร้อนกว่าสภาพอากาศช่วงนี้ต้องยกให้ตลาดสกู๊ตเตอร์ในเมืองไทย หลังสามค่ายใหญ่จากแดนปลาดิบ “ฮอนด้า-ยามาฮ่า-ซูซูกิ” ต่างเดินหน้าเสริมทัพตัวเลือกใหม่หวังชิงส่วนแบ่งในตลาด ขณะที่แบรนด์ดังฝั่งยุโรปไม่น้อยหน้า “เวสป้า-พิอาจิโอ-รอยัล อัลลอย” เติมความระอุจัดชุดใหญ่ ส่งโมเดลใหม่ผสมรุ่นพิเศษพร้อมแข่งขันเต็มพิกัดในกลุ่มพรีเมียม

เช็กเรตติ้งความนิยมตลาดรถจักรยานยนต์ในบ้านเรา หลังเพิ่งผ่านพ้นงานใหญ่ประจำไตรมาสแรกอย่างมอเตอร์โชว์ 2018 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มสองล้อสไตล์สปอร์ตน่าจะมาแรง ตามกระแสแรงฉุดจากศึกดวลความเร็วโมโตจีพีที่เตรียมจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย

ทว่าเมื่อมองภาพรวมของการจัดงานในปีนี้ กลับเป็นเซกเม้นต์ออโตเมติกหรือที่เรียกติดปากกันว่าสกู๊ตเตอร์ เข้ามาขโมยซีนรับบทเด่นเป็นพระเอกไปอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ว่า “เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง” จึงรวบรวมความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนข้อสันนิษฐานดังกล่าว

เริ่มจากค่ายปีกนก “ฮอนด้า” หลายคนคงได้ยลโฉมไปแล้ว สำหรับพีซีเอ็กซ์ อิเล็กทริก(PCX Electric) และพีซีเอ็กซ์ ไฮบริด (PCX Hybrid) สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและไฮบริด แต่นั่นยังเป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องรอคิวการทำตลาดอย่างเป็นทางการต่อไป

ขณะที่รถใหม่เป็นเรือธงน่าสนใจและพร้อมขายทันที คือ ออล นิว ฮอนด้า ฟอร์ซ่า(All New Honda FORZA) ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “For the Great Prestige” ชูความหรูหราเหนือระดับ ครบครันด้วยฟังก์ชั่นทันสมัย กระจกบังลมหน้าระบบไฟฟ้าปรับระดับได้ ระบบไฟ Full LED รอบคัน กระจกมองข้างพับได้พร้อมไฟเลี้ยวไฟหรี่ในตัว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี HSTC หรือแทร็กชั่นคอนโทรล ควบคุมล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กันเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น เปิดตัวด้วยราคาแนะนำ 169,000 บาท

ขยับมาที่ค่ายส้อมเสียง “ยามาฮ่า” ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์รถออโตเมติกของเมืองไทย งานนี้แตกไลน์อัพเปิดตัวโมเดลใหม่ นิว ยามาฮ่า เล็กซ์ซี่(New Yamaha LEXi) พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์น้องใหม่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำ นำโดยระบบ Start & Stop System, ไฟหน้า LED ขนาดใหญ่, หน้าปัดดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบ FULL LCD DIGITAL METER, ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key Immobilizer พร้อมสุดยอดเทคโนโลยี VVA ในเครื่องยนต์ BLUE CORE ขนาด 125 ซีซี. เตรียมเคาะราคาและทำตลาดเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกันสำหรับการขยายไลน์อัพดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดยามาฮ่ามีจำนวนรุ่นสกู๊ตเตอร์พิกัดไม่เกิน 150 ซีซี. มากที่สุดในท้องตลาด คนรักออโตเมติกรักชอบสไตล์ไหน ค่ายนี้มีตัวเลือกครบว่างั้นเถอะ



ส่วนอีกหนึ่งค่ายจากแดนปลาดิบ “ซูซูกิ” มีรถใหม่ที่นำมาเปิดตัวแต่ยังไม่เผยคิวการทำตลาดเช่นกัน นั่นคือ ซูซูกิ แอดเดรส(Suzuki Address) ออโต้ไซส์เล็กกะทัดรัด ขุมพลัง 110 ซีซี. แม้ดูจากฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงเทคโนโลยีที่ติดตั้งมาให้ อาจยังไม่โดดเด่นโดนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ใช่ว่าจะมองข้ามง่ายๆ เพราะไม่แน่อาจมีทีเด็ดอยู่ที่ราคาค่าตัวก็เป็นได้

ข้ามมาส่องความเคลื่อนไหวฝั่งแบรนด์ยุโรป “เวสป้า” นำโฉมใหม่ เวสป้า สปริ๊นท์ 150 ไอ-เก็ท คาร์บอน อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get Carbon Edition) มาเปิดตัวหวังเอาใจคนรักสไตล์สปอร์ต จับคู่กับชุดของพรีเมี่ยมออกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อกสีเข้าคู่กับตัวรถ กระเป๋าเป้ หมวกแก๊ป ผ้าบัฟ และพวงกุญแจ ราคา 129,000 บาท

ทางด้านแบรนด์เก่าแก่ในเครืออย่าง “พิอาจิโอ” มีเวอร์ชั่นพิเศษมาเพิ่มความสดใหม่เช่นกัน สำหรับ พิอาจิโอ เมดเลย์ สเปเชียล อิดิชั่น (Piaggio Medley Special Edition) ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีขั้นสูงและการออกแบบที่เรียบหรูคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์งานดีไซน์แบบอิตาลี เปิดตัว 2 สีสุดพิเศษ คือ สีเงินด้าน และสีดำด้าน จำหน่ายในราคา 127,900 บาท


ในปีนี้นอกจากยี่ห้อที่นักบิดไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว ยังมีตัวเลือกน้องใหม่สัญชาติอังกฤษ “รอยัล อัลลอย”(Royal Alloy) ที่มาเปิดตัวครั้งแรกสร้างความฮือฮาไม่น้อย นำร่องการทำตลาดด้วยสองโมเดลที่ใช้พื้นฐานโครงสร้างเดียวกัน ต่างกันที่ขุมพลังเครื่องยนต์และระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ได้แก่ จีพี150(GP150) สูบเดียว 4 จังหวะ ปริมาตรกระบอกสูบ 149 ซีซี. แบบคาร์บูเรเตอร์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขาย 98,000 บาท

ตามด้วยอีกโมเดลขยับความแรงเป็นพิกัด 200 ซีซี. รุ่นจีพี200 เอส(GP200 S) เครื่องยนต์แบบสูบเดียว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ควบคุมการจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ มาพร้อมระบบเบรก ABSราคา 158,000 บาท

อย่างไรก็ตามแม้ชื่อไม่คุ้นหูแต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วก็คุ้นตา เพราะที่มาที่ไปของแบรนด์นี้ คือ อดีตพันธมิตรทางธุรกิจกับสกู๊ตเตอร์สัญชาติเดียวกันอย่าง “สโกมาดิ” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างนักลงทุนชาวไทยและจีน โดยมีแผนเข้ามาตั้งโรงงานผลิตของตัวเองในไทย และเบื้องต้นลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเช่าพื้นที่ขึ้นไลน์การประกอบที่โรงงานอมตะนคร จังหวัดชลบุรี รองรับตลาดในประเทศและส่งออกไปทำตลาดที่อังกฤษ

ทั้งนี้ สำหรับคิวการส่งมอบรถทั้งสองรุ่นให้กับลูกค้าล๊อตแรกที่จองภายในงานมอเตอร์โชว์ 2018 จะทยอยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม นี้ เป็นต้นไป

ไตรมาสแรกเพิ่งผ่านพ้นไปหยกๆ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร นี่แค่ยกที่หนึ่งเท่านั้น เชื่อเถอะว่าตลาดสกู๊ตเตอร์ในบ้านเรายังร้อนแรงได้อีก เหมือนสภาพอากาศนั่นแหละ!


กำลังโหลดความคิดเห็น